MizuMi x ลงทุนเกิร์ล

กระแส T-Beauty ในบ้านเรากำลังเติบโตอย่างร้อนแรง
เห็นได้จากข้อมูลของ Statista ที่ระบุว่า ในปี 2025 ตลาด Beauty & Personal Care ในประเทศไทยจะมีมูลค่า 7.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.5 แสนล้านบาท

ขณะที่ข้อมูลของ ttb analytics ระบุมูลค่าตลาดเครื่องสำอางในประเทศไทยปี 2025 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องอยู่ที่ 13.3% เมื่อเทียบกับปี 2024

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ กระแส T-Beauty หรือผลิตภัณฑ์ความงามจากไทย เติบโตสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ ส่วนสำคัญมาจากคุณภาพของ T-Beauty ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ จนหนุนให้ตลาดโดยรวมขยายตัว

หนึ่งในผู้นำของแบรนด์ไทยที่สร้างแรงบันดาลใจและผลักดันอุตสาหกรรมความงามของไทย หรือ T-Beauty ให้ก้าวไกลสู่ระดับนานาชาติ คือ Mizuhada Group เจ้าของแบรนด์ MizuMi, Bomi และ Gentle Colors
โดยล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัล Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) 2025 ในสาขา Inspirational Brand Award หรือ แบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจ กลุ่ม Personal Care โดยมีแบรนด์หงส์ไทย และ IN2IT ที่ได้รางวัลนี้ด้วย

แล้วรางวัลนี้สำคัญอย่างไร ?
ทำไม Mizuhada Group ถึงสามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

Asia Pacific Enterprise Awards (APEA) เป็นเวทีประกาศเกียรติคุณด้านธุรกิจระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จัดขึ้นโดย Enterprise Asia องค์กรไม่แสวงหากำไร ที่มีเครือข่ายธุรกิจครอบคลุมหลายประเทศในเอเชีย

เป้าหมายของรางวัลนี้ เพื่อยกระดับมาตรฐานธุรกิจ ส่งเสริมผู้ประกอบการที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักธุรกิจรุ่นใหม่

โดยในแต่ละปี APEA จะมอบรางวัลให้กับองค์กรและผู้นำธุรกิจ ที่มีผลงานโดดเด่นในหลายมิติ อาทิ

- ด้านความเป็นเลิศในการดำเนินงาน (Operational Excellence)
- นวัตกรรม (Innovation)
- ความยั่งยืนทางธุรกิจ (Business Sustainability)
- ความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจผ่านแบรนด์และความเป็นผู้นำองค์กร (Inspirational Leadership & Brand)

เรียกได้ว่ารางวัลนี้ ถือเป็นตัวแทนความสำเร็จของบิวตี้แบรนด์ไทย ที่สร้างผลกระทบเชิงบวกทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง

แล้วทำไม Mizuhada Group ถึงขึ้นแท่นเป็นองค์กรไทย ที่โดดเด่นจนสามารถคว้ารางวัลดังกล่าวมาครอง

ทั้งหมดต้องย้อนไปสู่จุดเริ่มต้นของ Mizuhada Group ที่เกิดจากความเชื่อของคุณหนุย-วริษฐา สืบพันธ์วงษ์ ผู้บริหารหญิงเก่งที่เชื่อว่า “Beauty must be credible and accessible for all” จึงได้สร้างแบรนด์ MizuMi ขึ้นมา

โดยมีสินค้าสร้างชื่อคือ ครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่ายภายใต้แบรนด์ MizuMi
ก่อนที่จะขยายไปในสินค้าหลากหลายกลุ่มเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีผิวแพ้ง่ายอย่างครบวงจร
ต่อมายังมีการแตกแบรนด์ใหม่อย่าง Bomi ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำหรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่มีงานวิจัยรองรับ และ Gentle Colors แบรนด์เครื่องสำอางที่สะท้อนคอนเซปต์ “Diverse Beauty” ความงามที่หลากหลาย และการยอมรับในตัวตนที่ไม่ต้องพยายามเป็นใครอื่น

ด้วยพอร์ตโฟลิโอของแบรนด์ที่มีความหลากหลาย บวกกับกลยุทธ์ที่ผสานคุณภาพที่พิสูจน์ได้ (Efficacy) และ การเข้าถึงได้ (Accessibility) ไม่เพียงทำให้สินค้าต่าง ๆ ของแบรนด์ครองใจลูกค้า
แต่ในปีที่ผ่านมา Mizuhada Group ยังสามารถทำรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท

ไม่เพียงเท่านี้ คุณหนุยยังส่งออกกระแส T-Beauty ไปสร้างชื่อในต่างแดน ด้วยการขยายธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม ลาว และมาเลเซีย

สำหรับก้าวต่อไปของ Mizuhada Group คุณหนุยตั้งเป้าผลักดัน T-Beauty ให้แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ตั้งใจเดินหน้าสร้างองค์กร ให้ก้าวทันโลกธุรกิจที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ขับเคลื่อนการทำงานภายในผ่าน AI-Powered Intelligence ควบคู่กับกลยุทธ์การตลาดที่ Localized ให้เข้ากับแต่ละประเทศ

ขณะเดียวกันยังตั้งพันธกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในมิติสิ่งแวดล้อมและสังคม
ที่กำลังเป็นโจทย์สำคัญในการสร้างมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรมความงาม ที่ไม่ได้ทำเพียงเพื่อเป้าหมายในการขายเท่านั้น

ทั้งหมดนี้ คือบทพิสูจน์ที่สะท้อนให้เห็นว่า ทำไม Mizuhada Group ถึงสามารถคว้ารางวัล APEA 2025
ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความสำเร็จขององค์กร

แต่ยังตอกย้ำว่า T-Beauty เริ่มมีความโดดเด่นในระดับภูมิภาคและมีพื้นที่ที่จะเฉิดฉายบนเวทีโลกมากขึ้น จนอาจเป็นคลื่นลูกใหม่ที่น่าจับตา ว่าจะก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จไม่ต่างจาก K-Beauty และ J-Beauty ได้ในอนาคต