กลยุทธ์การ “แจกฟรี” อย่างสุดโต่งของ MrBeast ยูทูบเบอร์ที่สร้างรายได้ มากสุดในโลก
Business

กลยุทธ์การ “แจกฟรี” อย่างสุดโต่งของ MrBeast ยูทูบเบอร์ที่สร้างรายได้ มากสุดในโลก

15 มิ.ย. 2023
กลยุทธ์การ “แจกฟรี” อย่างสุดโต่งของ MrBeast ยูทูบเบอร์ที่สร้างรายได้ มากสุดในโลก /โดย ลงทุนเกิร์ล
ปัจจุบัน ยูทูบเบอร์ ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะไม่ว่าใคร ก็สามารถทำรายได้ จากการสร้างสรรค์คลิปวิดีโอบน YouTube ได้
ซึ่งยูทูบเบอร์ ที่ทำรายได้ได้มากที่สุดในตอนนี้ คือ MrBeast ครีเอเตอร์อายุ 25 ปี ที่สร้างคอนเทนต์สุดโต่ง โดยเน้นการ “แจกของฟรี” จนสามารถดึงดูดยอดเข้าชม ได้สูงสุดถึง 400 ล้านครั้ง
ที่น่าสนใจก็คือ MrBeast ยังนำกลยุทธ์การแจก มาต่อยอดธุรกิจของเขา จนสามารถสร้างยอดขายได้อย่างมหาศาล
กลยุทธ์การตลาดแบบ “แจกฟรี” ของ MrBeast น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณ Jimmy Donaldson หรือที่รู้จักกันในชื่อ “MrBeast” คือ ยูทูบเบอร์ ที่ปัจจุบัน มีผู้ติดตามในช่อง YouTube ของเขาถึง 159 ล้านบัญชี สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก
ซึ่งในปี 2021 นิตยสาร Forbes ก็เคยจัดอันดับให้เขาเป็น ยูทูบเบอร์ที่ทำรายได้มากที่สุดในโลก
โดย MrBeast โด่งดังและมีชื่อเสียงในการทำคอนเทนต์แปลกใหม่ และค่อนข้างจะสุดโต่งอยู่เสมอ เช่น
แจกเงิน 17.5 ล้านบาท แลกกับการใช้ชีวิตอยู่ในวงกลม 100 วัน มียอดวิวล่าสุด 304 ล้านครั้งแจกเงิน 350,000 บาท แลกกับการนั่งอยู่ในอ่างที่เต็มไปด้วยงู มียอดวิวล่าสุด 231 ล้านครั้งแจกเงิน 35 ล้านบาท แต่ต้องใช้ภายใน 1 นาที มียอดวิวล่าสุด 160 ล้านครั้งจัดแข่งขันเกมบนเกาะ เพื่อแลกกับเกาะส่วนตัว มียอดวิวล่าสุด 147 ล้านครั้ง
ซึ่งหากลองสังเกต จะเห็นได้ว่าคอนเทนต์ส่วนใหญ่ของ MrBeast จะเป็นคอนเทนต์ที่เน้นการ “แจก” เพื่อดูรีแอ็กชัน หรือจัดการแข่งขันชิงรางวัล ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ, เงิน หรือแม้กระทั่งเกาะส่วนตัว
โดยต้นทุนดังกล่าว ส่วนใหญ่ก็มาจากเงินสนับสนุนของสปอนเซอร์ นั่นเอง
ซึ่งกลยุทธ์นี้ ก็ทำให้ผู้เข้าชมคลิปวิดีโอในช่อง MrBeast สูงอย่างถล่มทลาย โดยคลิปที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดอย่างการจัดแข่งขัน Squid Game ชิงเงินรางวัล 16 ล้านบาท มียอดวิวล่าสุดสูงถึง 438 ล้านครั้ง
สิ่งนี้เอง ทำให้เขาสามารถสร้างรายได้มหาศาล ทั้งจากค่าโฆษณาของ YouTube และเงินสนับสนุนของสปอนเซอร์ ที่ยินดีจะจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้สินค้าของพวกเขา เข้าถึงฐานคนดูหลายร้อยล้านคน
แน่นอนว่า รายได้เหล่านั้น ทำให้ MrBeast สามารถสร้างสรรค์งานโปรดักชันดี ๆ จนกลายมาเป็นคอนเทนต์สนุก ๆ และแปลกใหม่อยู่เสมอ
รวมไปถึงมี “คอนเทนต์การแจก” ซึ่งเรียกว่าเป็นคอนเทนต์ซิกเนเชอร์ของ MrBeast เลยก็ว่าได้
โดยกลยุทธ์การแจก ไม่ใช่กลยุทธ์ทางการตลาดที่แปลกใหม่ แต่ต้องบอกว่า MrBeast นำเสนอกลยุทธ์นี้ได้อย่างน่าสนใจ
เพราะวิดีโอ ที่มีการแจกของหรือเงิน จะสอดแทรกด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย อย่างเกมแปลก ๆ ไปจนถึงการฝึกความอดทน ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกอินและรู้สึกสนุกมากกว่า การชิงโชคหรือจับรางวัลง่าย ๆ
ที่สำคัญก็คือ “ของรางวัล” ที่ถูกคิดมาอย่างดี จนสามารถดึงดูดคนได้ ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ Tesla, บ้าน หรือเพชร
โดย MrBeast เคยบอกไว้ว่า หลักในการคิดคอนเทนต์ของเขา คือให้นึกถึงอะไรก็ตามที่พวกเขาชอบ ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นมากที่สุด และอะไรคือสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด ที่พวกเขาจะสามารถทำได้
ซึ่ง MrBeast ก็นำกลยุทธ์การแจกนี้ มาใช้กับธุรกิจอื่น ๆ ของเขาเช่นกัน
MrBeast Burger เชนร้านเบอร์เกอร์
โดยร้าน MrBeast Burger แห่งแรก เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2020
ซึ่ง MrBeast ก็ได้จัดแคมเปญ “World first free restaurant” หรือ “ร้านอาหารแจกฟรีแห่งแรกของโลก” โพสต์ลง Twitter และ Instagram ของเขา ส่งผลให้มีผู้คนมาต่อคิวที่ร้านยาวเหยียดตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว
จากนั้น เขาก็ได้นำคอนเทนต์เหตุการณ์ดังกล่าวลง YouTube ช่อง MrBeast ในชื่อคลิปว่า “I Opened A Restaurant That Pays You To Eat At It”
ที่นอกจากจะมีการแจกเบอร์เกอร์ฟรีแล้ว ยังมีการแจกเงินสด, iPad, AirPods รวมถึงของรางวัลอีกมากมาย จนแบรนด์ MrBeast Burger กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก
นอกจากนี้ MrBeast Burger ยังใช้โมเดลแบบ Virtual Kitchen หรือร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้าน แต่ใช้ครัวของร้านอาหารที่เป็นพาร์ตเนอร์ และขายแบบดิลิเวอรีเท่านั้น ทำให้ขยายสาขาได้กว่า 300 แห่งอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ MrBeast Burger สามารถขายเบอร์เกอร์ได้ถึง 1 ล้านชิ้น ภายใน 3 เดือนแรก และทำยอดขายไปกว่า 2,450 ล้านบาท ในปี 2021
“Feastables” ธุรกิจช็อกโกแลตและของหวาน
MrBeast เลือกโปรโมตธุรกิจนี้ โดยการสร้างโรงงานช็อกโกแลต ที่มีทั้งน้ำตกช็อกโกแลต, แม่น้ำช็อกโกแลต และห้องมาร์ชแมลโลว์นุ่ม ๆ ตกแต่งอย่างสมจริง เหมือนกับในภาพยนตร์เรื่อง Charlie and the Chocolate Factory
อีกทั้งยังมีกิจกรรมเหมือนในภาพยนตร์ โดยให้ผู้โชคดี 10 คน ที่ได้รับ “Golden Ticket” หรือตั๋วทองที่ถูกซ่อนเอาไว้ในช็อกโกแลต Feastables มาเข้าชมโรงงาน และไปแข่งขันในวิดีโอของ MrBeast
เรื่องนี้ส่งผลให้แฟน ๆ ต้องไปเหมาซื้อช็อกโกแลต Feastables กันอย่างล้นหลาม จนสามารถขายช็อกโกแลตได้ 4 ล้านบาร์ ภายใน 3 เดือนแรกหลังเปิดตัว
แน่นอนว่า มีแฟน ๆ หลายคน อยากเข้าไปลุ้นของรางวัลจาก MrBeast ซึ่งต้องไม่ธรรมดา เพราะรางวัลสำหรับผู้ที่ชนะ คือ “โรงงานช็อกโกแลต” ทั้งโรงงาน ซึ่งท้ายที่สุด MrBeast ได้ยื่นข้อเสนอให้กับผู้ชนะ โดยการขอซื้อต่อในราคา 17 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้ก็คือ เรื่องราวของ MrBeast กับธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์การ “แจก” อย่างสุดโต่งของเขา
ที่แม้ว่าใคร ๆ อาจมองว่า กลยุทธ์การแจกของ MrBeast มีโอกาสที่จะไม่คุ้มค่าหรือเสียเปล่า เพราะมีความเสี่ยงสูง ที่จะไม่ได้อะไรกลับคืนมา
หรือกระทั่ง MrBeast ควรนำเงินไปทำการตลาดประเภทอื่น ที่ไม่ใช่การแจกฟรี
แต่ MrBeast ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กลยุทธ์ “การแจก” ในแบบของเขา ได้สร้างชื่อเสียงและภาพจำให้กับ MrBeast อย่างชัดเจน จนทำให้เขาสามารถใช้สื่อในมือ ต่อยอดธุรกิจได้มากมายไม่รู้จบ..
-------------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป พุ่งเป้าพัฒนาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เพื่อเข้ามาเติมเต็มและต่อจิกซอว์เทรนด์ไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาใช้บริการร้าน Marimekko Pop-Up Café คาเฟแห่งแรกในโลก พร้อมเดินหน้าปูทางธุรกิจ F&B ภายใต้แบรนด์อื่นในเครือ หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้า Gen Y - Gen Z มากขึ้น
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #MarimekkoCafeThailand
-------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.