รู้จัก แดนซ์ฟลอร์ที่เปลี่ยนแรงเต้น ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ที่วง Coldplay ใช้ในคอนเสิร์ต
Business

รู้จัก แดนซ์ฟลอร์ที่เปลี่ยนแรงเต้น ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ที่วง Coldplay ใช้ในคอนเสิร์ต

12 พ.ค. 2023
รู้จัก แดนซ์ฟลอร์ที่เปลี่ยนแรงเต้น ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ที่วง Coldplay ใช้ในคอนเสิร์ต /โดย ลงทุนเกิร์ล
Coldplay เป็นวงดนตรีบริตร็อกระดับโลก ที่มักจะจัดทัวร์คอนเสิร์ตที่ช่วยผลักดันเรื่องความยั่งยืน เช่น
-แคมเปญทุกการขายตั๋วคอนเสิร์ต 1 ใบ จะมีการปลูกต้นไม้ 1 ต้น
-การตกแต่งบริเวณพื้นที่จัดแสดง ด้วยชิ้นส่วนและวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
-บริจาครายได้ส่วนหนึ่งให้กับ ClientEarth องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ด้านกฎหมายสิ่งแวดล้อม
และในปี 2022 ที่ผ่านมา คอนเสิร์ต World Tour ของ Coldplay ก็มาด้วยธีมรักษ์โลกอีกเช่นเคย โดยพวกเขาตั้งเป้าว่า จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% เมื่อเทียบกับทัวร์ครั้งก่อน
ซึ่งครั้งนี้มีลูกเล่นที่พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะพวกเขาได้ติดตั้งแดนซ์ฟลอร์ ที่สามารถกักเก็บพลังงานจลน์จากการเคลื่อนไหวของแฟนเพลงขณะเต้นและกระโดดอยู่บนฟลอร์ แล้วเปลี่ยนเป็นกระแสไฟฟ้า ส่งตรงไปยังตัวแบตเตอรี่ที่คอยจ่ายพลังงาน เพื่อใช้ในการแสดงคอนเสิร์ต
แล้วสงสัยไหมว่า เจ้าแดนซ์ฟลอร์นี้ มีที่มาที่ไปอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เจ้าของไอเดียและผลิตภัณฑ์ที่ทั้งรักษ์โลก และแสนสนุกนี้ก็คือ “Energy Floors” บริษัทสัญชาติดัตช์
โดยจุดเริ่มต้นของไอเดีย เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มเพื่อนในวงเหล้า ที่บาร์แห่งหนึ่ง ในเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
พวกเขาคุยกันว่า จะทำอย่างไรให้ไนต์คลับมีความยั่งยืนมากขึ้นได้บ้าง
และหนึ่งในไอเดียที่ผุดขึ้นมา ก็คือ การเปลี่ยนพลังงานของผู้คน ที่มาออกสเตปการเต้น วิ่ง กระโดด ในตอนกลางคืน ให้เป็นพลังงานที่นำมาใช้ได้จริง คล้ายกับแนวคิดการปั่นจักรยานผลิตพลังงานไฟฟ้า
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Energy Floors ในปี 2007
โดยคุณ Michel Smit หนึ่งในกลุ่มเพื่อนคืนนั้น ได้นำไอเดียนี้มาต่อยอดอย่างจริงจัง และขอความช่วยเหลือจากกลุ่มนักประดิษฐ์, วิศวกร และนักนิเวศวิทยา รวมไปถึงไปขอทุนจากนักลงทุน
จนในที่สุดคุณ Michel ก็ได้เปิดตัวธุรกิจไนต์คลับที่ยั่งยืนแห่งแรกของโลก ในปี 2008 ที่มีชื่อว่า “Watt”
ซึ่งไนต์คลับแห่งนี้ จะเน้นการรีไซเคิล เสิร์ฟเครื่องดื่มในถ้วยพลาสติกรีไซเคิล และใช้น้ำฝนแทนน้ำประปาสำหรับห้องน้ำ
ลูกเล่นสำคัญที่ดึงดูดผู้คนให้มาปาร์ตี จนเป็นกระแสก็คือ แดนซ์ฟลอร์ที่สามารถเปลี่ยนแรงกระแทกจากเท้า ที่เหยียบลงบนพื้น ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้าได้
โดยปริมาณพลังงานที่ผลิตได้ จะแสดงผลออกมาในรูปแบบแสงสว่างของไฟ LED หลากสีที่ติดตั้งอยู่บนพื้น
สำหรับพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากการเคลื่อนไหวของคนทั่วไป มีค่าประมาณ 20 วัตต์
ขณะที่ Watt สามารถจุนักท่องราตรีได้ 1,400 คน
ดังนั้น ยิ่งผู้คนเยอะ และยิ่งกระโดดโลดเต้นกันมากเท่าไร พลังงานไฟฟ้าที่ได้ ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แดนซ์ฟลอร์ก็มีต้นทุนสูงมากเช่นกัน ถึงจะยั่งยืนในด้านพลังงาน แต่ในด้านธุรกิจยังเป็นไปได้ยาก
คุณ Michel จึงพยายามคิดหาโมเดลธุรกิจใหม่ และในระหว่างที่ผับของเขากำลังเป็นไวรัลอยู่นั้น ก็มีคนมากมายมาติดต่อขอเช่าแดนซ์ฟลอร์ ไปติดตั้งในงานอิเวนต์ เพื่อโชว์นวัตกรรมใหม่ ๆ และให้ผู้เข้าร่วมได้เล่นสนุก
ทำให้ธุรกิจการเช่าแดนซ์ฟลอร์กลายเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง ที่เขาก็ไม่ได้คาดคิดมาก่อน ซึ่งในเวลาต่อมาค่าเช่าแดนซ์ฟลอร์ ก็กลายเป็นรายได้หลัก แทนการเปิดผับในที่สุด
ซึ่งคุณ Michel จับทางได้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้เช่าแดนซ์ฟลอร์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืนให้กับบริษัทของตน
อย่างไรก็ดี คุณ Michel ก็มองว่าเทคโนโลยีแดนซ์ฟลอร์ของเขา เป็นเครื่องมือสื่อสารที่สนุกและเข้าถึงง่าย ซึ่งเหมาะจะเป็นกระบอกเสียง ทำให้ผู้คนตื่นตัวกับประเด็นเรื่องพลังงานหมุนเวียนได้เป็นอย่างดี
คุณ Michel จึงได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Energy Floors” และทำธุรกิจบริการเช่าและขายแดนซ์ฟลอร์แทน
ซึ่งแดนซ์ฟลอร์เวอร์ชันล่าสุดนี้ สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้า ได้ 2 วัตต์ จากการก้าวหรือเหยียบธรรมดา และผลิตได้ 25-35 วัตต์ จากการเต้นและการกระโดด
ส่วนแดนซ์ฟลอร์ที่เขาตั้งชื่อใหม่ว่า “Kinetic Dancefloor” ก็มีหลายขนาดให้เลือกเช่า ตั้งแต่ 8 ช่อง ในราคาวันละประมาณ 380,000 บาท ไปจนถึง 32 ช่อง ในราคา 750,000 บาท
แถมยังมีในรูปแบบเกมเต้น แข่งกันผลิตไฟฟ้า และอุปกรณ์ลูกเล่นเสริมให้เช่าเพิ่ม เช่น ไฟ LED ใต้พื้น, มิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้า และสายเสียบชาร์จโทรศัพท์
นอกจากนี้ Energy Floors ยังรับผลิตพื้นแบบ Custom ขายอีกด้วย
ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มีทั้งบริษัทอิเวนต์ออร์กาไนเซอร์, ห้างสรรพสินค้า, ตึกออฟฟิศ ไปจนถึงสถานที่เอาต์ดอร์อย่าง ทางเข้าออกสถานีรถไฟ, สวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น ที่ผลิตพลังงานได้จากการก้าว-เหยียบ และพลังงานแสงอาทิตย์
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า จากเรื่องสนุก ๆ ที่คุยเล่นกันในวงเหล้า ได้เดินทางมาไกลเลยทีเดียว
คืนนี้ ถ้าใครออกไปท่องราตรี ลองสังเกตเรื่องที่คุยเล่นกับเพื่อน ๆ บางทีอาจจะเจอไอเดียธุรกิจแปลกใหม่ ที่ใช้งานได้จริงก็ได้นะคะ
แต่ก็อย่าลืมว่า สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ความคิดสร้างสรรค์ คือ การลงมือทำ ให้เกิดขึ้นจริง…
--------------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA
--------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.