ไหนใครรอดชีวิตจากมหกรรมลดราคา 11.11 บ้างคะ
ลงทุนเกิร์ลเองก็เป็นหนึ่งในคนที่สูญเสียไปไม่น้อย
แต่อีกมุมหนึ่ง เรื่องนี้กลับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับเหล่าแม่ค้าออนไลน์
ในการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์ของตัวเอง

วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะพาไปรู้จักกับ 2 แบรนด์ออนไลน์
ที่ทำยอดขายไปถึงหลักล้าน ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Lazada ในเทศกาล 11.11 ที่ผ่านมา

2 แบรนด์ที่ว่าก็คือ Rally Movement และ Mitr ซึ่งมีผู้ก่อตั้งเป็น 2 สาวมากความสามารถ
แล้วพวกเขามีกลยุทธ์ในการขายอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะสรุปเคล็ดลับมาให้ค่ะ

เริ่มจาก Rally Movement แบรนด์ของ คุณเค้ก - อภิพรรณ มงคลพาณิชยกิจ
และ คุณปั๊ม - นิธิศ วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งตั้งมาได้เพียง 3 ปีเท่านั้น
คุณเค้กเรียนจบด้านแฟชั่นมาโดยตรง แต่ขณะกำลังเริ่มงานเป็น First Jobber เธอได้พบปัญหาของกลุ่มผู้หญิงวัยทำงาน
นั่นก็คือ เสื้อผ้าที่เป็นทางการ มักจะเป็นแบบเรียบๆ ดูน่าเบื่อ

เรื่องนี้ทำให้คุณเค้ก อยากใส่ความสนุกสนานลงไปในการออกแบบผ่านการใช้สีสันสดใส
แต่ก็ยังเป็นเสื้อผ้าที่ดูเหมาะสม เป็นมืออาชีพ และยังใส่ได้ในชีวิตประจำวัน

แรกๆ ก็เริ่มต้นจากขายผ่านโซเชียลมีเดียทั่วไป
ก่อนจะค่อยๆ ขยายช่องทางเพิ่มขึ้น ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์

หนึ่งในนั้นก็คือ Lazada ซึ่งคุณเค้ก เล่าว่าเปิดร้านมาบนแพลตฟอร์มนี้ไม่ถึงปี
แต่ตอนนี้ยอดขายบน Lazada คิดเป็นประมาณ 50% ของยอดขายรวมทุกช่องทางแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้คุณเค้ก เลือกมาเปิดร้านแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับ Lazada
เพราะทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ

นอกจากนั้น Lazada ยังมีส่วนช่วยเรื่องการส่งเสริมยอดขาย
อย่างแรก คือ เครื่องมือบริหารจัดการร้านค้า
อย่างต่อมา คือ แคมเปญลดราคาต่างๆ ที่ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก

อย่างแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมา ทาง Rally Movement ก็สามารถทำยอดขายอย่างล้นหลาม
สามารถขายเสื้อหลักร้อยตัว หมดภายใน 1 นาที
รวมถึงทำรายได้ไปแตะหลักล้านได้ภายในเวลาไม่ถึง 10 ชั่วโมง

แน่นอนว่าความสำเร็จครั้งนี้ ย่อมต้องผ่านการเตรียมตัวที่ดี
ซึ่งคุณเค้กยังเล่าอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ต้องมีสินค้าพร้อมขาย

โดยจุดนี้ Lazada ก็มีเครื่องมือช่วยให้ร้านค้าประมาณความต้องการของลูกค้าได้
มีระบบหลังบ้าน ที่ติดตามว่าลูกค้ากดเข้ามาดูสินค้าชิ้นไหนเป็นจำนวนเท่าไร

และในช่วงแคมเปญลดราคา Lazada ก็จะมีการประชาสัมพันธ์โปรโมชันต่างๆ
รวมถึงแสดงราคาตั้งแต่ก่อนวันขายจริง ทำให้ลูกค้าวางแผนการซื้อได้ก่อน
หรือบางคน ก็จะกดใส่รถเข็นไว้เลย พอถึงวันนั้นค่อยจ่ายเงิน

สิ่งเหล่านี้ทำให้แบรนด์ ประเมินได้คร่าวๆ ว่าควรจะผลิตสินค้าจำนวนเท่าไร
ถึงจะเพียงพอต่อปริมาณความต้องการของลูกค้า

และแม้ว่าจะผลิตสินค้ามาจำนวนมาก แต่ในวันนั้นก็จะมีทั้งคูปองจาก Lazada เอง ส่วนลดจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ รวมถึงคูปองจากแบรนด์
ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกกับการชอปปิง เก็บส่วนลดหลายต่อเพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด

สำหรับฝั่งร้านค้า ก็ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะดูแลลูกค้าไม่ทั่วถึง
เพราะด้วยระบบของ Lazada ทำให้ลูกค้าสามารถกดสั่งซื้อ และติดตามสถานะสินค้าได้ด้วยตัวเอง โดยที่ทางร้านไม่ต้องสรุปยอดให้ลูกค้าแต่ละคน
รวมถึงยังมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายให้ลูกค้าเลือกได้ตามความสะดวกด้วย

อีกแบรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมาก็คือ Mitr

แบรนด์นี้สร้างโดย คุณอิ๋ม - มิลิน วินทะไชย หญิงสาวจากคณะสถาปัตยกรรม
ที่เริ่มเปิดร้านขายเสื้อผ้าตั้งแต่สมัยเรียน
แรกๆ ก็เป็นการรับมาขาย จากนั้นจึงเริ่มออกแบบเอง

เอกลักษณ์ของแบรนด์ Mitr อยู่ที่การใช้เนื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติ
โดยคุณอิ๋มก็พยายามออกแบบรายละเอียดของเสื้อผ้า
เพื่อชูจุดเด่นเรื่องความพริ้วของเนื้อผ้า ที่สวมแล้วรู้สึกเบาสบาย

คุณอิ๋ม เริ่มจากการขายผ่านโซเซียลมีเดียก่อนเช่นกัน จากนั้นจึงมาเปิดร้านบน Lazada
เพราะเมื่อดูจากฐานผู้ใช้จำนวนมากแล้ว ก็ทำให้เห็นโอกาสที่จะขยายกลุ่มลูกค้าของแบรนด์

ซึ่ง Lazada เอง ก็มีเครื่องมือที่มาช่วยสนับสนุนยอดขายหลายอย่าง
เริ่มตั้งแต่การตกแต่งหน้าร้าน หรือ Store Decoration ของ Lazada
ที่ไม่ใช่เน้นเรื่องความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังใช้ง่าย ช่วยดึดดูดลูกค้าได้ดียิ่งยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งเครื่องมือ ที่คุณอิ๋มเลือกใช้ คือ Sponsored Search
ช่วยให้คีย์เวิร์ดที่ต้องการติดอันดับในคำค้นหาของลูกค้า
ประกอบกับระบบหลังบ้านของ Lazada ก็ช่วยให้ลูกค้าหาสินค้าเจอง่าย
ทำให้ช่วยเพิ่มยอดขายได้จริง แม้ไม่ใช่ช่วงแคมเปญลดราคา

นอกจากนั้น Lazada ยังมีทีมที่คอยให้คำแนะนำ
เตรียมความพร้อมแบรนด์ สำหรับช่วงแคมเปญต่างๆ อีกด้วย

อย่างตอน 11.11 ที่ผ่านมา คุณอิ๋มก็มองว่า
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Mitr ประสบความสำเร็จ คือ การเตรียมสต็อกสินค้าที่เพียงพอ

โดย Mitr สามารถขายเสื้อรุ่น Signature ได้มากกว่า 3,000 ตัว ภายในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
ซึ่งก็คิดเป็นยอดขายหลักล้านเลยทีเดียว

บางคนอาจมองว่า เพราะเป็นช่วง Flash Sale จึงทำให้ราคาดึงดูดลูกค้าได้มากอยู่แล้ว
แต่จริงๆ เบี้องหลังความสำเร็จนี้ ต้องอาศัยรายละเอียดมากกว่านั้น

อย่างกลยุทธ์ของคุณอิ๋ม ก็คือ การประชาสัมพันธ์แคมเปญลดราคาผ่านหลายๆ ช่องทาง
เพื่อให้ลูกค้าเตรียมตัวเก็บคูปองส่วนลดต่างๆ และวางแผนชอปปิงในวันนั้นได้

หนึ่งในช่องทางที่คุณอิ๋มใช้ก็คือ การ Livestream ผ่าน Lazada ที่เธอรู้สึกว่าได้ผลมาก
มีคนให้ความสนใจและเข้ามารับชมเป็นหมื่นวิว ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเพิ่มสินค้าไว้ในรถเข็นล่วงหน้า

ในขณะเดียวกันก็ทำให้แบรนด์ “คาดการณ์” ความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงเห็นแล้วว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเหล่านี้
แลกมาด้วยการเตรียมความพร้อมเพื่อรอคว้าโอกาสที่จะเกิดขึ้น

แต่ก็คงจะดีไม่น้อย ถ้าเรามีตัวช่วยอย่าง Lazada ที่คอย “สร้างโอกาส” ที่ดี
รวมถึงเตรียมเครื่องมือที่จะช่วยส่งเสริมเหล่าร้านค้าออนไลน์

อย่างเร็วๆ นี้ ก็ใกล้สู่อีกหนึ่งแคมเปญการลดราคาส่งท้ายปี
ทางแพลตฟอร์มก็ได้เตรียม Lazada 12.12 ให้ได้ชอปปิงกันทิ้งทวนปี 2020
โดยครั้งนี้จะมีการแจกคูปองส่วนลด 1,212 บาท ทุกเที่ยง ในวันที่ 4 - 14 ธันวาคม
รวมถึงยังมีคูปองส่งฟรี* และรับเงินคืน 10% เมื่อซื้อสินค้าใน LazMall ทุกชิ้น**

ซึ่งเมื่อทุกอย่างประกอบเข้าด้วยกัน
ความสำเร็จย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
เหมือนอย่างผู้ขาย 2 ท่านนี้ ที่ขายของได้หลักล้าน ภายในไม่กี่ชั่วโมง..

หมายเหตุ:
*ส่วนลดค่าส่ง 30 บาท
**รับเงินคืนสูงสุด 100 บาท