เจาะลึก Gucci x Balenciaga ปรากฏการณ์การร่วมมือกันครั้งแรก ของสองแบรนด์หรู /โดย ลงทุนเกิร์ล

เมื่อไม่กี่วันก่อนเราน่าจะเห็นแฟชั่นโชว์คอลเลกชัน Aria 
คอลเลกชันฉลองครบรอบ 100 ปี ของแบรนด์ Gucci 
ที่เป็นการจับมือกันระหว่างสองแบรนด์หรูระดับโลกอย่าง Gucci และ Balenciaga

โดยคอลเลกชันนี้ กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการแฟชั่น 
ทั้ง ๆ ที่ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทั้งสองแบรนด์ จับมือร่วมงานกับแบรนด์อื่น 
อย่างที่ผ่านมา ก็มีทั้ง Gucci x North Face, Gucci x Disney 
หรือแม้แต่ Balenciaga x Hello Kitty 

แล้วทำไมการจับมือของสองแบรนด์นี้ถึงน่าสนใจ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง 

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ว่านี่ไม่ใช่การร่วมกันออกคอลเลกชันกับแบรนด์อื่นเป็นครั้งแรก

หรือแม้แต่ในวงการแบรนด์หรูด้วยกันเอง 
เราก็คงเคยเห็นแบรนด์ดังอย่าง Louis Vuitton x Supreme 

ซึ่งเป็นการจับมือกันระหว่าง
Louis Vuitton แบรนด์หรูทางฝั่งไฮเอนด์ 
และ Supreme แบรนด์หรูทางฝั่งสตรีตแฟชั่น

ซึ่งถือเป็นการโคจรมาพบกันระหว่างแบรนด์หรูที่ต่างกลุ่มกันสุดขั้ว

แต่การร่วมมือกันระหว่าง Gucci และ Balenciaga ในครั้งนี้ กลับต่างออกไป
เพราะเป็นการผสมผสานสองแบรนด์หรูที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน 
อธิบายง่าย ๆ ก็คงเปรียบได้กับการเห็น Nike x Adidas 
เรื่องนี้จึงถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของวงการแฟชั่นเลยทีเดียว

แล้วเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ? 

หนึ่งในเหตุผลสำคัญก็คงเป็นเพราะ ทั้งสองแบรนด์ อยู่ภายใต้ Kering 
เครือแบรนด์หรูจากประเทศฝรั่งเศส ที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก 
เป็นเจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Gucci, Saint Laurent, Bottega Veneta รวมถึง Balenciaga

โดยในปี 1994 บริษัท Kering ได้ซื้อหุ้นของ Gucci เข้ามาในพอร์ตแบรนด์หรูเป็นแบรนด์แรก
และต่อมาก็เข้าซื้อหุ้นของ Balenciaga ในปี 2001 

ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้ ก็ถือเป็นแบรนด์ที่กำลังมาแรงเลยทีเดียว
โดยจากการจัดอันดับของ The Lyst Index hottest brands ในปี 2020 
Gucci ติดอยู่ในอันดับ 1 และตามมาด้วย Balenciaga ในอันดับที่ 2

จริง ๆ แล้ว การออกแบบของ Gucci และ Balenciaga 
ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ที่ค่อนข้างจะโดดเด่นต่างกันอย่างสิ้นเชิง

โดยทางฝั่ง Gucci ได้คุณ Alessandro Michele มาเป็น Creative Director 
ซึ่งเขาเข้ามาร่วมงานกับ Gucci ตั้งแต่ปี 2002 

และเป็นผู้ที่ปรับภาพลักษณ์ให้ Gucci ดูทันสมัยขึ้น 
อย่างการปรับเปลี่ยนไซซ์ของกระเป๋ารุ่น jackie 1961 ให้มีหลายขนาด เพื่อให้เหมาะกับคนทุกเพศ 

ส่วนทางฝั่งแบรนด์ Balenciaga ก็ได้คุณ Demna Gvasalia 
ดีไซเนอร์ชื่อดังผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Vetements 
ก่อนที่จะมารับตำแหน่งใหม่ในฐานะ Creative Director ของ Balenciaga ในปี 2015 

และนับตั้งแต่ที่คุณ Gvasalia เข้ามานั่งตำแหน่งนี้ เขาก็ได้สร้างสินค้าไอคอนิกมากมาย 
เช่น กระเป๋าที่เหมือนถุงสำเพ็ง รองเท้าสนีกเกอร์ หรือเสื้อคลุมที่มี 7 ชั้น  
โดยเขาต้องการนำเสนอแฟชั่นชั้นสูงเข้ากับสตรีตแวร์ในปัจจุบัน

ถึงแม้สไตล์ของทั้งสองดีไซเนอร์ จะแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว 
แต่พวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ก็คือ หัวก้าวหน้า 

ซึ่งทั้งคู่พยายามสร้างสรรค์งานออกแบบ ให้หลุดพ้นจากขนบธรรมเนียมแฟชั่นเดิม ๆ 
สร้างแฟชั่นที่ไร้กฎเกณฑ์และไม่แบ่งแยกเพศ
ทำให้การออกแบบของพวกเขาดึงดูดเหล่าแฟชั่นรุ่นใหม่ได้อย่างมาก 

ดังนั้นเมื่อทั้งสองได้มาร่วมงานกัน ก็ไม่ได้พยายามปรับสไตล์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
แต่กลับนำจุดเด่นของทั้งสองแบรนด์มาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่คุ้นตา

ซึ่งในอนาคตวงการแฟชั่นก็คงจะต้องสรรหาความแปลกใหม่ 
เพื่อสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าไปเรื่อย ๆ 

ก็ไม่แน่ว่า นอกจากการร่วมมือกันภายในเครือแล้ว 
เราอาจจะได้เห็น การร่วมกันออกแบบระหว่างแบรนด์ที่ไม่ได้อยู่เครือเดียวกัน 
อย่าง Gucci x Louis Vuitton หรือแม้แต่ Hermès x Chanel บ้าง ก็เป็นได้..

References: 
-https://www.kering.com/en/houses/couture-and-leather-goods/balenciaga/history/
-https://www.lyst.co.uk/data/the-lyst-index/q420/
-https://www.gq.com/story/gucci-balenciaga-collection-2021