จุดเปลี่ยนปี 2013 ผู้คนพบรักในออนไลน์ มากกว่า ในโลกจริง
TechnologyLifestyleBusiness

จุดเปลี่ยนปี 2013 ผู้คนพบรักในออนไลน์ มากกว่า ในโลกจริง

4 ส.ค. 2020
จุดเปลี่ยนปี 2013 ผู้คนพบรักในออนไลน์ มากกว่า ในโลกจริง /โดย ลงทุนเกิร์ล
เมื่อก่อน ถ้าลองไปถามคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเราว่ารู้จักกันได้อย่างไร
คนส่วนใหญ่ก็อาจตอบว่า “รู้จักกันผ่านเพื่อน” หรือ “ครอบครัวเป็นคนแนะนำให้รู้จัก”
แต่เมื่อมีการคิดค้น “อินเทอร์เน็ต” ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้ชื่อว่า เชื่อมต่อโลกทั้งใบ เข้าด้วยกัน
วิธีการทำความรู้จักกันในยุคหลังอินเทอร์เน็ต จึงค่อยๆ เปลี่ยนไป
รวมถึงยังเป็นช่องทางให้เกิดธุรกิจใหม่ที่เรียกว่า “Online Dating”
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกๆ คนส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้วิธีดั้งเดิม
เน้นการทำความรู้จักกันผ่านคนรู้จัก หรือการพบปะในโลกจริง
นานๆ ครั้งเท่านั้น จึงจะมีการกล่าวถึง การพบรักแท้ จากโลกออนไลน์
แต่รู้หรือไม่คะ ว่าปี 2013 เป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องนี้
โดยมีงานวิจัยที่สำรวจพฤติกรรมการเริ่มต้นรู้จักกันของคู่ต่างเพศชาวอเมริกัน
พบว่า ในปี 2013 เป็นปีแรก ที่สัดส่วนการรู้จักกันบนโลกออนไลน์
สูงกว่า การรู้จักกันผ่านเพื่อน ซึ่งเป็นวิธีที่ครองอันดับ 1 มาโดยตลอดตั้งแต่ช่วงปี 1940
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ธุรกิจที่ได้ประโยชน์ก็คงหนีไม่พ้น Online Dating
ซึ่งถ้าพูดถึงแพลตฟอร์มหาคู่ ชื่อที่ลอยขึ้นมาเลยก็คงหนีไม่พ้น Tinder
แล้วรู้หรือไม่คะ ว่าเจ้าของ Tinder เป็นบริษัทที่ชื่อว่า Match Group
ที่น่าสนใจคือ บริษัทนี้นอกจากจะเป็นเจ้าของ Tinder แล้ว
ยังเป็นเจ้าของแฟลตฟอร์มหาคู่อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น
Hinge แพลตฟอร์มการจับคู่ผ่านเพื่อนของเพื่อนบนเฟซบุ๊ก
OurTime สังคมการหาคู่สำหรับคนอายุ 50+ ที่ใหญ่สุดในสหรัฐอเมริกา
Meetic บริการหาคู่อันดับต้นๆ ในโซนยุโรป
Pairs แอปพลิเคชันหาคู่ ที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่น
เรียกได้ว่าเป็นตัวจริงด้านการจับคู่สมชื่อ
เนื่องจาก Match Group ให้บริการแพลตฟอร์มเหล่านี้ รวมกว่า 40 ภาษา ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก
จุดเริ่มต้นของ Match Group เกิดขึ้นมาจากการที่ InterActiveCorp (IAC) บริษัทสื่อและช่องทีวี ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และผันตัวไปเป็นบริษัท Holdings กระจายการลงทุนในหลายธุรกิจ
ซึ่ง Tinder เป็นผลผลิตหนึ่งจากโครงการที่ได้รับการระดมทุนจาก IAC
รวมถึงแพลตฟอร์มหาคู่อื่นๆ เช่น Match.com, OkCupid, Meetic
ต่อมา IAC จึงตัดสินใจจดทะเบียนบริษัทลูก Match Group ขึ้นมา
สำหรับธุรกิจที่ให้บริการหาคู่ออนไลน์ทั้งหมดโดยเฉพาะ
แล้วตอนนี้ Match Group ใหญ่แค่ไหน?
Match Group จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายปี 2015 ด้วยราคา IPO หรือราคาซื้อขายแรก เพียง 12 ดอลลาร์สหรัฐ
เพียงเวลาไม่ถึง 5 ปี ราคาหุ้นของ Match Group เพิ่มขึ้นมาถึงกว่า 7 เท่า
ปัจจุบัน Match Group มีมูลค่าคิดเป็นเงินไทยกว่า 800,000 ล้านบาท
ซึ่งมูลค่าขนาดนี้ ใหญ่กว่า AOT หรือท่าอากาศยานไทย
ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่สุดเป็นอันดับ 2 ในตลาดหลักทรัพย์ไทยเสียอีก
ที่สำคัญคือ เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
Match Group ได้ประกาศแยกตัวออกจาก IAC อย่างเป็นทางการแล้ว
และปัจจุบัน ก็มีขนาดใหญ่กว่า IAC มากกว่าเท่าตัวแล้วเช่นกัน
โดยผลประกอบการล่าสุดในปี 2019
รายได้ 149,543 ล้านบาท กำไร 13,549 ล้านบาท
ซึ่งรายได้จาก Tinder คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 56% ของรายได้บริษัททั้งหมด
แล้ว Tinder มีรายได้จากอะไร ในเมื่อ Tinder ก็ให้คนใช้บริการฟรี
หลักการทั่วไปของ Tinder จะสุ่มเลือกคนที่มีโอกาสพัฒนาเป็นคนรู้ใจ
ถ้าไม่ชอบ ปัดซ้าย
ถ้าชอบ ปัดขวา
ถ้าชอบมากๆ ปัดบน
และเมื่อทั้ง 2 ฝั่งใจตรงกัน ระบบก็จะให้ทั้ง 2 คนสามารถติดต่อกันได้
แต่ข้อจำกัดที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง คือ การจำกัดจำนวนการชอบและขอบเขตการค้นหา
ซึ่งเราสามารถทำลายข้อจำกัดนั้นได้
ด้วยการเสียเงินอัปเกรดบัญชีของเรา ให้เป็น Tinder Gold
และจ่ายเป็นค่าสมาชิกรายเดือน เพื่อแลกกับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม
เช่น ปัดผิดกลับไปปัดใหม่ หรือบูสต์โปรไฟล์ให้คนอื่นเห็นเรามากขึ้น
หรือแม้แต่ เราสามารถบินไปอยู่ตรงไหนก็ได้ในโลก เพื่อค้นหาคนที่เราสนใจ
ดังนั้น สมาชิก Tinder Gold จึงสามารถนั่งอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ไปหาคนรู้ใจที่นิวยอร์กได้
โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสปอร์ต ไม่ต้องมีวีซ่า หรือแม้แต่การก้าวออกจากบ้าน
รายได้ของ Tinder หรือ Match Group จึงมาจากเหล่าคนที่ยอมจ่ายเพื่อเพิ่มโอกาส ในการเจอคนรู้ใจ
ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย เรื่องนี้ก็คงเป็นสิ่งที่เป็นความต้องการของคนเราไม่เปลี่ยนแปลง..
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
ถ้าเราซื้อหุ้น Match Group ในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
หรือเป็นช่วงที่ผู้คนกำลังตื่นกลัวกับการระบาดของโควิด-19
ตอนนี้เราจะได้กำไรจากหุ้นตัวนี้ สูงเกือบ 120%
ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนเท่านั้น..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.