เปิดเคล็ดลับ ทำไม BEAUTRIUM ถึงคว้ารางวัล “Cosmetics Retailer of the Year” ระดับเอเชีย
Health & Beauty

เปิดเคล็ดลับ ทำไม BEAUTRIUM ถึงคว้ารางวัล “Cosmetics Retailer of the Year” ระดับเอเชีย

18 มิ.ย. 2025
BEAUTRIUM x ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า อาณาจักรเครื่องสำอางพันล้านที่เราคุ้นชื่อกันดีอย่าง BEAUTRIUM เริ่มต้นขึ้นจากความตั้งใจที่จะสร้างร้านที่รวมสินค้าเพื่อความงามไว้อย่างครบวงจรเมื่อ 13 ปีก่อน
ทุกวันนี้ BEAUTRIUM มีมากกว่า 70 สาขา และมีสินค้าในร้านมากกว่า 100,000 รายการ จาก 5,000 แบรนด์ทั่วโลก จนกลายเป็นบิวตีสตอร์อันดับต้น ๆ ในใจคนไทย
ล่าสุด ก็ประสบความสำเร็จในการคว้ารางวัล “Cosmetics Retailer of the Year” จากเวที Retail Asia Awards 2025 ที่สิงคโปร์ นับเป็นการสร้างชื่อเสียงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับแบรนด์ค้าปลีกสัญชาติไทย
แต่อะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้ BEAUTRIUM สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาอาจดูไม่เอื้ออำนวยต่อการจับจ่ายใช้สอย แต่ BEAUTRIUM กลับสวนกระแสด้วยการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 24 สาขา รวมทั้งหมดเป็น 72 สาขา และตั้งเป้าจะมีครบ 100 สาขาในปีนี้
ซึ่งการที่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่สามารถขยายสาขาได้มากขนาดนี้ ย่อมหมายถึงการมั่นใจในเรื่องระบบซัปพลายเชนที่ส่งสินค้าคุณภาพได้อย่างเท่าเทียมกันทั่วประเทศ
ถึงแม้จะมีสาขามากมาย แต่หากใครที่เป็นแฟนของ BEAUTRIUM คงจะพอรู้ว่าแต่ละสาขาจะมีการจัดวางสินค้าที่แตกต่างกัน นั่นคือกลยุทธ์ที่เรียกว่า “Store Clustering” หรือการขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงลึก
หัวใจหลักของกลยุทธ์นี้ คือการเข้าใจว่าลูกค้าในแต่ละพื้นที่ต้องการอะไรเมื่อก้าวเข้ามาในร้านค้า ซึ่งก็จะมีผลต่อการจัดวางสินค้า บรรยากาศภายในร้าน ไปจนถึงการบริการของพนักงาน ที่ต้องถูกออกแบบอย่างดี
แม้จะเน้นย้ำเรื่องประสบการณ์หน้าร้านที่ต้องตอบโจทย์ลูกค้าแล้ว แต่ก็ไม่เคยทิ้งเรื่องของ E-Commerce ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าเช่นกัน
รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบัน BEAUTRIUM มีบริการจัดส่งสินค้าด่วนให้ของส่งถึงมือลูกค้าภายใน 25 นาทีผ่าน GrabMart สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้ที่ต้องเร็วและสะดวกสบาย
และยังปรับปรุงพัฒนาช่องทาง Social Commerce เช่น การมีเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของตัวเอง การนำตัวเองไปอยู่บนแพลตฟอร์มช็อปปิงออนไลน์ยอดนิยมต่าง ๆ
โดยนอกจาก E-Commerce จะช่วยเสริมประสบการณ์ช็อปปิงของลูกค้าให้สะดวกสบายขึ้นแล้ว BEAUTRIUM ยังนำข้อมูลจากลูกค้าในโลกออนไลน์มาต่อยอดพัฒนาหน้าร้านกว่า 70 สาขา
นี่คือการเชื่อมโยงอย่างชาญฉลาดระหว่างโลกออนไลน์และหน้าร้านจริง จนสามารถมอบประสบการณ์การช็อปปิงที่เหนือระดับแก่ลูกค้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือเลือกซื้อจากช่องทางใดก็ตาม
นอกจากนั้น อีกหนึ่งในจุดแข็งสำคัญที่ทำให้ BEAUTRIUM โดดเด่นและแตกต่างอย่างแท้จริงคือการเป็น Trend Setter
แม้มีสินค้ากระแสมากมาย แต่ BEAUTRIUM ก็ยังนำเสนอเทรนด์ใหม่ ๆ ให้กับตลาด โดยในปี 2024 ที่ผ่านมา BEAUTRIUM ได้เปิดตัวแบรนด์ Exclusive มากกว่า 41 แบรนด์
ผ่านการจัด Exclusive Launch Event ที่เปิดตัวสินค้าใหม่ก่อนใคร จนปัจจุบัน BEAUTRIUM มีสินค้า Exclusive กว่า 41 แบรนด์ ครอบคลุมทั้งกลุ่ม Viral Item, Clean Beauty, Men’s Grooming และ Emerging Brands
กลยุทธ์สุดท้าย คือการคิดว่าตัวเองเป็นมากกว่าสถานที่ซื้อสินค้า แต่ต้องเป็นพื้นที่ที่ “สร้างแรงบันดาลใจ” และเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ในแบบที่เป็นตัวเอง
เฉพาะในปี 2024 BEAUTRIUM ได้ร่วมมือกับแบรนด์ดังจัดกิจกรรมไปแล้วกว่า 800 ครั้ง ทั้งในรูปแบบ Co-Campaign หรือ Live Commerce ให้ลูกค้าช็อปไปดูไลฟ์ไป ตอบรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคนี้ที่ชอบดูคอนเทนต์ที่สนุกสนานและโต้ตอบได้ทันที
พร้อมกับกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทั้งปี ทั้ง Campaign และ Big Event ร่วมกับแบรนด์พันธมิตรต่าง ๆ ที่ช่วยสร้าง Brand Engagement ให้กับทั้งสองฝ่าย พร้อมมอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจให้กับลูกค้าสมาชิกเสมอมา
ทั้งหมดนี้คือการ “สร้างประสบการณ์” ที่ลึกซึ้งมากกว่าการซื้อขาย แต่คือการเข้าใจลูกค้าในทุกมิติ เพื่อให้ลูกค้าได้ทั้งความสะดวกสบาย และความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแบรนด์ จนต้องกลับมาซื้อซ้ำ
รวมกันเป็นเหตุผลที่ทำให้ BEAUTRIUM ก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจบิวตีรีเทลของไทย และสามารถคว้ารางวัลเกียรติยศระดับนานาชาติอย่าง “Cosmetics Retailer of the Year” มาครองได้อย่างภาคภูมิ..
References :
- รายงาน Digital 2025 จาก DataReportal
- ข่าวประชาสัมพันธ์ BEAUTRIUM
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.