
InspirationEntertainment
ทำไมเปอร์โตริโก ถึงเป็นดินแดนที่ผลิต นักร้องชื่อดังระดับโลกมากมาย
8 ม.ค. 2021
ทำไมเปอร์โตริโก ถึงเป็นดินแดนที่ผลิต นักร้องชื่อดังระดับโลกมากมาย /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าพูดถึงเปอร์โตริโก เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจจะไม่คุ้นเคยกับประเทศนี้
แต่รู้หรือไม่คะ “Despacito” เพลงที่มียอดผู้ชมใน YouTube กว่า 7 พันล้านคน
ซึ่งเป็นเพลงที่มียอดผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นเพลงของนักร้องชาวเปอร์โตริโก
แต่รู้หรือไม่คะ “Despacito” เพลงที่มียอดผู้ชมใน YouTube กว่า 7 พันล้านคน
ซึ่งเป็นเพลงที่มียอดผู้ชมมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นเพลงของนักร้องชาวเปอร์โตริโก
เพลง Despacito มีเนื้อเพลงเป็นภาษาสเปน
ซึ่งถ้าพูดถึงเพลงลาติน 10 อันดับแรก ที่มียอดคนดูมากที่สุดบน YouTube ในปี 2019
จะเป็นเพลงที่ร้องโดยชาวเปอร์โตริโกถึงครึ่งนึง
ซึ่งถ้าพูดถึงเพลงลาติน 10 อันดับแรก ที่มียอดคนดูมากที่สุดบน YouTube ในปี 2019
จะเป็นเพลงที่ร้องโดยชาวเปอร์โตริโกถึงครึ่งนึง
ใครจะไปคิดว่าประเทศเล็กๆ ที่มีขนาดเพียง 9,104 ตารางกิโลเมตร
ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับพื้นที่ของจังหวัดนครสวรรค์
และมีประชากรเพียงแค่ 3 ล้านคน จะมีนักร้องชื่อดังระดับโลกมากถึงขนาดนี้
ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับพื้นที่ของจังหวัดนครสวรรค์
และมีประชากรเพียงแค่ 3 ล้านคน จะมีนักร้องชื่อดังระดับโลกมากถึงขนาดนี้
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟังค่ะ
เรามาทำความรู้จักกับประเทศเปอร์โตริโกกันก่อนสักนิด
เปอร์โตริโก เป็นคำที่มาจากภาษาสเปน แปลว่า “เกาะแห่งความร่ำรวย”
ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นเกาะ ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน มหาสมุทรแอตแลนติก
ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นเกาะ ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน มหาสมุทรแอตแลนติก
จริงๆ แล้วเปอร์โตริโกไม่ถือว่าเป็นประเทศ
เพราะที่นี่เป็นดินแดนในเครือจักรภพของสหรัฐอเมริกา
อธิบายง่ายๆ ก็เป็นเหมือนเขตปกครองพิเศษ ของสหรัฐอเมริกานั่นเอง
เพราะที่นี่เป็นดินแดนในเครือจักรภพของสหรัฐอเมริกา
อธิบายง่ายๆ ก็เป็นเหมือนเขตปกครองพิเศษ ของสหรัฐอเมริกานั่นเอง
โดยในอดีตดินแดนแห่งนี้เคยตกเป็นอาณานิคมของสเปนมาเกือบ 400 ปี
ทำให้ได้วัฒนธรรมมาจากสเปนค่อนข้างเยอะ
ทำให้ได้วัฒนธรรมมาจากสเปนค่อนข้างเยอะ
แต่หลังจากที่สเปนแพ้สงครามกับสหรัฐอเมริกา
จึงทำให้ต้องเสียเกาะเปอร์โตริโกให้แก่สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
จึงทำให้ต้องเสียเกาะเปอร์โตริโกให้แก่สหรัฐอเมริกา ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตาม สเปนก็ถือเป็นผู้ที่เข้ามาวางรากฐานให้กับที่นี่
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา, เศรษฐกิจ, การเมือง และสังคม
ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา, เศรษฐกิจ, การเมือง และสังคม
เกาะแห่งนี้จึงยังคงมีกลิ่นอายในความเป็นสเปนอยู่สูง ทั้งในเรื่องของภาษา และวัฒนธรรม
เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ที่เราเรียกกันรวมๆ ว่า “กลุ่มลาตินอเมริกา”
ซึ่งก็เคยตกเป็นอาณานิคมของสเปนมาก่อนเช่นกัน
เหมือนกับประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ที่เราเรียกกันรวมๆ ว่า “กลุ่มลาตินอเมริกา”
ซึ่งก็เคยตกเป็นอาณานิคมของสเปนมาก่อนเช่นกัน
ยกเว้นเพียงแค่ประเทศบราซิลที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของโปรตุเกส
แต่โดยรวมแล้ววัฒนธรรมของประเทศเหล่านี้ ก็ยังมีความคล้ายคลึงกันอยู่
แต่โดยรวมแล้ววัฒนธรรมของประเทศเหล่านี้ ก็ยังมีความคล้ายคลึงกันอยู่
ที่สำคัญ ประเทศในลาตินอเมริกาส่วนใหญ่ รวมถึงเปอร์โตริโก ก็ยังคงใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการ
จึงทำให้ภาษาสเปน กลายเป็นหนึ่งในภาษาที่มีคนพูดมากที่สุดของโลก
จึงทำให้ภาษาสเปน กลายเป็นหนึ่งในภาษาที่มีคนพูดมากที่สุดของโลก
นอกจากนั้น สหรัฐอเมริกาซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับประเทศเหล่านี้
ก็ยังได้รับอิทธิพล จนทำให้มีคนที่พูดภาษาสเปนอยู่มากถึง 62 ล้านคน
ก็ยังได้รับอิทธิพล จนทำให้มีคนที่พูดภาษาสเปนอยู่มากถึง 62 ล้านคน
ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ สำหรับสินค้าจำพวก Soft power ที่ใช้ภาษาสเปน
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์, ซีรีส์, ดนตรี หรือเพลง
ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์, ซีรีส์, ดนตรี หรือเพลง
จึงไม่น่าแปลกใจที่เพลงภาษาสเปนส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เปอร์โตริโกมีชื่อเสียงในเรื่องของดนตรีและเพลงเป็นพิเศษ
นั่นก็คือ เป็นต้นกำเนิดของแนวเพลง Reggaeton ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
นั่นก็คือ เป็นต้นกำเนิดของแนวเพลง Reggaeton ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
จุดเด่นของแนวเพลงนี้คือเสียงจังหวะของกลองที่เป็นเอกลักษณ์
และยังมีการผสมผสานระหว่างทำนองเพลงเรกเก้และดนตรีของคนลาตินอเมริกาท้องถิ่น
และยังมีการผสมผสานระหว่างทำนองเพลงเรกเก้และดนตรีของคนลาตินอเมริกาท้องถิ่น
ที่น่าสนใจคือ ชาวเปอร์โตริโก มีการใช้ดนตรีแนว Reggaeton
เพื่อเป็นเครื่องมือแสดงออกทางความคิด คล้ายกับวัฒนธรรมฮิปฮอป
ซึ่งจะมีเนื้อเพลงเสียดสีการเมือง และสะท้อนสังคมความเป็นอยู่ของเปอร์โตริโก
จึงทำให้ดนตรีแนว Reggaeton กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ “ความขบถ”
เพื่อเป็นเครื่องมือแสดงออกทางความคิด คล้ายกับวัฒนธรรมฮิปฮอป
ซึ่งจะมีเนื้อเพลงเสียดสีการเมือง และสะท้อนสังคมความเป็นอยู่ของเปอร์โตริโก
จึงทำให้ดนตรีแนว Reggaeton กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ “ความขบถ”
และเมื่อแนวดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ มาร้องคู่กับภาษาสเปน ซึ่งเป็นภาษาที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหลในเรื่องของสำเนียง
จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว จนแพร่หลายไปทั่วทวีปอเมริกา และได้รับความนิยมทั่วโลก
จึงกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว จนแพร่หลายไปทั่วทวีปอเมริกา และได้รับความนิยมทั่วโลก
อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ การที่เปอร์โตริโกเป็นดินแดนในเครือจักรภพของสหรัฐอเมริกา และถือพาสปอร์ตของสหรัฐอเมริกา ทำให้สามารถเดินทางเข้าสู่สหรัฐอเมริกาได้ไม่ยาก
ทำให้ปัจจุบันมีชาวเปอร์โตริโก และคนที่มีเชื้อสายเปอร์โตริโกอยู่ในสหรัฐอเมริกากว่า 5 ล้านคน
ทำให้ปัจจุบันมีชาวเปอร์โตริโก และคนที่มีเชื้อสายเปอร์โตริโกอยู่ในสหรัฐอเมริกากว่า 5 ล้านคน
เรื่องนี้ยังเป็นสาเหตุให้ศิลปินเปอร์โตริโกมีโอกาสเข้าถึงตลาดเพลงในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเหมือนประตูสู่ตลาดเพลงระดับโลก ได้ง่ายกว่าศิลปินชาติลาตินอเมริกาอื่นๆ ด้วย
ตัวอย่างศิลปินชาวเปอร์โตริโกที่สามารถสร้างชื่อเสียงในระดับโลก
โดยวัดได้จากยอดผู้ชมใน YouTube
โดยวัดได้จากยอดผู้ชมใน YouTube
Luis Fonsi เจ้าของเพลง Despacito ที่มียอดผู้ชมกว่า 7 พันล้านคน
Pedro Capó และ Farruko ผู้ที่ร้องเพลง Calma ที่มียอดผู้ชมกว่า 2 พันล้านคน
Daddy Yankee เจ้าของเพลง Con Calma ที่ยอดผู้ชมกว่า 2 พันล้านคน
Ricky Martin ผู้ที่ร้องเพลง Vente Pa' Ca มียอดผู้ชมกว่า 1 พันล้านคน
Don Omar เจ้าของเพลง Danza Kuduro มียอดผู้ชมกว่า 1 พันล้านคน
Bad Bunny เจ้าของเพลง Mia มียอดผู้ชมกว่า 1 พันล้านคน
Pedro Capó และ Farruko ผู้ที่ร้องเพลง Calma ที่มียอดผู้ชมกว่า 2 พันล้านคน
Daddy Yankee เจ้าของเพลง Con Calma ที่ยอดผู้ชมกว่า 2 พันล้านคน
Ricky Martin ผู้ที่ร้องเพลง Vente Pa' Ca มียอดผู้ชมกว่า 1 พันล้านคน
Don Omar เจ้าของเพลง Danza Kuduro มียอดผู้ชมกว่า 1 พันล้านคน
Bad Bunny เจ้าของเพลง Mia มียอดผู้ชมกว่า 1 พันล้านคน
หรือแม้แต่นักร้องชื่อดังอย่าง Jennifer Lopez ก็เป็นชาวอเมริกันที่มีพ่อแม่เป็นชาวเปอร์โตริโกเช่นกัน
ที่น่าสนใจอีกเรื่องคือ ความนิยมในเพลงภาษาสเปนเหล่านี้
ไม่ได้หยุดอยู่ที่คนที่พูดภาษาสเปนเท่านั้น
เพราะอย่าง Despacito ก็ยังฮิตติดชาร์ตเพลงในบ้านเรารวมถึงประเทศอื่นๆ เช่นกัน
ไม่ได้หยุดอยู่ที่คนที่พูดภาษาสเปนเท่านั้น
เพราะอย่าง Despacito ก็ยังฮิตติดชาร์ตเพลงในบ้านเรารวมถึงประเทศอื่นๆ เช่นกัน
แสดงให้เห็นว่าคนชาติอื่นๆ ทั่วโลกที่ไม่ได้ใช้ภาษาสเปน
ก็ยังฟังเพลงลาตินและสนุกกับแนวเพลงนี้ได้
ก็ยังฟังเพลงลาตินและสนุกกับแนวเพลงนี้ได้
ส่วนหนึ่งอาจเพราะด้วยแนวดนตรีเพลง Reggaeton ที่เน้นจังหวะของกลองที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เราสามารถสนุกกับเพลงลาตินได้ ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจเนื้อหาของเพลงนั้นๆ
ซึ่งอ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงจะคาดไม่ถึงว่า
เกาะเล็กๆในทะเลแคริบเบียน ที่มีประชากรเพียงแค่ 3 ล้านคน จะเป็นบ้านเกิดของศิลปินนักร้องชื่อดังระดับโลกมากมาย
เกาะเล็กๆในทะเลแคริบเบียน ที่มีประชากรเพียงแค่ 3 ล้านคน จะเป็นบ้านเกิดของศิลปินนักร้องชื่อดังระดับโลกมากมาย
เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ เพราะว่าศิลปินชาวเปอร์โตริโกสามารถใช้สิ่งที่เป็นต้นทุนของพวกเขา นั่นก็คือการที่พวกเขาพูดภาษาสเปน และความสามารถในการเข้าถึงตลาดในสหรัฐอเมริกา
มาเป็นช่องทางในการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านเนื้อเพลงและดนตรี
และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทำให้บทเพลง กลายเป็นเพลงฮิตติดหู
มาเป็นช่องทางในการเผยแพร่วัฒนธรรมผ่านเนื้อเพลงและดนตรี
และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทำให้บทเพลง กลายเป็นเพลงฮิตติดหู
ซึ่งก็ไม่แน่ว่าเพลงลาตินที่เรากำลังฟังอยู่ตอนนี้
อาจจะเป็นเสียงร้องของศิลปินชาวเปอร์โตริโกก็เป็นได้..
อาจจะเป็นเสียงร้องของศิลปินชาวเปอร์โตริโกก็เป็นได้..
References:
-https://www.history.com/topics/us-states/puerto-rico-history
-https://theculturetrip.com/.../the-real-reason-why.../
-https://www.nbcnews.com/.../puerto-rico-part-u-s-here-s...
-https://www.statista.com/.../top-youtube-videos-views/
-https://remezcla.com/.../vevo-top-ten-most-viewed-videos.../
-https://www.youtube.com/playlist...
-https://filmclubthailand.com/.../music-on.../ema-reggaeton/
-https://www.shondaland.com/.../a278.../history-of-reggaeton/
-https://www.washingtonpost.com/.../how-music-took-down.../
-https://www.history.com/topics/us-states/puerto-rico-history
-https://theculturetrip.com/.../the-real-reason-why.../
-https://www.nbcnews.com/.../puerto-rico-part-u-s-here-s...
-https://www.statista.com/.../top-youtube-videos-views/
-https://remezcla.com/.../vevo-top-ten-most-viewed-videos.../
-https://www.youtube.com/playlist...
-https://filmclubthailand.com/.../music-on.../ema-reggaeton/
-https://www.shondaland.com/.../a278.../history-of-reggaeton/
-https://www.washingtonpost.com/.../how-music-took-down.../