- บริษัท ออโรรา เฮลธ์ จำกัด
- บริษัท ไชนิ่ง แลบบอราทอรี่ จำกัด
- บริษัท ไชนิ่ง เวลเนส จำกัด

ธุรกิจทั้งหมดนี้ อยู่ภายใต้การบริหารของคุณแพร-มัลลิกา ถ้อยคำดี ผู้ปลุกปั้นสินค้าภายใต้แบรนด์ Shining (ไชนิ่ง) จนครองใจลูกค้ามามากกว่า 10 ปี

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Shining ที่หลายคนอาจเคยเห็นผ่านตามาบ้าง คือ อาหารเสริมตระกูล “อาโมนิ (ARMONI)” ที่มีให้เลือกถึง 6 สูตร ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับดวงตา ผิวพรรณ ร่างกาย และการนอนหลับ

นอกจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่โดดเด่นแล้ว Shining ยังมีสินค้าในเครืออีกหลายตัว ที่ตอบโจทย์การดูแลตัวเองอย่างครบวงจร รวมไปถึงโรงงาน OEM รับผลิตเครื่องสำอางและอาหารเสริมที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจสำคัญ

จุดเริ่มต้นของ Shining เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2555 ภายใต้บริษัท ออโรรา เฮลธ์ จำกัด โดยมีสินค้าตัวแรก คือ ผลิตภัณฑ์คอลลาเจน 

ในช่วงแรก สินค้าของแบรนด์จะทำในรูปแบบการจ้างผลิตแล้วนำมาวางขายเอง ก่อนจะเพิ่มช่องทางขายส่งผ่านระบบตัวแทนจำหน่ายเป็นหลัก

หลังจากดำเนินธุรกิจได้ระยะหนึ่ง บริษัทจำเป็นต้องปรับตัวตามยุคสมัยซึ่งการขายสินค้าไม่ได้เน้นการทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายเหมือนเดิมอีกต่อไป

จึงเกิดเป็นบริษัท ไชนิ่ง เวลเนส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเพื่อจำหน่ายสินค้าให้กับลูกค้าโดยตรง และเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารายเล็กร่วมเป็นพันธมิตรผ่านโปรแกรม Affiliate

ปัจจุบันธุรกิจของ Shining ประกอบด้วย 3 บริษัท

- ธุรกิจขายส่งผ่านตัวแทนจำหน่าย และดูแลตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์ ในระดับต่าง ๆ ภายใต้บริษัท ออโรรา เฮลธ์ จำกัด

- ธุรกิจโรงงานผลิตเครื่องสำอาง อาหารเสริม และสกินแคร์ ภายใต้บริษัท ไชนิ่ง แลบบอราทอรี่ จำกัด

- ธุรกิจขายปลีกสินค้าแบรนด์ Shining ครอบคลุมหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น อาหารเสริม ครีมกันแดด ยาสีฟัน สครับขัดตัว ภายใต้บริษัท ไชนิ่ง เวลเนส จำกัด

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจนึกสงสัยว่า กลยุทธ์อะไรที่ทำให้ Shining สามารถดำเนินธุรกิจอยู่ในตลาดความงามอันดุเดือด มาได้นานขนาดนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

เคล็ดลับความสำเร็จในการทำแบรนด์ให้ยั่งยืนของ Shining ข้อแรก คือ “สินค้าต้องมีคุณภาพ” 

เพราะในการทำแบรนด์ขึ้นมา สิ่งสำคัญข้อแรกคือสินค้าต้องดีถึงจะเป็นที่ยอมรับ
และทุกครั้งที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมา ต้องทำให้สินค้ามีจุดเด่นเป็นที่จดจำ สินค้าบางตัวของ Shining จึงสามารถอยู่คู่กับแบรนด์มาได้อย่างยาวนาน โดยที่ยังมีลูกค้าทั้งใหม่และเก่าให้ความสนใจ

ข้อสอง คือ “ทำราคาให้เข้าถึงง่าย”

สินค้าของแบรนด์ Shining มีจุดเด่นคือราคาที่เข้าถึงง่าย แต่ผลิตภัณฑ์ยังอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ

โดยกลยุทธ์ในการทำราคาของแบรนด์นั้นค่อนข้างน่าสนใจ เพราะจะมีการประเมินจากฐานข้อมูลความต้องการของลูกค้า หากเห็นว่าลูกค้ามีความต้องการมากพอก็จะสามารถผลิตได้ล็อตใหญ่ และสามารถทำราคาได้ถูกลง

สุดท้าย คือ “ใช้ประสบการณ์ต่อยอดธุรกิจ” 

นอกจาก Shining จะมีสินค้าที่ลูกค้าไว้วางใจมาอย่างยาวนานแล้ว โรงงาน OEM ของ Shining ยังมีความโดดเด่น เพราะเป็นธุรกิจโรงงานผลิตที่มาจากประสบการณ์ในการทำแบรนด์กว่า 11 ปี

จุดนี้เองที่ทำให้ Shining สามารถให้คำแนะนำในการทำแบรนด์ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่

- คิดค้น และพัฒนาสูตรโดยทีมที่มีความเชี่ยวชาญ
- ให้คำปรึกษาในการทำราคา
- แนะนำเทคนิคการขาย จากประสบการณ์ของคนทำแบรนด์โดยตรง
- ให้คำปรึกษาในการทำการตลาด พร้อมบริการดูแลเพจบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ

จากประสบการณ์ในการทำแบรนด์ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ กลายมาเป็นจุดแข็งที่ทำให้ บริษัท ไชนิ่ง แลบบอราทอรี่ เข้าใจความต้องการของลูกค้า รวมถึงเข้าใจอินไซต์ที่คนทำแบรนด์ควรให้ความสำคัญ

สินค้าภายใต้แบรนด์ Shining รวมถึงสินค้าจากพาร์ตเนอร์โรงงาน OEM จึงเป็นตัวเลือกที่มาพร้อมคุณภาพและช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในตลาดความงามที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ Shining ธุรกิจที่เริ่มจากแนวคิดที่อยากทำสินค้าออกมาให้ดี  และสั่งสมประสบการณ์การทำแบรนด์ จนเกิดเป็นโรงงานผลิตที่เข้าใจความต้องการ และข้อกังวลของลูกค้าในฐานะคนทำแบรนด์ ที่พร้อมอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคนทำแบรนด์ด้วยกัน..

Reference:
-https://www.shining.in.th/