หากพูดถึงช่วงเวลาช็อปปิง ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการรีเทลในแต่ละปี 
แน่นอนว่า “Black Friday” คือหนึ่งในแคมเปญที่ผู้บริโภคเฝ้าจับตามองมากที่สุด

เพราะนี่ไม่ใช่แค่ช่วงลดราคาทั่วไป แต่คือจังหวะสำคัญที่กำลังซื้อปลายปีถูกปลดล็อก ผู้คนพร้อมใช้จ่าย ทั้งเพื่ออัปเดตสินค้าใหม่ อัปเกรดไลฟ์สไตล์ และเตรียมรับเทศกาลเฟสทีฟที่กำลังจะมาถึง

สำหรับประเทศไทย Black Friday ของ “เซ็นทรัลพัฒนา” คือแคมเปญที่หลายคนบอกว่าทำถึงทุกปี ด้วยการยกระดับจากโปรโมชันตามฤดูกาล ให้กลายเป็นแคมเปญเรือธงที่ทั้งผู้บริโภคและแบรนด์ต่างรอคอย

ทำให้ Black Friday ของ เซ็นทรัลพัฒนา ถูกจดจำในฐานะ No.1 Shopping Destination ของไทย อย่างชัดเจน 

แล้วอะไรคือเหตุผลเบื้องหลังความสำเร็จนี้ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

แคมเปญ “Black Friday ช็อปติดสปีดที่เซ็นทรัล 2025” ของเซ็นทรัลพัฒนา ถือเป็นแคมเปญลดราคาที่ใหญ่และทรงพลังที่สุดของปี

ด้วยโปรโมชันลดสูงสุดถึง 90% จัดพร้อมกันทั่วประเทศ 4 วันเต็ม ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา

ครอบคลุมทุกหมวดสินค้า ตั้งแต่แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึง IT & Gadget พร้อมร้านค้าให้เลือกช็อปมากกว่า 1,400 ร้านค้า

ซึ่งภาพที่เห็นได้อย่างชัดเจนตลอดช่วงแคมเปญ คือความสำเร็จของศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล ที่คึกคักแทบทุกสาขา เต็มไปด้วยผู้คนที่ตั้งใจออกมาจับจ่าย และใช้โอกาสนี้ในการซื้อสินค้า อัปเดตไลฟ์สไตล์ส่งท้ายปี

ที่น่าสนใจคือ แม้ Black Friday ของเซ็นทรัลพัฒนา จะจัดขึ้นเพียง 4 วัน แต่สามารถดันยอดขายไตรมาส 4 ให้เติบโตมากกว่า 24% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ตัวเลขนี้สะท้อนว่า Black Friday ไม่ได้ช่วยแค่ยอดขายของร้านค้า แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจช่วงปลายปีอีกด้วย

ต้องบอกว่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สะท้อนถึงศักยภาพของเซ็นทรัลพัฒนาในการบริหารแคมเปญ Black Friday ได้อย่างเป็นระบบ

ด้วยการคัดสรรและรวบรวมดีลจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ทั้งไทยและต่างประเทศ มาไว้ในที่เดียว

ซึ่งกลยุทธ์นี้ช่วยลดความซับซ้อนในการตัดสินใจของผู้บริโภค และสร้างปลายทางการช็อปปิง ทำให้ศูนย์การค้าในเครือเซ็นทรัล กลายเป็นจุดหมายหลักของการใช้จ่ายช่วงปลายปีอย่างแท้จริง

ในปีนี้ มีข้อมูลเชิงลึกจาก The 1 สะท้อนว่าผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” มากขึ้นอย่างชัดเจนhttps://www.longtungirl.com/1f4024eb-ae53-4f61-9a84-e0cea541d95b" width="624" height="380">

ส่งผลให้ 5 หมวดยอดนิยมอย่าง Fashion & Lifestyle, IT & Gadget, Beauty Clinic, Dining & Café, Home & Living เติบโตต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ Black Friday

โดยหมวด Fashion ยังคงครองแชมป์เป็นหมวดที่มียอดตัดสินใจซื้อสูงสุด เพราะตอบโจทย์ทั้งคนรุ่นใหม่และกลุ่มออฟฟิศ ได้ทั้งราคาที่เข้าถึงง่าย และแบรนด์ที่มั่นใจในคุณภาพ ในแบบ Value-for-Money

ขณะที่หมวด IT & Gadget ก้าวขึ้นมาเป็น Rising Star ของปีนี้ จาก Replacement Cycle ที่ชัดเจน ทำให้ปลายปีเป็นจังหวะเหมาะสำหรับการอัปเกรดอุปกรณ์

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า การตัดสินใจซื้อในช่วง Black Friday ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยส่วนลดเพียงอย่างเดียว 

แต่ผู้บริโภคกำลังมองหาฟังก์ชันที่ตอบโจทย์มากขึ้น และความคุ้มค่าในระยะยาว ทำให้แบรนด์ต้องแข่งขันกันทั้งด้านดีลและคุณค่าที่มอบให้ลูกค้า

นี่คือเหตุผลที่ Black Friday ของเซ็นทรัลพัฒนา ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การลดราคาในหมวดใดหมวดหนึ่ง แต่พัฒนาไปสู่การเป็น “มหกรรมลดทั้งศูนย์” ผู้บริโภคสามารถเลือกช็อปได้ครบ จบ และคุ้ม ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

ด้วยการเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ช็อปปิงอย่างต่อเนื่อง ลงทุนเกิร์ลเชื่อว่าในอนาคต เซ็นทรัลพัฒนาพร้อมตั้งเป้ายกระดับมาตรฐานความคุ้มให้สูงขึ้นอีกในปีถัดไป เพื่อรักษาบทบาทผู้นำตลาดรีเทลไทยอย่างยั่งยืน

ทั้งหมดนี้คือเหตุผลว่า ทำไม Black Friday ของเซ็นทรัลพัฒนา จึงก้าวขึ้นมาเป็น No.1 Shopping Destination ในใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง และสามารถทำให้ผู้บริโภค “นึกถึงที่นี่เป็นที่แรก” เมื่อคิดถึงการช็อปช่วง Black Friday..