วิธีเช็กว่า เรารวยขึ้นหรือจนลง แบบไม่มโน
Economy

วิธีเช็กว่า เรารวยขึ้นหรือจนลง แบบไม่มโน

30 ม.ค. 2023
วิธีเช็กว่า เรารวยขึ้นหรือจนลง แบบไม่มโน /โดย ลงทุนเกิร์ล
เคยสงสัยไหมว่า 1 ปีที่ผ่านมา เรารวยขึ้นหรือจนลง ?
ถ้าสำรวจเงินในบัญชี กับทรัพย์สินรอบตัวของเราแล้ว
แต่ก็ยังตอบคำถามนี้ไม่ได้แบบชัดเจน
ลงทุนเกิร์ลจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ความมั่งคั่งสุทธิ”
ตัวช่วยที่ทำให้เราสามารถเห็นได้ว่า แท้จริงแล้วเรารวยขึ้นหรือจนลง เมื่อเทียบกับตัวเองในอดีต แบบไม่ต้องจินตนาการไปเอง
ความมั่งคั่งประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
และมีวิธีการคำนวณอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะสรุปให้ฟัง
ความมั่งคั่งสุทธิ (Net Wealth) อธิบายง่าย ๆ ก็คือ
ทรัพย์สินของเรา เมื่อหักลบกับหนี้สินแล้ว
จะเหลือเป็นความมั่งคั่ง หรือความรวยที่เรามี
ซึ่งวิธีนี้ไม่ได้นำไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
แต่จะคำนวณจากตัวเลขทางการเงินของเราเอง
โดยใช้สมการเบื้องต้น คือ
“ทรัพย์สินทั้งหมด - หนี้สินทั้งหมด = ความมั่งคั่งสุทธิ”
แน่นอนว่า ยิ่งได้ตัวเลขความมั่งคั่งสุทธิมากเท่าไร
ก็ยิ่งแสดงว่าฐานะทางการเงิน เข้มแข็งมากเท่านั้น
แต่อันดับแรก ต้องจำแนกให้ได้ก่อนว่า
อะไรคือทรัพย์สิน และ อะไรคือหนี้สิน ?
โดย “ทรัพย์สิน” นอกจากจะหมายถึง เงินสด แล้ว
ก็ยังครอบคลุมถึงสิ่งของที่มีมูลค่าทุกอย่างที่มี เช่น
-สินทรัพย์สภาพคล่อง
หมายถึง เงินหรือการลงทุนที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ง่าย และไม่เสียมูลค่ามากนัก เช่น เงินฝากในบัญชีออมทรัพย์, ทองคำ, สลากออมทรัพย์, กองทุนรวมตลาดเงิน
-สินทรัพย์เพื่อการลงทุน
ที่ให้ผลตอบแทนออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งดอกเบี้ย หรือเงินปันผล เช่น การลงทุนในหุ้นสามัญ, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
-สินทรัพย์ส่วนตัวที่มีมูลค่า
เช่น บ้าน, คอนโดมิเนียม, รถยนต์, นาฬิกา หรือของสะสม
-รวมไปถึงทรัพย์สินที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้
เช่น ค่าลิขสิทธิ์จากผลงานต่าง ๆ
โดยสิ่งสำคัญในการคำนวณก็คือ มูลค่าของทรัพย์สิน จะต้องบันทึกตามราคาตลาด ณ เวลาที่เราประเมินความมั่งคั่งสุทธิ
ในส่วนของ “หนี้สิน” ก็อย่างเช่น ยอดค้างบัตรเครดิต, เงินกู้ยืมซื้อบ้าน หรือซื้อรถ
และเมื่อนำทรัพย์สินทั้งหมด มาหักออกด้วยหนี้สินทั้งหมด
ก็จะได้ทราบ “ความมั่งคั่งสุทธิ”
เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ลองดูตัวอย่างการเปรียบเทียบ
ความมั่งคั่งสุทธิของนางสาว A ในปี 2021 และปี 2022
ทรัพย์สินและมูลค่าในปี 2021
-เงินฝากออมทรัพย์ 20,000 บาท
-ทองคำน้ำหนัก 1 บาท มูลค่า 25,000 บาท
-คอนโดมิเนียมที่ยังผ่อนไม่หมด แต่มีมูลค่าตามตลาดที่ 1,200,000 บาท
-รถยนต์ป้ายแดงราคา 600,000 บาท ที่หากนำไปขายต่อ จะมีมูลค่า 550,000 บาท
รวมทรัพย์สิน 20,000 + 25,000 + 1,200,000 + 550,000
เท่ากับ 1,795,000 บาท
หนี้สิน
-รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด เหลือส่วนที่ต้องผ่อนกับไฟแนนซ์อีก 500,000 บาท
-จากคอนโดมิเนียมราคา 1,200,000 บาท ยังเหลือส่วนที่ต้องผ่อนกับธนาคารอีก 600,000 บาท
รวมหนี้สิน 500,000 + 600,000
เท่ากับ 1,100,000 บาท
แปลว่า ความมั่งคั่งสุทธิของนางสาว A ในปี 2021
เท่ากับ 1,795,000 - 1,100,000
หรือ 695,000 บาท
ต่อมาในปี 2022
นางสาว A ผ่อนคอนโดมิเนียม และรถยนต์มากขึ้น
รวมถึงมูลค่าตลาดของทรัพย์สินก็เปลี่ยนไปด้วย
ทำให้สามารถคำนวณ ความมั่งคั่งสุทธิ ได้ดังนี้
ทรัพย์สินและมูลค่าในปี 2022
-เงินฝากออมทรัพย์ 40,000 บาท
-ทองคำน้ำหนัก 1 บาท มีมูลค่าเท่ากับ 30,000 บาท
-คอนโดมิเนียม ที่มีมูลค่าตามตลาดอยู่ที่ 1,300,000 บาท
-รถยนต์ ที่หากนำไปขายต่อ จะมีมูลค่า 450,000 บาท
รวมทรัพย์สิน 40,000 + 30,000 + 1,300,000 + 450,000
เท่ากับ 1,820,000 บาท
หนี้สิน
-รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด เหลือส่วนที่ต้องผ่อนไฟแนนซ์อีก 370,000 บาท
-หนี้บัตรเครดิต 30,000 บาท
-ไม่มีหนี้สินคอนโดมิเนียมแล้ว
รวมหนี้สิน 370,000 + 30,000
เท่ากับ 400,000 บาท
แปลว่า ความมั่งคั่งสุทธิของนางสาว A ในปี 2022
เท่ากับ 1,820,000 - 400,000
หรือ 1,420,000 บาท
จากตัวอย่าง ความมั่งคั่งสุทธิของนางสาว A
ปี 2021 เท่ากับ 695,000 บาท
ปี 2022 เท่ากับ 1,420,000 บาท
หมายความว่า นางสาว A มีความมั่งคั่งสุทธิเพิ่มขึ้น 725,000 บาทใน 1 ปี
สะท้อนว่า ความมั่นคงทางการเงินอยู่ในระดับที่สูงขึ้น หรือจะเรียกง่าย ๆ ว่า “รวยขึ้น” เมื่อเทียบกับตัวเองในปีก่อนหน้า นั่นเอง
จากตัวอย่างนี้ เรายังสามารถบอกได้อีกว่า
แม้ทรัพย์สิน จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
แต่หากหนี้สิน มีจำนวนลดน้อยลง
ก็ทำให้ ความมั่งคั่งสุทธิ เพิ่มมากขึ้นได้
ในทางกลับกัน บางครั้งเราอาจจะเห็นว่า ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากมาย
แต่เบื้องหลัง อาจจะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นในจำนวนที่มากกว่า
นั่นก็หมายความว่า ความมั่งคั่งสุทธิลดลง
หรือดูเหมือนว่า เรารวยขึ้นแบบหลอกตา
อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งสุทธิ เป็นเพียงการฉายให้เห็นสถานะทางการเงินของเรา ในปัจจุบันเท่านั้น
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ รายรับจากการทำงาน และการวางแผนการลงทุนที่จะสามารถต่อยอดความมั่งคั่งให้กับเราได้ในอนาคต
รวมถึงการบริหารสภาพคล่องที่ดี ก็จะทำให้เรารักษาความมั่งคั่งเอาไว้ได้อย่างมั่นคง
เพราะถึงแม้เราจะมีทรัพย์สินมากมาย
แต่ในบางครั้ง การขาดสภาพคล่อง อาจทำให้เราต้องขายทรัพย์สินออกมา ในราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
และทำให้เราสูญเสียความมั่งคั่ง ที่สั่งสมมานาน ได้เช่นกัน..
--------------------------------------------------
(ad)กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA
--------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.