FashionBusiness
Jacquemus แบรนด์หรู ที่ก่อตั้งโดยดิไซเนอร์ วัย 19 ปี
8 เม.ย. 2023
เมื่อวันก่อน บางคนอาจจะเคยเห็นคลิปที่กำลังเป็นไวรัล ในวงการแฟชั่น
ซึ่งเป็นคลิป “กระเป๋ายักษ์” สีสดใส วิ่งบนถนนใจกลางกรุงปารีส
ซึ่งเป็นคลิป “กระเป๋ายักษ์” สีสดใส วิ่งบนถนนใจกลางกรุงปารีส
โดยผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้ คือ Jacquemus แบรนด์แฟชั่นจากฝรั่งเศส
ที่ได้ทำแคมเปญการตลาดสุดสร้างสรรค์ ด้วยการเนรมิตกระเป๋ารุ่นไอคอนิก Le Bambino หลากหลายสี ให้กลายเป็นกระเป๋า 3D ขนาดเท่ารถบัส วิ่งโลดแล่นบนถนนในเมืองปารีส
ที่ได้ทำแคมเปญการตลาดสุดสร้างสรรค์ ด้วยการเนรมิตกระเป๋ารุ่นไอคอนิก Le Bambino หลากหลายสี ให้กลายเป็นกระเป๋า 3D ขนาดเท่ารถบัส วิ่งโลดแล่นบนถนนในเมืองปารีส
และถือว่าแคมเปญสุดแหวกแนวนี้ ประสบความสำเร็จไม่น้อย
เพราะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นจำนวนมาก หลังจากที่คลิปดังกล่าว เกิดเป็นไวรัลในโลกโซเชียล
เพราะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นจำนวนมาก หลังจากที่คลิปดังกล่าว เกิดเป็นไวรัลในโลกโซเชียล
ใครยังไม่เคยเห็นคลิปนั้นผ่านตา สามารถดูได้ที่นี่ > https://www.instagram.com/p/CqqCfr-uovy/
แต่นอกจากแคมเปญการตลาดนี้แล้ว เรื่องราวของแบรนด์ Jacquemus ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน
รู้หรือไม่ว่า Jacquemus ถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่กำลังมาแรง ทั้ง ๆ ที่มีอายุเพียง 14 ปี เท่านั้น
รู้หรือไม่ว่า Jacquemus ถือเป็นแบรนด์น้องใหม่ ที่กำลังมาแรง ทั้ง ๆ ที่มีอายุเพียง 14 ปี เท่านั้น
ซึ่งถ้าเราเปิดดูรายชื่อแบรนด์หรูที่มีอยู่มากมาย
ก็จะพบว่าแบรนด์หรูส่วนใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จ มักจะมีอายุเป็นร้อย ๆ ปี เช่น
ก็จะพบว่าแบรนด์หรูส่วนใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จ มักจะมีอายุเป็นร้อย ๆ ปี เช่น
HERMÈS อายุ 186 ปี
Louis Vuitton อายุ 169 ปี
CHANEL อายุ 113 ปี
PRADA อายุ 110 ปี
GUCCI อายุ 102 ปี
Louis Vuitton อายุ 169 ปี
CHANEL อายุ 113 ปี
PRADA อายุ 110 ปี
GUCCI อายุ 102 ปี
แล้วเรื่องราวของแบรนด์ Jacquemus น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ล จะเล่าให้ฟัง
ลงทุนเกิร์ล จะเล่าให้ฟัง
แบรนด์ Jacquemus อ่านว่า “ฌักมูส”
ก่อตั้งโดยดิไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า Simon Porte Jacquemus
ก่อตั้งโดยดิไซเนอร์ชาวฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า Simon Porte Jacquemus
โดยเขาได้เริ่มสร้างแบรนด์นี้ขึ้นในปี 2009
ซึ่งในขณะนั้น เขามีอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น
ซึ่งในขณะนั้น เขามีอายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น
ต่อมาในปี 2011 เขาก็ได้หาประสบการณ์เพิ่มด้วยการเข้าทำงานที่แบรนด์ Comme des Garçons
แต่ก็ยังคงทำแบรนด์ของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
แต่ก็ยังคงทำแบรนด์ของตัวเองไปพร้อม ๆ กัน
และในปี 2015 เขาได้เข้าร่วมการแข่งขัน ดิไซเนอร์รุ่นเยาว์
ที่จัดขึ้นโดยบริษัท LVMH เจ้าของพอร์ตแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลก ที่ครอบครองทั้ง Louis Vuitton, Dior และ Celine
ที่จัดขึ้นโดยบริษัท LVMH เจ้าของพอร์ตแบรนด์หรูที่ใหญ่สุดในโลก ที่ครอบครองทั้ง Louis Vuitton, Dior และ Celine
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้
แต่ทาง LVMH ที่เห็นบางอย่างในตัวเขา ก็ได้ตัดสินใจมอบรางวัลพิเศษให้
ซึ่งเป็นเงินจำนวน 5.5 ล้านบาท พร้อมทีมที่ปรึกษาของ LVMH ที่จะคอยให้คำแนะนำตลอดหนึ่งปีเต็ม
แต่ทาง LVMH ที่เห็นบางอย่างในตัวเขา ก็ได้ตัดสินใจมอบรางวัลพิเศษให้
ซึ่งเป็นเงินจำนวน 5.5 ล้านบาท พร้อมทีมที่ปรึกษาของ LVMH ที่จะคอยให้คำแนะนำตลอดหนึ่งปีเต็ม
ในปี 2018 ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของเขา ก็มาพร้อมกับคอลเลกชัน La Bomba
ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่สร้างชื่อจากคอลเลกชันนี้ก็คือ “หมวกฟาง” ที่มีขนาดใหญ่เกือบครึ่งตัวของผู้ใส่
ซึ่งหนึ่งในสินค้าที่สร้างชื่อจากคอลเลกชันนี้ก็คือ “หมวกฟาง” ที่มีขนาดใหญ่เกือบครึ่งตัวของผู้ใส่
โดยคอลเลกชัน La Bomba นี้ ก็ได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม
จนทำให้ยอดขายของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เท่าตัว
จนทำให้ยอดขายของแบรนด์เพิ่มสูงขึ้นถึง 2 เท่าตัว
ในตอนนี้ดูเหมือนว่า คุณ Simon Porte Jacquemus จะเริ่มจับทางได้แล้วว่า ผู้คนชอบสินค้าแนวไหน
เพราะต่อมาในปี 2019 เขาก็ได้สร้างความฮือฮาให้โลกแฟชั่นอีกครั้ง
ด้วยการเปิดตัวกระเป๋ารุ่น “Le Mini Chiquito” ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว ยิ่งกว่าฝ่ามือคน
เพราะต่อมาในปี 2019 เขาก็ได้สร้างความฮือฮาให้โลกแฟชั่นอีกครั้ง
ด้วยการเปิดตัวกระเป๋ารุ่น “Le Mini Chiquito” ที่มีขนาดเล็กจิ๋ว ยิ่งกว่าฝ่ามือคน
แม้ว่ากระเป๋าจะเล็ก จนไม่รู้ว่าจะเอาไว้ใส่อะไร
แต่เรื่องที่น่าทึ่งก็คือ กระเป๋ารุ่นนี้ กลับกลายเป็นสินค้าที่ขายดีของแบรนด์
และยังทำให้ใครหลายคนจดจำแบรนด์ Jacquemus ได้
แต่เรื่องที่น่าทึ่งก็คือ กระเป๋ารุ่นนี้ กลับกลายเป็นสินค้าที่ขายดีของแบรนด์
และยังทำให้ใครหลายคนจดจำแบรนด์ Jacquemus ได้
ที่สำคัญคือ ในตอนนั้น กระเป๋าในรุ่น Le Chiquito ทุกขนาด สามารถทำยอดขายรวมกัน เป็นสัดส่วนกว่า 30-40% ของรายได้ทั้งหมด
และต่อมา แบรนด์ก็ได้เปิดตัวกระเป๋ารุ่นใหม่ ที่กลายมาเป็นอีกหนึ่งไอคอนิกของแบรนด์ ซึ่งนั่นคือ รุ่น Le Bambino
นอกจากเรื่องของดิไซน์สินค้า ที่สร้างกระแสมาได้ตลอดแล้ว
แบรนด์ Jacquemus ยังมีวิธีการจัดแฟชั่นโชว์ที่ไม่เหมือนใคร
จนเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อยู่เป็นประจำ
แบรนด์ Jacquemus ยังมีวิธีการจัดแฟชั่นโชว์ที่ไม่เหมือนใคร
จนเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์อยู่เป็นประจำ
เช่น ปี 2019 ที่มีการจัดแฟชั่นโชว์ ในทุ่งลาเวนเดอร์
พร้อมกับรันเวย์ที่ปูด้วยพรมสีชมพู อยู่กลางทุ่ง
พร้อมกับรันเวย์ที่ปูด้วยพรมสีชมพู อยู่กลางทุ่ง
หรือปี 2020 แบรนด์ Jacquemus ได้จัดแฟชั่นโชว์ในทุ่งข้าวสาลี
ที่ทำรันเวย์คล้ายเกลียวคลื่น พร้อมกับที่นั่งของผู้ชมที่อยู่ระหว่างต้นข้าวสาลี
ที่ทำรันเวย์คล้ายเกลียวคลื่น พร้อมกับที่นั่งของผู้ชมที่อยู่ระหว่างต้นข้าวสาลี
ซึ่งกระแสของแบรนด์ Jacquemus ที่ดูจะมาแรงไม่หยุด
ส่งผลให้ในปี 2020 ที่ผ่านมา The Lyst Index ได้จัดอันดับให้แบรนด์ Jacquemus
เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นยอดฮิตระดับโลก ตลอดทั้งปี
ส่งผลให้ในปี 2020 ที่ผ่านมา The Lyst Index ได้จัดอันดับให้แบรนด์ Jacquemus
เป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นยอดฮิตระดับโลก ตลอดทั้งปี
ไตรมาสที่ 1 อยู่ในอันดับที่ 15
ไตรมาสที่ 2 และ 3 อยู่ในอันดับที่ 11
ไตรมาสที่ 4 อยู่ในอันดับที่ 13
ไตรมาสที่ 2 และ 3 อยู่ในอันดับที่ 11
ไตรมาสที่ 4 อยู่ในอันดับที่ 13
นอกจากเรื่องของการออกแบบที่น่าสนใจแล้ว
เรื่องการตั้งราคาสินค้าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
เรื่องการตั้งราคาสินค้าก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
โดยราคาสินค้าของแบรนด์ Jacquemus จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 13,000 - 56,000 บาท
ซึ่งถือเป็นช่วงราคาที่ไม่ได้ถูก แต่ก็ไม่ได้สูงมากนัก หากเทียบกับแบรนด์ Luxury อื่น ๆ
ซึ่งถือเป็นช่วงราคาที่ไม่ได้ถูก แต่ก็ไม่ได้สูงมากนัก หากเทียบกับแบรนด์ Luxury อื่น ๆ
เหตุผลที่คุณ Simon Porte Jacquemus กำหนดราคาไว้ประมาณนี้
ก็เป็นเพราะเขาตั้งใจสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูหรูหรา
แต่ยังคงมีราคาที่สอดคล้องไปกับแบรนด์ร่วมสมัยอื่น ๆ
ก็เป็นเพราะเขาตั้งใจสร้างภาพลักษณ์ให้แบรนด์ดูหรูหรา
แต่ยังคงมีราคาที่สอดคล้องไปกับแบรนด์ร่วมสมัยอื่น ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ เราอาจเริ่มสงสัยว่าแบรนด์ Jacquemus ขายดีแค่ไหน ?
มีข้อมูลเปิดเผยว่า
ในปี 2021 แบรนด์สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 3,800 ล้านบาท
ในปี 2022 มียอดขายอยู่ราว ๆ 7,600 ล้านบาท
ในปี 2021 แบรนด์สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 3,800 ล้านบาท
ในปี 2022 มียอดขายอยู่ราว ๆ 7,600 ล้านบาท
และคุณ Simon Porte Jacquemus ยังได้ตั้งเป้าว่า ภายในปี 2025 แบรนด์จะต้องมียอดขายแตะ 19,000 ล้านบาท..
ซึ่งสำหรับการเป็นแบรนด์หรู รายได้ระดับนี้ อาจไม่ได้ถือว่าสูงมากนัก
แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เติบโตสูงทุก ๆ ปี
และน่าจับตาต่อไปว่า คุณ Simon Porte Jacquemus จะพาแบรนด์นี้ไปได้ไกลมากแค่ไหน..
แต่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เติบโตสูงทุก ๆ ปี
และน่าจับตาต่อไปว่า คุณ Simon Porte Jacquemus จะพาแบรนด์นี้ไปได้ไกลมากแค่ไหน..
References: