“DAILYPAL” ร้าน Selected-Beauty ชื่อดัง ป้ายยาอย่างไร ให้ลูกค้ายอมจ่าย กับแบรนด์บิวตีที่ไม่เคยรู้จัก /โดย ลงทุนเกิร์ล

เมื่อพูดถึงร้าน Selected-Beauty ในไทย ที่มักคัดสรรแบรนด์ความงามสายนิชจากต่างประเทศมาขาย จนกลายเป็นไวรัลในหมู่คนรักสกินแคร์และเมกอัปในบ้านเรา

ร้านแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงคงเป็น “DAILYPAL” ร้านที่เปรียบเสมือนเพื่อนซี้ที่รู้ใจ คอยหยิบไอเทมเด็ด ๆ จากอีกซีกโลกมาป้ายยา

โดยวันนี้ ลงทุนเกิร์ลมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณแอ๊น-ปวรา และคุณโอ๊ต-ปรภา ชวะโนทัย สองผู้ก่อตั้งแบรนด์ DAILYPAL ถึงวิธีที่ทำให้แบรนด์ที่ยังไม่แมส กลายเป็นแบรนด์ที่ใครก็อยากลอง

รวมถึงความตั้งใจในการสร้างร้านที่ช่วยส่งต่อเสน่ห์ของแบรนด์ความงามนิช ๆ ให้กลายเป็นที่รู้จักและเติบโตอย่างแข็งแรง

เรื่องราวของ DAILYPAL น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ย้อนกลับไปที่ต้นกำเนิด DAILYPAL เมื่อ 6-7 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่คุณแอ๊นกำลังเรียนที่สหรัฐอเมริกา และอินกับเรื่องความสวยความงาม ชอบลองสกินแคร์และเมกอัปใหม่ ๆ ตามติดทุกคอนเทนต์เกี่ยวกับบิวตีอยู่เสมอ

จนได้พบกับแบรนด์ความงามหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น Glossier, Glow Recipe หรือ Herbivore ซึ่งยังไม่ค่อยมีในไทยในตอนนั้น

คุณแอ๊นจึงมองเห็นโอกาส เริ่มหิ้วสินค้ากลับมาให้คนที่สนใจในรูปแบบร้านพรีออร์เดอร์เล็ก ๆ แต่ปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด จนเป็นแรงบันดาลใจให้เปิดร้านจริงจัง

กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นของ DAILYPAL ร้าน Selected-Beauty ที่รวบรวมแบรนด์ความงามหลายแบรนด์จากต่างประเทศ ทั้งสกินแคร์และเมกอัป มาไว้ในที่เดียว

โดย DAILYPAL ไม่ได้เน้นขายสินค้าหลากหลายแบรนด์ หรือหลาย SKU เท่าร้าน Beauty Retailer ใหญ่ ๆ แต่ขายเฉพาะสิ่งที่ทีมทดลองใช้เองแล้วว่าดีจริง

ซึ่งคุณแอ๊นมองว่าเวลาลูกค้าเดินเข้าร้านที่มีสินค้าเยอะ ๆ มักจะเลือกไม่ถูก ไม่มั่นใจว่าสิ่งนี้เหมาะกับผิวเราหรือเปล่า แต่ DAILYPAL ตั้งใจจะเป็นร้านที่คัดของมาให้แล้วว่าดี และบอกได้เลยว่าสิ่งนี้เหมาะกับใคร

นอกจากนี้ อีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของ DAILYPAL ก็คือ การนำเสนอสินค้าอย่างน่าสนใจ ผ่านคอนเทนต์ที่เข้าถึงง่าย และตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด

เหมือนเวลาที่เพื่อนสนิท “ป้ายยา” ให้เราลองใช้ของดีที่เคยใช้จริงมาแล้ว

ซึ่งคุณแอ๊นได้พูดถึงเคล็ดลับของการทำคอนเทนต์ว่า ไม่ได้เริ่มจากคำถามว่าจะไวรัลไหม แต่เริ่มจากการตั้งต้นว่า สินค้านี้ช่วยแก้ปัญหาอะไรให้กับลูกค้าได้บ้าง แล้วนำ Pain Point เหล่านั้นมาสื่อสารในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

ที่สำคัญคือ ควรทำวิดีโอให้น่าสนใจและกระชับ กระตุ้นให้ลูกค้าหยุดดู และเข้าใจสารที่เราต้องการจะสื่อให้ได้ภายในไม่กี่วินาที

เช่น คุณสมบัติของ CLE CCC Cream มีเนื้อครีมที่เกลี่ยง่าย เหมาะกับวันรีบ ๆ ก็มีการทำคลิปแต่งหน้าในรถแบบเร็ว ๆ ให้ลูกค้าเห็นว่าอยู่บนรถก็แต่งหน้าได้ง่าย ๆ

จุดนี้เองที่ช่วยให้ข้อความที่ส่งออกไป สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเมื่อผู้ใช้จริงเริ่มแชร์ประสบการณ์ ก็จะเกิดเป็นกระแสรีวิวแบบออร์แกนิกตามมา

อย่างกรณีของ Oddtype ลิปสติกจากเกาหลีใต้ ที่เพียง 4 เดือนหลังจากเริ่มวางขาย DAILYPAL ก็สามารถขายลิปสติกไปแล้วกว่า 12,000 แท่ง สะท้อนให้เห็นถึงพลังของการสร้างแบรนด์ ไม่ใช่แค่ขายแล้วจบ

จึงไม่แปลกใจที่แบรนด์ในร้านปัจจุบัน ทั้ง Oddtype, CLE Cosmetics, Alternative Stereo, PURITO, และ KAJA จะกลายเป็นที่พูดถึง ทั้งที่ก่อนหน้านี้แทบไม่มีใครรู้จัก

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดนี้ก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ การทำธุรกิจนี้อาจจะไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะหลายแบรนด์ก็หันมาลุยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซด้วยตัวเอง

แล้ว DAILYPAL ต้องปรับตัวอย่างไร ?

แม้ตอนนี้แบรนด์ต่างชาติจะเข้ามาทำตลาดในไทยได้เอง และผู้บริโภคก็เข้าถึงสินค้าได้ง่ายขึ้นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่ DAILYPAL กลับมองเห็นช่องว่างที่แบรนด์เหล่านั้นยังไม่มี

คุณแอ๊นพูดถึงเรื่องนี้ว่า “เราไม่ได้อยากแค่ขายของให้จบ ๆ ไป แต่ตั้งใจจะเป็นพาร์ตเนอร์ที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตในไทยได้อย่างยั่งยืน”

เพราะ DAILYPAL มั่นใจว่า การมีฐานลูกค้าที่เชื่อมั่น และความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคไทยอย่างลึกซึ้ง เป็นจุดแข็งที่ช่วยให้แบรนด์ที่จับมือกับ DAILYPAL เติบโตได้ไวและไกลกว่าเดิม

แต่ก็ไม่ใช่ใครก็ได้ ที่จะได้เป็นพาร์ตเนอร์กับร้าน เพราะการเลือกสินค้าเข้าร้าน ไม่ได้ดูแค่ตามกระแส แต่ต้องผ่านการทดลองใช้จริงโดยทีมงาน ถ้าคุณภาพดีและเหมาะกับตลาดไทย ทีมจึงจะติดต่อแบรนด์เพื่อขอเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ในบางกรณี แค่ส่งอีเมลอาจไม่พอ คุณแอ๊นและคุณโอ๊ตเล่าว่าเคยถึงขั้นตามหาออฟฟิศแบรนด์จากที่อยู่ในต่างประเทศ แล้วบินไปนำเสนอ Presentation ด้วยตัวเอง เพื่อให้แบรนด์เห็นความตั้งใจจริง

เนื่องจาก DAILYPAL ไม่ได้มองตัวเองเป็นเพียงร้าน Selected-Beauty ทั่วไป แต่เป็น Growth Accelerator ที่ช่วยวางกลยุทธ์และพัฒนาแบรนด์ให้เข้ากับตลาดไทยได้อย่างแท้จริง ซึ่งบทบาทนี้เองที่ทำให้แบรนด์ต่างประเทศเปิดใจ และเลือกจับมือกับ DAILYPAL

จนถึงตอนนี้ DAILYPAL มี Key Brand ทั้งหมด 7 แบรนด์ และได้รับสิทธิ์เป็น Distributor อย่างเป็นทางการของแบรนด์ Oddtype และ CLE Cosmetics

และในอนาคต DAILYPAL มีแพลนจะสร้าง House Brand ของตัวเองเพื่อเติมเต็มสินค้าทุกหมวดหมู่ให้ครบครัน ตอบทุกความต้องการของคนไทยได้อย่างตรงใจยิ่งขึ้น

อีกทั้ง ยังมีแผนในการทำให้บริการแข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยการขยายหน้าร้าน ซึ่งตอนนี้มี Pop-up Store ที่ช่วยสร้างการเติบโต พร้อมกับมี Beauty Advisor เพื่อยกระดับการให้บริการแบบพรีเมียมมากขึ้น

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเห็นภาพชัดเจนแล้วว่า ในยุคที่ทุกคนขายของเหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้ DAILYPAL โดดเด่นขึ้นมา ไม่ใช่แค่การมีของหายาก หรือคอนเทนต์ไวรัล

แต่คือ “ความจริงใจ” และ “ความเข้าใจลูกค้า” ที่สั่งสมมาทีละนิด ผ่านสินค้าทุกชิ้นที่คัดมา และทุกเรื่องราวที่เล่าออกไปอย่างมีความหมาย

เพราะสุดท้ายแล้ว ลูกค้าไม่ได้อยากซื้อของจากร้านที่ดังที่สุด แต่เลือกเชื่อร้านที่ไว้ใจได้มากที่สุดต่างหาก..

Reference :

สัมภาษณ์พิเศษกับผู้ก่อตั้งแบรนด์ DAILYPAL