รู้จัก Echiré “ราชินีแห่งเนยฝรั่งเศส” ที่เชฟขนมหวานทั่วโลก เลือกใช้
Food

รู้จัก Echiré “ราชินีแห่งเนยฝรั่งเศส” ที่เชฟขนมหวานทั่วโลก เลือกใช้

10 ก.ค. 2023
รู้จัก Echiré “ราชินีแห่งเนยฝรั่งเศส” ที่เชฟขนมหวานทั่วโลก เลือกใช้ /โดย ลงทุนเกิร์ล
แม้ “เนย” จะเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญ ที่เกือบทุกตำราทำขนมและเบเกอรีต้องมี แต่เห็นสีเหลือง ๆ คล้ายกันแบบนี้ จะมาเหมารวมว่า เนยทุกก้อนเหมือนกันคงไม่ได้
ยิ่งหากเป็นเนยจากแบรนด์ที่มีชื่อว่า “Echiré”
หรือเนยชั้นเลิศจากประเทศฝรั่งเศส ที่อบอวลไปด้วยคุณภาพและความหอมหวาน
จนทำให้บรรดาเชฟขนมหวานชื่อดังทั่วโลก ต่างไว้วางใจ เลือกใช้มาสร้างสรรค์เมนูขนม
ถึงขั้นที่ว่าเนย Echiré ได้รับสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งเนย” ของประเทศฝรั่งเศส เลยทีเดียว
เรื่องราวของ Echiré น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แบรนด์ Echiré มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1891 หรือ 132 ปีที่แล้ว
โดยแหล่งผลิตเนย Echiré ตั้งอยู่ในแคว้นปัวตู-ชาร็องต์ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีสภาพอากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส
สำหรับฤดูหนาวของที่นี่ สภาพอากาศจะไม่หนาวเย็นจนเกินไป ขณะที่ฤดูร้อนก็จะไม่อบอ้าว แต่มีอากาศเย็นสบายกำลังดี ที่อุณหภูมิเฉลี่ย 20.4 องศาเซลเซียสเท่านั้น
รวมถึงทุ่งหญ้าในแถบนี้ ยังเขียวขจีตลอดทั้งปี ทำให้วัวของที่นี่ได้กินพืชพรรณธัญญาหารที่สมบูรณ์
ซึ่งน้ำนมที่ใช้ผลิตเนย Echiré จะถูกส่งตรงมาจากฟาร์มออร์แกนิกกว่า 65 แห่ง ที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตร เพื่อคงความสดใหม่ของน้ำนมให้มากที่สุด ส่งผลให้เนยที่ผลิตได้มีคุณภาพสูงสุดตามไปด้วย
ที่พิเศษไปกว่านั้น คือกรรมวิธีการผลิตเนยสูตรเฉพาะตัวของ Echiré
โดยทันทีที่นมมาถึงโรงงานผลิต นมจะถูกพาสเจอไรซ์ เปลี่ยนเป็นครีม และผ่านกระบวนการบ่มแบบดั้งเดิม ที่ใช้ระยะเวลายาวนานกว่า 18 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติที่ละเอียดอ่อน
จากนั้น พวกมันจะถูกนำมาปั่นแยกในถังไม้สัก ด้วยความประณีต เป็นเวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อค่อย ๆ เปลี่ยนเนื้อครีมให้เป็นเนย และดูดซับกลิ่นไม้สักจากถัง
จนเกิดเป็นก้อนเนยที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ คล้ายเฮเซลนัต อันเป็นซิกเนเชอร์ของแบรนด์ Echiré
อีกทั้ง เนย Echiré ยังมีเนื้อเนียนนุ่ม อ่อนตัว ประกอบกับมีเปอร์เซ็นต์ไขมันเนยถึง 84% ซึ่งสูงกว่าเนยฝรั่งเศสทั่วไปที่มีไขมันเนยโดยเฉลี่ย 82% และเนยอเมริกันที่มีไขมันเนยประมาณ 80%
ซึ่งองค์ประกอบนี้ ช่วยให้ขนมอบและเบเกอรีต่าง ๆ เช่น พัฟเพสตรี และครัวซองต์ สามารถขึ้นรูปได้ดีขึ้น
จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม เนย Echiré ถึงเป็นที่ชื่นชอบของเชฟขนมหวานทั่วโลก รวมถึงร้านเบเกอรีชั้นนำ และร้านอาหารหลายแห่ง ก็เลือกใช้เนยแบรนด์นี้โดยเฉพาะ
ยกตัวอย่างเช่น ร้าน Maison du Beurre ในโตเกียว และร้าน Marché au Beurre ในโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ที่ต่างเลือกใช้เฉพาะเนยจากแบรนด์ Echiré เท่านั้นในการทำเมนู
ขนมของทางร้าน
หรือในประเทศไทยกับร้านขนมสไตล์ฝรั่งเศสอย่าง Bijoux de Beurre Echire ก็เลือกใช้เนยของ Echiré ในการรังสรรค์ทุกเมนูขนมและเบเกอรีในร้านเช่นกัน
นอกจากนี้ เนยจากแบรนด์ Echiré ยังได้รับเครื่องหมาย AOP หรือ Appellation d’Origine Protégée
เพื่อบ่งบอกว่าเนยก้อนนี้ มีความโดดเด่นเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เสมือนกับเนยของ Echiré คือ เนยลิมิเต็ด ที่ผลิตที่ไหนไม่ได้ นอกจากในแคว้นปัวตู-ชาร็องต์ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เครื่องหมาย AOP ไม่เพียงแต่จะบอกว่าเนยแต่ละก้อนนั้น ถูกผลิตมาจากภูมิภาคใด ในประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น
แต่ยังสามารถบอกเล่าได้ถึงพื้นหลังของแบรนด์เหล่านั้นด้วยว่า ผู้ผลิตตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบ และใส่ใจในกรรมวิธีการผลิตด้วยวิธีการเฉพาะ ตามแบบฉบับดั้งเดิม ของพวกเขามากขนาดไหน
หากมองในมุมของธุรกิจ การมีเครื่องหมาย AOP ยังเปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยในการเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย ซึ่งจุดนี้ก็จะกลายมาเป็นแต้มต่อที่ทำให้แบรนด์ มีความโดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง
โดยในปัจจุบันเนยของแบรนด์ Echiré ก็ได้แผ่ขยายความหอมฟุ้งของกลิ่นเนยไปไกล
จนสามารถส่งสินค้าไปวางจำหน่ายในอีกกว่า 29 ประเทศทั่วโลก อีกด้วย
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ เราคงได้เห็นกันแล้วว่า กว่าจะมาเป็นเนยของ Echiré 1 ก้อนนั้น เบื้องหลังของพวกมันมีอะไรมากกว่าที่เราคิด ตั้งแต่แหล่งภูมิศาสตร์ในการผลิต วัตถุดิบที่เลือกใช้ ไปจนถึงกรรมวิธีในการผลิตให้ได้เนย ที่มีคุณภาพมากที่สุด
และถึงแม้เนย Echiré จะดูเป็นสินค้าธรรมดา ที่ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีล้ำยุคใด ๆ แต่กลับสามารถสร้างมูลค่าจนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์เนย AOP อันดับต้น ๆ ของประเทศฝรั่งเศส ที่เชฟและร้านขนมชื่อดังเลือกใช้
ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นอีกมุมมอง ที่สะท้อนให้เราได้เห็นว่า
บางครั้งของที่ดูแสนธรรมดา ก็สามารถกลายเป็นของที่ไม่ธรรมดาได้
อยู่ที่ว่า เราจะสามารถหาวิธีสร้างคุณค่าให้กับมันอย่างไรต่างหาก..
------------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป พุ่งเป้าพัฒนาธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) เพื่อเข้ามาเติมเต็มและต่อจิกซอว์เทรนด์ไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาใช้บริการร้าน Marimekko Pop-Up Café คาเฟแห่งแรกในโลก พร้อมเดินหน้าปูทางธุรกิจ F&B ภายใต้แบรนด์อื่นในเครือ หวังเจาะตลาดกลุ่มลูกค้า Gen Y - Gen Z มากขึ้น
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA #MarimekkoCafeThailand
------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.