รู้จัก “หนังมังสวิรัติ” ที่เริ่มมาแรง ในธุรกิจแฟชั่น
Business

รู้จัก “หนังมังสวิรัติ” ที่เริ่มมาแรง ในธุรกิจแฟชั่น

5 มิ.ย. 2021
รู้จัก “หนังมังสวิรัติ” ที่เริ่มมาแรง ในธุรกิจแฟชั่น /โดย ลงทุนเกิร์ล
ช่วงนี้สังคมเราเริ่มหันมาใส่ใจโลกกันมากขึ้น 
โดยหนึ่งในเทรนด์รักษ์โลกที่กำลังมาแรง ก็คงหนีไม่พ้นการใช้สินค้าที่ไม่ทำร้ายสัตว์
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง ของใช้ต่าง ๆ หรือบางคนอาจจะรวมไปถึงอาหารการกิน
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะพาทุกคนไปรู้จักกับ หนังมังสวิรัติ
อีกหนึ่งทางออกของอุตสาหกรรมแฟชั่นที่ทำร้ายโลก
แล้ว หนังมังสวิรัติ คืออะไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Vegan Leather หรือ หนังมังสวิรัติ พูดง่าย ๆ ก็คือหนังที่ทำมาจากพืช
ซึ่งพืชที่สามารถนำมาทำ Vegan Leather ก็มีอยู่หลายชนิด 
ได้แก่ สับปะรด, ต้นกระบองเพชร, เนื้อมะม่วง, ผิวแอปเปิล 
หรือแม้แต่ เห็ด ก็สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิต หนังมังสวิรัติได้ทั้งนั้น
แล้วนอกจากเรื่องการที่ไม่ทำร้ายสัตว์แล้ว 
หนังมังสวิรัติเอง ก็ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่ส่งผลดีต่อโลกของเราอีกด้วย 
ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Fruitleather Rotterdam 
ที่ได้นำเอาผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งเหลือทิ้งจากตลาดรอตเตอร์ดัม
กลับมาผลิตใหม่ จนกลายเป็นหนังจากเส้นใยมะม่วง
จึงกลายเป็นว่าหนังมังสวิรัติก็เป็นอีกทาง ที่จะช่วยลดขยะในอุตสาหกรรมอื่นไปในตัวด้วย
ที่น่าสนใจคือ แม้แต่แบรนด์รองเท้ากีฬาต่าง ๆ ซึ่งปกติก็มักจะใช้วัสดุที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำร้ายสัตว์อยู่แล้ว ก็เลือกที่จะหันมาใช้ Vegan Leather ด้วย
เพราะจริง ๆ แล้วถึงแม้ว่าการใช้วัสดุที่ไม่ได้ทำร้ายสัตว์ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ทำร้ายโลก
เพราะถ้าดูตามสถิติ มนุษย์เราจะทิ้งขยะจากแฟชั่น เฉลี่ยปีละ 31.75 กิโลกรัมต่อคน เลยทีเดียว
ลองคำนวณแค่จากจำนวนประชากรชาวไทย 69 ล้านคน
แปลว่าต่อปี แค่คนไทยก็ทิ้งขยะไปแล้วกว่า 2 ล้านตัน 
แล้วถ้าหากนับเป็นทั่วโลกจะมีจำนวนมหาศาลขนาดไหน.. 
นอกจากปัญหาด้านขยะแล้ว ด้านกระบวนการผลิตเอง ก็มีส่วนที่ทำร้ายโลกอยู่ไม่น้อย
โดยอุตสาหกรรมแฟชั่นจัดว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ทำร้ายโลกเป็นอันดับ 2 เลยทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า ทุกครั้งที่เราซักผ้าที่ทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ 
จะมีไมโครไฟเบอร์หรือเม็ดพลาสติกขนาดจิ๋ว ประมาณ 1,900 ตัว
ถูกปล่อยลงไปในน้ำ และสุดท้ายน้ำเหล่านั้นก็จะถูกส่งลงไปยังมหาสมุทรของเรา
ยังไม่รวมกับขยะที่ถูกทิ้งไว้ ที่มีเพียง 15% เท่านั้นที่ถูกนำมารีไซเคิล หรือนำไปบริจาคต่อ
ซึ่งขยะจากเส้นใยในผ้าต่าง ๆ เหล่านี้ กว่าจะย่อยสลายได้นั้นก็กินเวลาไปกว่า 200 ปีหรือมากกว่านั้น
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเหตุผลว่า ทำไมถึงแม้จะใช้วัสดุที่ไม่ได้ทำร้ายสัตว์ 
มันก็ยังส่งผลเสียต่อโลกของเราอยู่ดี
ซึ่งในด้านอุตสาหกรรมหนังสัตว์ก็เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมแฟชั่น
ที่ก่อให้เกิดขยะและมลพิษในปริมาณใกล้เคียงกัน แต่เพิ่มเติมการทำร้ายสัตว์เข้าไปด้วย 
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ มนุษย์เราจึงเริ่มมองหาสิ่งใหม่ 
ที่จะเข้ามาช่วยลดมลพิษจากการผลิต และรวมไปถึงลดขยะที่เกิดขึ้นจากแฟชั่นด้วย
และนี่เองจึงทำให้ Vegan Leather หรือหนังมังสวิรัติเริ่มเข้ามามีบทบาทกับวงการรองเท้ากีฬา
ซึ่งแม้แต่แบรนด์รองเท้ากีฬาระดับโลกอย่าง Adidas 
ก็หันมาเริ่มใช้ Vegan Leather กับรองเท้าบางรุ่นแล้วเช่นกัน
อย่างใยรองเท้า Adidas รุ่น Stan Smith Mylo 
ก็ทำมาจาก สารไมซีเลียม (Mycelium) ซึ่งเป็นสารที่พบมากในเห็ด 
เพื่อเป็นทางเลือกทดแทนการใช้หนังเทียม ที่ผลิตจากพลาสติกอย่างพอลิเมอร์ ซึ่งไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
โดยในงานแถลงข่าวเมื่อปลายปีที่แล้ว Adidas ยังได้ประกาศว่า 
60% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในปีนี้จะใช้วัสดุที่ยั่งยืน
ซึ่งรวมถึงเสื้อบอลที่ผลิตจากโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล รองเท้า Stan Smith Vegan 
และผลิตภัณฑ์อีกมากที่ใช้ผ้าฝ้ายรีไซเคิล
นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการเลือกใช้วัสดุทดแทน ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงไม่ทำร้ายสัตว์
อย่างไรก็ตาม บทความนี้ไม่ได้ต้องการชี้นำให้ทุกคนหันมาเลือกใช้หนังที่ทำจากพืช
หรือแม้แต่ชักชวนให้ทุกคนหันมาทานอาหารแบบมังสวิรัติ แต่เป็นเพียงการเสนออีกแนวทางเท่านั้น
เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่า ยังมีอีกหลายวิธีที่เราจะสามารถร่วมด้วยช่วยกัน
รักษาชีวิตของสัตว์ และในขณะเดียวกันก็รักษาโลกของเราให้น่าอยู่ขึ้นไปในทุกวัน.. 
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.