วิธีทำการตลาด SEO ที่อยู่คู่กับ Google มาเกือบ 30 ปี กำลังวิกฤติ เพราะคนทั่วโลกหันไปถาม AI /โดย ลงทุนเกิร์ล

ในช่วงหลายสิบปีนี้ แทบไม่มีธุรกิจไหนไม่ทำ SEO หรือการทำให้เว็บไซต์ของเราไปอยู่ในอันดับต้น ๆ ในผลการค้นหาของ Search Engine อย่าง Google

แต่รู้หรือไม่ว่า อาทิตย์ที่ผ่านมา หุ้นของ Google ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากที่คุณ Eddy Cue รองประธานอาวุโสของ Apple ออกมายอมรับว่ายอดการ Search ผ่าน Safari ลดลง

ไม่เพียงเท่านั้น อ้างอิงจากข้อมูลทางการเงินล่าสุดของ Google
ยอดการ “Paid Clicks” หรือจำนวนคลิกบนโฆษณาต่าง ๆ หนึ่งในรายได้หลักของ Google ก็ไม่เติบโตเท่าที่ควร

เรื่องนี้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาชี้ว่าในอนาคตธุรกิจอาจจะเลิกทำ SEO ให้ติดอันดับบน “Google” แล้วหันมาทำ AEO หรือการทำเว็บไซต์ให้หาเจอง่ายบน “AI” แทน

ซึ่งหากเป็นจริง เรื่องนี้ก็นับเป็นการปฏิวัติวงการการตลาด เพราะ SEO คือการตลาดออนไลน์พื้นฐานที่เติบโตมาพร้อม ๆ กับ Google

เรื่องราวเป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

หากใครนึกภาพธุรกิจที่ใช้การตลาดแบบ SEO ไม่ออก ให้นึกถึงเวลาที่เราเซิร์ชหาข้อมูลอะไรสักอย่าง เช่น “โรงเรียนสอนทำเค้ก” ก็จะมีชื่อและเว็บไซต์ของโรงเรียนสอนทำเค้กมากมายขึ้นมาอยู่หน้าแรก

ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์มีผู้เข้าชมมากขึ้น และทำให้แบรนด์หรือสินค้าเป็นที่รู้จักและติดตลาดมากขึ้น

หรืออีกเคสคือ Organic Content อย่างเช่นเวลาเซิร์ช “วิธีสร้างเว็บไซต์” เราอาจจะเจอคอนเทนต์ที่สอนวิธีสร้างเว็บไซต์ แล้วปิดท้ายด้วยการขายของว่า หากไม่อยากเสียเวลา บริษัทเราก็รับทำเว็บไซต์เช่นกัน

ธุรกิจที่ทำการตลาดแบบนี้ จะทำ Research มาว่ากลุ่มลูกค้าเขามีแนวโน้มจะพิมพ์ค้นหาคำว่าอะไรบ้าง แล้วเขาก็จะนำคำเหล่านั้นไปใส่บนเว็บไซต์เยอะ ๆ เพื่อให้เราค้นหาเว็บไซต์ของพวกเขาเจอนั่นเอง

แต่ด้วยช่วงที่ผ่านมานี้ Mega Trend ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของคนไปทั่วโลก คงหนีไม่พ้น AI เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไร หลายคนก็จะนึกถึงการใช้ AI ในการแก้ทุกปัญหาชีวิต

ซึ่งเมื่อก่อน AI ที่โด่งดังอย่าง ChatGPT จะใช้ข้อมูลเก่าที่ไม่ได้อัปเดต และเป็นการรวมข้อมูลจากหลาย ๆ เว็บไซต์ ทำให้ข้อมูลจริงและข้อมูลเก่าที่ไม่น่าเชื่อถือปะปนกันหมด

แต่ปัจจุบัน AI ทั้งหลายเริ่มใช้เทคนิคที่ทำให้ดึงข้อมูลสด ๆ จากเว็บไซต์มาตอบได้แล้ว ทำให้ความนิยมในการเซิร์ชผ่าน AI ยิ่งเพิ่มขึ้น

เรื่องนี้ส่งผลต่อวิธีทำการตลาดของแบรนด์โดยตรง เพราะด้วยพฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไปนี้เอง ทำให้ผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาชี้ว่าธุรกิจในอนาคต อาจต้องให้ความสำคัญกับการตลาดแบบ AEO แทน

แล้ว AEO คืออะไร ?

อย่างที่บอกว่า เวลาเราเซิร์ชใน AI มันจะไปรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ มาให้เรา ในคำตอบเดียว

AEO จึงเป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ AI เจอเราเป็นอันดับแรก ๆ และให้มันนำคำตอบของเราไปตอบผู้ใช้งาน

พูดอีกอย่างก็คือ มันจะช่วยนำข้อมูลจากเว็บไซต์ธุรกิจเรา ไปปรากฏบนแช็ตของ AI

ยิ่งตอนนี้ AI สามารถค้นหาคำตอบพร้อมอ้างอิงลิงก์ของเว็บไซต์ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ในอนาคต มีโอกาสสูงที่เว็บไซต์ธุรกิจที่ทำ AEO จะไปโผล่เป็นเว็บไซต์แรก ๆ ที่ AI แสดงคำตอบให้

แต่วิธีการที่ธุรกิจจะทำ AEO นั้น จะต่างกับ SEO
เช่น หากเราจะทำ SEO แต่ก่อน เราอาจจะตั้งชื่อหัวข้อบทความว่า “10 เครื่องมือสร้างเว็บไซต์” เพื่อดักคนที่พิมพ์ค้นหา “เครื่องมือสร้างเว็บไซต์”

แต่หากทำ AEO เราจะต้องปรับเว็บไซต์ให้เป็นในเชิง คำถาม-คำตอบ ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เหมือนเวลาคนพิมพ์ถามคำถามใน AI
เช่น “จะสร้างเว็บไซต์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก มีเครื่องมืออะไรน่าใช้บ้าง”
หรือ “แพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์อันไหนใช้งานง่ายสุด”

ทีนี้ เราลองมาดูตัวอย่างส่วนหนึ่งของ Startup ที่ช่วยธุรกิจทำ AEO ตอนนี้

AthenaHQ ราคาเริ่มต้น 12,205 บาทต่อเดือน
ใช้ได้กับ ChatGPT, Perplexity, Gemini และ ClaudeRankscale ราคาเริ่มต้น 665 บาทต่อเดือน
ใช้ได้กับ ChatGPT, Gemini, Mistral และ ClaudeProfound ราคาตามการใช้งาน
ใช้ได้กับ ChatGPT, Perplexity, Bing Copilot และ Gemini

แม้การทำ SEO คงจะไม่ได้หายไปในชั่วข้ามคืน แต่นี่ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าบทบาทและความสำคัญของมันกำลังจะลดน้อยลงอย่างมากในอนาคตอันใกล้

หากเป็นจริง เรื่องนี้อาจเปลี่ยนวิธีการทำการตลาดไปตลอดกาล และถ้าธุรกิจไหนเปลี่ยนวิธีคิดไม่ทัน
วันหนึ่งอาจจะกลายเป็นเพียงข้อมูลที่ AI มองข้าม

เพราะในวันที่ทุกคนถาม “AI” แทนการค้นหา
แบรนด์ที่ถูกเลือก คือแบรนด์ที่เตรียมตัวมาก่อนใคร..

References :
-https://www.businessinsider.com/seo-aeo-ai-chatbots-search-startups-chatgpt-openai-google-2025-5
-https://www.businessinsider.com/google-search-apple-paid-clicks-eddy-cue-2025-5