“Santa Tell Me” เพลงคริสต์มาสยุคใหม่ ที่อาจเป็นเครื่องจักรทำเงินแบบ “All I Want for Christmas Is You” /โดย ลงทุนเกิร์ล

เข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสทีไร เพลย์ลิสต์เพลงคริสต์มาสก็มักถูกเปิดวนตลอดทั้งวัน เพื่อเติมบรรยากาศความสุขและความ Festive ในช่วงปลายปี

และถ้าพูดถึงเพลงคริสต์มาสระดับตำนาน ชื่อของ All I Want for Christmas Is You ของ Mariah Carey คงเป็นเพลงที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรกเสมอ

แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพลง “Santa Tell Me” ของ Ariana Grande ก็ถูกเปิดซ้ำไม่แพ้กัน จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในเพลงคริสต์มาสที่ค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นเพลงคริสต์มาสยุคใหม่ ที่ต้องเปิดทุกปลายปี

คำถามที่น่าสนใจคือ เพลงนี้จะมีศักยภาพเติบโตเป็นเครื่องจักรทำเงินระยะยาว เหมือนกับเพลงระดับตำนานอย่าง All I Want for Christmas Is You ได้หรือไม่ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

แม้เพลง Santa Tell Me ของ Ariana Grande จะไม่ได้เปิดตัวมาพร้อมกระแสถล่มทลายในทันที แต่เพลงนี้ค่อย ๆ เติบโตอย่างมั่นคงตลอดเวลากว่า 10 ปี

จนช่วงคริสต์มาสปี 2024 เพลง Santa Tell Me ก็สามารถไต่ขึ้น Top 10 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เพลงนี้ถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2014

สอดคล้องกับตัวเลขของเพลงนี้บน Spotify ในปีเดียวกันมียอดสตรีมสะสมกว่า 1,060 ล้านครั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้รับรายได้จาก Spotify ราว 133 ล้านบาท

วันนี้ Santa Tell Me กลายเป็นอีกหนึ่งเพลงที่ผู้คนทั่วโลกเปิดฟังทุกช่วงคริสต์มาส และมีแนวโน้มจะเติบโตเป็นเพลงที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

คล้ายกับ “All I Want for Christmas Is You” ของ Mariah Carey เพลงระดับตำนานที่ไม่ต้องมีเวอร์ชันใหม่ ไม่ต้องโปรโมตซ้ำ แต่ยังทำเงินได้ทุกเดือนธันวาคม จากการถูกเปิดวนซ้ำทั่วโลก

ล่าสุด Santa Tell Me ยังทำสถิติใหม่ ด้วยการขึ้นไปถึงอันดับ 5 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งถือเป็นอันดับสูงสุดที่เพลงนี้เคยทำได้ นับตั้งแต่เปิดตัวมา

ขณะเดียวกัน ยอดสตรีมบน Spotify ก็ขยับขึ้นมาอยู่ที่ราว 1,400 ล้านครั้ง สะท้อนให้เห็นว่า ความนิยมของเพลงนี้ยิ่งชัดขึ้นทุกปี

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพลง Santa Tell Me ไม่ได้มีดนตรีแบบคริสต์มาสจ๋า ดั้งเดิมแบบระฆัง คอรัส สไตล์คลาสสิกเกินไป แต่เป็นเพลงที่ฟังง่าย เปิดได้ทั้งในร้านค้าและบนโซเชียลมีเดีย ทำให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ต่อเนื่อง

แม้จะไม่มีการเปิดเผยตัวเลขรายได้ของ Ariana Grande จากเพลง Santa Tell Me อย่างเป็นทางการ แต่รายได้หลักของเพลงนี้ คาดว่ามาจากหลายช่องทาง ได้แก่

- รายได้จากสตรีมมิง

- ค่าลิขสิทธิ์จากการเปิดในร้านค้า ห้างฯ และพื้นที่สาธารณะ

- รายได้จากคลื่นวิทยุ และสื่อออนไลน์

- การนำไปใช้ในคอนเทนต์ โฆษณา และโซเชียลมีเดีย

ซึ่งเมื่อรวมกันแล้ว เพลงเพียงเพลงเดียว สามารถสร้างกระแสเงินสดซ้ำทุกเดือนธันวาคมได้อย่างต่อเนื่อง

หากมองในเชิงเส้นทางการเติบโต เพลง All I Want for Christmas Is You ใช้เวลาประมาณ 25 ปี กว่าจะกลายเป็นเพลงคริสต์มาสอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 และเป็นเครื่องจักรทำเงินจากค่าลิขสิทธิ์ทุกปี จนถึงทุกวันนี้

ขณะที่ Santa Tell Me ของ Ariana Grande ใช้เวลาราว 10 ปี ก็เริ่มเห็นสัญญาณเดียวกัน จากการไต่ชาร์ต ยอดสตรีมที่เพิ่มขึ้น และการถูกเปิดซ้ำทั่วโลก

แม้ยังไม่ถึงระดับเดียวกัน แต่เส้นทางที่กำลังเดินอยู่ ก็ชี้ว่า Santa Tell Me อาจเป็นเพลงคริสต์มาสเครื่องจักรทำเงินยุคใหม่ในอนาคต

แบบเดียวกับที่ All I Want for Christmas Is You ของ Mariah Carey ที่เมื่อปี 2024 ได้เป็นเพลงที่ได้รับค่าลิขสิทธิ์ไปแล้ว กว่า 2,700 ล้านบาท จนกลายเป็นตำนานที่ทำเงินต่อไปในทุกเดือนธันวาคม..

References :

- Yahoo, Forbes