Compose Coffee เชนร้านกาแฟราคาย่อมเยา ที่มีสาขามากกว่า Starbucks ในเกาหลีใต้
Business

Compose Coffee เชนร้านกาแฟราคาย่อมเยา ที่มีสาขามากกว่า Starbucks ในเกาหลีใต้

4 ม.ค. 2024
Compose Coffee เชนร้านกาแฟราคาย่อมเยา ที่มีสาขามากกว่า Starbucks ในเกาหลีใต้ /โดย ลงทุนเกิร์ล
Starbucks เริ่มเข้ามาตีตลาดกาแฟในประเทศเกาหลีใต้ เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1999
ปัจจุบันผ่านมา 24 ปี Starbucks สามารถขยายสาขาในเกาหลีใต้ ไปได้ทั้งหมด 1,841 แห่ง
อย่างไรก็ตาม เกิดก่อนไม่ได้หมายความว่า จะเก๋าเกมกว่าเสมอไป..
เพราะตอนนี้ Starbucks กำลังเจอผู้ท้าชิงอย่าง “Compose Coffee” เชนร้านกาแฟเจ้าถิ่น ที่เปิดตัวมาได้ไม่ถึง 10 ปี แต่กลับขยายสาขาแซงหน้า Starbucks ไปมากกว่า 500 แห่ง
แล้ว Compose Coffee มีกลยุทธ์อะไร ในการขยายการเติบโตให้กับธุรกิจ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Compose Coffee ก่อตั้งขึ้นในปี 2014
โดยอยู่ภายใต้การดูแลของ JM Coffee Group บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟแบบครบวงจร
ตั้งแต่การนำเข้าเมล็ดกาแฟดิบ การคั่วกาแฟ การจัดหาและส่งเมล็ดกาแฟขายให้กับร้านกาแฟทั่วไป ในเกาหลีใต้ ไปจนถึงการจำหน่ายเครื่องทำกาแฟ และบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจกาแฟ
สำหรับ Compose Coffee ได้เปิดสาขาแรกที่มหาวิทยาลัย Kyungsung ในเมืองปูซาน
และเริ่มขยายสาขาเข้าสู่ตัวเมืองกรุงโซลเป็นครั้งแรก หลังก่อตั้งแบรนด์ได้เพียง 1 ปี
จากนั้น ระยะเวลา 7 ปีให้หลัง Compose Coffee เดินหน้าขยายสาขาอย่างรวดเร็ว ทั่วเกาหลีใต้
ปี 2016 มีสาขา 95 แห่ง
ปี 2017 มีสาขา 150 แห่ง
ปี 2018-2020 มีสาขา 800 แห่ง
ปี 2021 มีสาขา 1,330 แห่ง
ปี 2022 มีสาขา 2,000 แห่ง
และในปี 2023 มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ 2,414 แห่ง
เรียกได้ว่า ในเวลาเพียงแค่ 9 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสาขาแรก
Compose Coffee สามารถเปิดสาขาใหม่ ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 สาขา เลยทีเดียว
ส่งผลให้ Compose Coffee กลายเป็นหนึ่งในเชนร้านกาแฟที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ในเกาหลีใต้
แล้วอะไรทำให้ Compose Coffee สามารถขยายสาขาได้มากมาย ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี ?
ด้วยความที่ Compose Coffee รู้ดีว่า ตนเองไม่ได้ที่มีเงินทุนหนาเท่ากับแบรนด์ใหญ่ ๆ
ดังนั้น การมีระบบแฟรนไชส์ จึงเป็นคำตอบ ของการขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องใช้เงินลงทุน ของตัวเองมากนัก เพราะอาศัยแฟรนไชซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์ เข้ามาช่วยลงทุนและขยายสาขาให้แทน
นอกจากนี้ โมเดลแฟรนไชส์ยังช่วยให้ Compose Coffee มีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากค่าขายสิทธิ์แฟรนไชส์ ค่าวัตถุดิบ ค่าอุปกรณ์ ค่าส่วนแบ่งรายได้จากยอดขาย และอื่น ๆ
รวมถึงช่วยให้ Compose Coffee สามารถโฟกัสไปกับเรื่องการตลาด การสร้างแบรนด์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องการบริหารหน้าร้านมากนัก
แต่ทั้งนี้ การขยายธุรกิจด้วยระบบแฟรนไชส์ ก็เหมือนดาบสองคม แม้จะช่วยเพิ่มรายได้และปั้นสาขาได้เร็ว แต่ทาง Compose Coffee ก็อาจจะต้องแบกรับความเสี่ยงด้านชื่อเสียงของแบรนด์เช่นกัน หากมีแฟรนไชซีบริหารจัดการธุรกิจได้ไม่ดี
และเมื่อ Compose Coffee สามารถขยายเครือข่ายสาขา เพื่อให้เข้าถึงและครอบคลุมในหลายพื้นที่ของเกาหลีใต้ได้สำเร็จ จนอาจพูดได้ว่า ลูกค้าหันไปทางไหนก็จะเจอร้าน Compose Coffee ตั้งอยู่แทบทุกหัวมุมถนนแล้ว
กลยุทธ์ถัดมาที่ Compose Coffee ใช้มัดใจลูกค้า ก็คือ “การตั้งราคาให้เข้าถึงง่าย”
อย่างที่บอกไปแล้วว่า JM Coffee Group เป็นบริษัทแม่ของ Compose Coffee ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจกาแฟเป็นอย่างมาก แถมยังมีโรงคั่ว ห้องวิจัยและพัฒนาเมล็ดกาแฟ รวมถึงมีระบบขนส่งวัตถุดิบ เป็นของตนเอง
จึงทำให้ Compose Coffee สามารถบริหารต้นทุนได้ และสามารถตั้งราคาเมนูเครื่องดื่ม ที่ถูกลงได้ ซึ่งหากลองเปรียบเทียบ เมนูอเมริกาโนเย็น ไซซ์เริ่มต้นของ Starbucks ในเกาหลีใต้ จะมีราคาอยู่ที่ 109 บาท ขณะที่ของ Compose Coffee มีราคาเพียง 53 บาท ซึ่งถูกกว่ากันครึ่งหนึ่ง
และเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเด็ก ๆ หรือคนที่ไม่ทานกาเฟอีน ทางร้านก็มีเครื่องดื่ม ขนม และเบเกอรีให้ รองรับทุกความต้องการ เช่น มิลก์เชก สมูทที ครอฟเฟิล แซนด์วิช และอีกมากมาย
นอกจากนี้ Compose Coffee ยังใช้กลยุทธ์ “Influencer Marketing” เป็นเครื่องมือช่วยส่งเสริมการรับรู้ของแบรนด์ เพื่อตอกย้ำกลุ่มลูกค้าให้จดจำแบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น
เช่น การเลือกนักแสดงชื่อดังอย่างคุณจอง แฮ-อิน มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ เพื่อช่วยขยายการเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งเลือกคุณคิม แท-ฮยอง หรือ วี หนึ่งในสมาชิกวง BTS ให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุด เนื่องจากแบรนด์ได้เริ่มไปตีตลาดในต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยประเดิมสาขาแรกที่ประเทศสิงคโปร์
ซึ่งทางแบรนด์มองว่า วี BTS จะเข้ามาเป็นตัวเร่งสร้างการรับรู้ของแบรนด์ ในตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีฐานแฟนคลับกลุ่มใหญ่ และยังได้รับความนิยมไกลถึงในระดับโลก อีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่า ตลาดกาแฟในเกาหลีใต้นั้น แข่งขันกันดุเดือดจริง ๆ เพราะแม้แต่ Starbucks เชนร้านกาแฟระดับโลก ที่ประสบความสำเร็จในตลาดใหญ่ทั่วโลกมาแล้ว ยังต้องแข่งขันกันจนหืดขึ้นคอ เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดกาแฟที่นี่
เรื่องนี้ก็น่าติดตามกันต่อไปว่า Compose Coffee จะสามารถชนะใจลูกค้า นอกประเทศเกาหลีใต้ได้หรือไม่
หรือจะเป็นเพียงแบรนด์ ที่นิยมเฉพาะในประเทศตนเองก็เท่านั้น..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.