สรุปประวัติศาสตร์ “ทิชชู” จากของที่คนคิดว่าไม่จำเป็น สู่ตลาดมูลค่า 2.6 ล้านล้าน ที่ใคร ๆ ก็ขาดไม่ได้
history

สรุปประวัติศาสตร์ “ทิชชู” จากของที่คนคิดว่าไม่จำเป็น สู่ตลาดมูลค่า 2.6 ล้านล้าน ที่ใคร ๆ ก็ขาดไม่ได้

10 มิ.ย. 2023
สรุปประวัติศาสตร์ “ทิชชู” จากของที่คนคิดว่าไม่จำเป็น สู่ตลาดมูลค่า 2.6 ล้านล้าน ที่ใคร ๆ ก็ขาดไม่ได้ /โดย ลงทุนเกิร์ล
กระดาษทิชชู แทบจะเป็นของใช้จำเป็นขั้นพื้นฐาน ที่มีใช้กันทุกบ้าน จึงไม่แปลกใจเลยที่ ตลาดกระดาษทิชชูทั่วโลก จะมีมูลค่าสูงถึง 2.6 ล้านล้านบาท (ข้อมูลปี 2021)
แล้วตัวเลขนี้มากขนาดไหน ?
ถ้าหากเทียบกับขนาดเศรษฐกิจของไทย ก็เทียบได้กับ 15% ของ GDP ประเทศไทย เลยทีเดียว
แต่รู้หรือไม่ว่า กว่ากระดาษทิชชู จะมีวันนี้ได้
มันเคยเป็นสินค้าที่ถูกมองว่า “สิ้นเปลือง” และ “ไม่จำเป็น”
แล้วเรื่องราวนี้น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า กระดาษทิชชู ไม่ได้มีจุดเริ่มต้นที่ฝั่งประเทศตะวันตก แต่มาจากฝั่งตะวันออกอย่าง “ประเทศจีน”
โดยประวัติศาสตร์ของกระดาษทิชชู ถูกบันทึกอย่างคร่าว ๆ เป็นครั้งแรก ตั้งแต่เมื่อช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 6 โดยนักปราชญ์ชาวจีน
ซึ่งตอนนั้น ชาวจีนเริ่มนำกระดาษ มาประยุกต์ใช้เป็นกระดาษชำระ และหลังจากนั้น ก็ได้พบบันทึกว่า ช่วงศตวรรษที่ 14 กระดาษทิชชู ถูกนำไปเป็นของใช้ของชนชั้นสูง
โดยกระดาษทิชชูที่แต่งกลิ่นหอม ถูกผลิตขึ้นแด่จักรพรรดิหงอู่ แห่งราชวงศ์หมิง เพื่อใช้ในพระราชวังโดยเฉพาะ
ส่วนในโลกตะวันตกนั้น ประวัติศาสตร์ของกระดาษทิชชู เริ่มขึ้นหลังยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรม ครั้งที่ 1
เมื่อคุณ Joseph Gayetty นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน ได้ผลิตกระดาษทิชชู ออกมาขายเป็นครั้งแรก ในปี 1857 ในชื่อแบรนด์ว่า “Gayetty’s Medicated Paper”
ด้วยราคา 50 เซนต์ต่อ 500 แผ่น หรือตกแผ่นละประมาณ 115 บาท หากตีเป็นมูลค่าในปัจจุบัน
ซึ่งก่อนหน้านั้น ชาวอเมริกันนำกระดาษที่ใช้แล้วมารียูส ใช้ในห้องน้ำ ซึ่งไม่ดีในแง่ของสุขอนามัยเท่าไรนัก
คุณ Gayetty จึงชูจุดขายว่า กระดาษทิชชูของเขา “บริสุทธิ์ดุจหิมะ” เพราะเป็นกระดาษใหม่ ใช้แล้วทิ้ง ทำให้สะอาด และผลิตจากเยื่อกระดาษที่ไม่มีสารอันตราย
อย่างไรก็ตาม แม้จะประกาศจุดเด่นของสินค้าออกไป แต่ยอดขายกระดาษทิชชู ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เพราะนอกจากราคาสูงแล้ว ผู้คนสมัยนั้นยังไม่มีความรู้เรื่องสุขอนามัยที่ดีนัก
จึงไม่เห็นความสำคัญว่า ทำไมต้องเสียเงินซื้อของสิ้นเปลือง ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งอย่างกระดาษทิชชู ทำให้กิจการของเขาไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้
จนกระทั่งในปี 1890 คุณ Edward Irvin และคุณ Clarence Scott สองพี่น้องเจ้าของโรงงานผลิตกระดาษ “Scott Paper” ได้นำกระดาษทิชชู กลับเข้ามาตีตลาดอีกครั้ง แต่ด้วยหน้าตาที่แตกต่างออกไป
โดยพวกเขาผลิตกระดาษทิชชูแบบม้วน มีรอยปรุออกมา
ซึ่งจุดต่างนี้ก็เป็นที่ถูกใจของผู้คน เพราะทำให้กระดาษทิชชูฉีกใช้ได้ง่าย แถมมีราคาย่อมเยา
และนั่นกลายเป็นจุดเปลี่ยนของกระดาษชำระไปตลอดกาล
อีกทั้งในตอนนั้น ชาวอเมริกัน เริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขอนามัยกันแล้ว ประกอบกับมีระบบประปาทั่วถึง ทำให้การเข้าห้องน้ำอย่างถูกสุขอนามัย เป็นสิ่งที่ทุกคนจับต้องได้
อย่างไรก็ตาม โมเดลธุรกิจของพี่น้อง Scott ตอนนั้น เป็นแบบ B2B โดยพวกเขารับจ้างผลิตกระดาษทิชชู (OEM)ให้แบรนด์อื่น ๆ แทนที่จะเป็นการสร้างแบรนด์ของตัวเอง
จนกระทั่งปี 1896 คุณ Arthur ลูกชายของคุณ Edward เข้ามาช่วยกิจการ เขาได้เริ่มผลิตและทำการตลาดกระดาษทิชชู ภายใต้แบรนด์ของบริษัทเอง และหยุดรับผลิตให้แบรนด์อื่น
นับแต่นั้นมา ธุรกิจของของ Scott Paper ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดด และหลังจากนั้นเพียง 10 กว่าปี บริษัท Scott Paper ได้กลายเป็นผู้นำตลาดกระดาษทิชชูในระดับโลก
จนกระทั่งในปี 1995 บริษัทก็ถูก Kimberly-Clark Corporation ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค ของสหรัฐฯ เข้าซื้อกิจการไป
แล้วประวัติศาสตร์กระดาษทิชชู บอกอะไรเราบ้าง ?
-การออกแบบสินค้าและบริการ ควรคำนึงถึงประสบการณ์ในการใช้งานของกลุ่มลูกค้าเป็นสำคัญ
เพราะเพียงพี่น้อง Scott เปลี่ยนรูปแบบสินค้า ให้เป็นม้วนและมีรอยปรุ จึงทำให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายขึ้น และตัดสินใจลองใช้ได้ไม่ยาก
อีกทั้งสินค้าที่ถูกออกแบบมาอย่างใส่ใจ ทำให้ช่วยลดแรงต้าน จากความเป็นสินค้าใหม่ ที่ลูกค้ายังไม่คุ้นชิน
-จังหวะและโอกาสในธุรกิจ
แม้คุณ Gayetty เคยล้มเหลวกับกระดาษทิชชูไปก่อนหน้า แต่ Scott Paper ยังตัดสินใจผลิตกระดาษทิชชู เพราะพวกเขาเห็นว่า ตอนนั้นตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภค เอื้ออํานวยแล้ว
เรื่องสุขอนามัย กำลังเป็นเทรนด์ของสังคม ทำให้การใช้กระดาษชำระในห้องน้ำเป็นเรื่องพื้นฐาน จึงเป็นจังหวะที่ดีและเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับพวกเขา
ดังนั้น การมีวิสัยทัศน์มองเห็นความเป็นไปได้ในตลาด รวมถึงรอจังหวะที่เหมาะสม ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งของความสำเร็จ
-ความได้เปรียบจากการเข้าตลาดก่อนคู่แข่งขัน
ตั้งแต่ Scott กลายเป็นกระดาษทิชชูม้วน เจ้าแรกของโลก ที่นำเสนอสินค้าใหม่ได้สำเร็จ ก็มีบริษัทอื่น ๆ มากมายจากหลายประเทศ ผลิตสินค้าออกมาแข่ง
แต่ผ่านไปแล้วกว่าร้อยปี กระดาษทิชชู Scott ก็ยังเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ผู้บริโภคนึกถึง มาจนถึงปัจจุบัน
เพราะนอกจากความชำนาญ และประสบการณ์ที่นานกว่าเจ้าอื่น ๆ แล้ว
ความเป็นเจ้าแรก ๆ ยังช่วยให้แบรนด์เป็นที่คุ้นเคยและจดจำของลูกค้าได้มากกว่า อีกด้วย..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.