Marillyn Hewson ซีอีโอบริษัทขีปนาวุธ 3 ล้านล้าน
Business

Marillyn Hewson ซีอีโอบริษัทขีปนาวุธ 3 ล้านล้าน

9 ก.ค. 2021
Marillyn Hewson ซีอีโอบริษัทขีปนาวุธ 3 ล้านล้าน /โดย ลงทุนเกิร์ล
ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา Lockheed Martin บริษัทค้าอาวุธระดับโลก ที่ผลิตทั้ง เครื่องบินรบ จรวด ขีปนาวุธ ได้ทำรายได้สูงสุดที่ 2 ล้านล้านบาท และมูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา
หลายคนอาจแปลกใจ ถ้ารู้ว่าผลงานเหล่านี้ ไม่ได้มาจากคนที่จบการศึกษาทางด้านวิศวกรรม หรือเทคโนโลยี มาโดยตรง แต่มาจากผู้หญิงที่มีชื่อว่า “Marillyn Hewson” ซึ่งครั้งหนึ่ง เธอเคยเป็นพนักงานแคชเชียร์ที่ Dairy Queen มาก่อน
เส้นทางชีวิตของคุณ Marillyn Hewson จะน่าสนใจขนาดไหน ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก บริษัท Lockheed Martin กันก่อน
Lockheed Martin เป็นบริษัทค้าอาวุธ สัญชาติอเมริกัน
ซึ่งชื่อบริษัท Lockheed Martin เกิดขึ้นในปี 1995 โดยมาจากการรวมชื่อของ 2 บริษัท อย่าง Lockheed Corporation บริษัทขายเครื่องบินรบ กับบริษัท Martin Marietta บริษัทขายจรวด ยานอวกาศ และขีปนาวุธ
แล้วในช่วงที่ผ่านมา ผลประกอบการของ Lockheed Martin เป็นอย่างไร ?
ปี 2018 รายได้ 1,613,000 ล้านบาท กำไร 151,000 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 1,794,000 ล้านบาท กำไร 187,000 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 1,962,000 ล้านบาท กำไร 205,000 ล้านบาท
หมายความว่ารายได้ของบริษัทนั้นเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี และมีกำไรเติบโตเฉลี่ย 16% ต่อปี
โครงสร้างของบริษัทมีรายได้ 75% มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา และอีก 25% มาจากประเทศอื่น ๆ
ซึ่งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การที่บริษัทมีรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2020 บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 3.3 ล้านล้านบาทนั้น เป็นผลงานภายใต้การบริหารของคุณ Marillyn Hewson
คุณ Marillyn Hewson (มาริลลิน ฮิวสัน) เกิดที่รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าปัจจุบันเธอจะมีอายุ 67 ปีแล้ว แต่ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง จากผลงานบริหาร Lockheed Martin จนทำให้มูลค่าบริษัทสามารถขึ้นไปแตะหลักล้านล้านบาทได้
แต่เส้นทางชีวิตของเธอก่อนที่จะประสบความสำเร็จนั้น ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบตั้งแต่วัยเด็ก
เนื่องจากพ่อของเธอเสียชีวิต ตั้งแต่เธออายุได้เพียง 9 ขวบ ทำให้แม่ของเธอต้องเลี้ยงเธอพร้อมกับพี่น้องอีก 4 คน ด้วยตัวคนเดียว
และเพื่อแบ่งเบาภาระทางการเงินของครอบครัว เธอจึงต้องทำงานพร้อมกับเรียนไปด้วยตั้งแต่เด็ก ถึงแม้ต้องทำงานหนักพร้อมกับเรียนควบคู่กันไป แต่เธอก็สามารถเรียนจบปริญญาตรีในสาขาบริหาร และปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัย Alabama ได้
หลังจากเรียนจบ เธอได้เข้าทำงานที่กระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกา ในตำแหน่งนักเศรษฐศาสตร์ แต่หลังจากทำอยู่ได้ 4 ปี เธอก็ค้นพบว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ชอบที่จะทำงานทางด้านนี้
ทำให้ในปี 1983 เธอจึงตัดสินใจลาออก และมาเริ่มต้นใหม่กับบริษัท Lockheed Martin โดยเธอเริ่มต้นจากการเป็นหัวหน้าตามแผนกต่าง ๆ และค่อย ๆ ไต่เต้าขึ้นมา จนในปี 2013 เธอได้ขึ้นมาเป็นผู้บริหารอย่างเต็มตัวให้กับ Lockheed Martin
ในช่วงที่เธอบริหาร Lockheed Martin อยู่ เธอได้สร้างผลงานมากมาย เช่น
ปี 2015 ได้เข้าซื้อกิจการของ Sikorsky Aircraft ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ ตัวอย่างรุ่นที่เราน่าจะรู้จักกัน ก็คือเฮลิคอปเตอร์รุ่น UH-60 Black Hawk ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้ในงานทั่วไป โดยในกองทัพไทยมีชื่อเรียกว่า ฮ.ท.60
และจากการตัดสินใจในครั้งนั้น ทำให้ Lockheed Martin สามารถผลิตเฮลิคอปเตอร์ของตัวเองได้
ต่อมาในปี 2019 บริษัทสามารถขายเครื่องบินรบ F-35 ให้กับรัฐบาล 500 ลำ เป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท และนับเป็นงบประมาณก้อนใหญ่สุด ในการซื้ออาวุธของประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งหนึ่งเลยทีเดียว
หลังจากบริหาร Lockheed Martin ได้ 8 ปี ในปี 2020 คุณ Marillyn Hewson ได้ลงจากตำแหน่ง CEO
เนื่องจากเธอต้องการให้เวลากับครอบครัวมากขึ้น
ซึ่งหากเรานับมูลค่าของบริษัท ตั้งแต่วันที่คุณ Marillyn Hewson ก้าวขึ้นมาเป็น CEO ในปี 2013 จนถึงวันที่เธอลงจากตำแหน่งในปี 2020
มูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้นมาจาก 8.8 แสนล้านบาท กลายเป็น 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเติบโตเกือบ 4 เท่า ภายในระยะเวลา 8 ปีเท่านั้น
และถ้าหากถามว่าเคล็ดลับความสำเร็จของเธอคืออะไร เธอได้กล่าวไว้ว่า คนที่เป็นกำลังใจสำคัญ และช่วยให้เธอประสบความสำเร็จได้มีอยู่ 2 คน
คนแรกคือ สามีของเธอ ซึ่งเป็นคนที่คอยช่วยเลี้ยงดูลูกทั้งสองคน รวมถึงช่วยดูแลเรื่องภายในบ้านทั้งหมด
ทำให้เธอหมดห่วงเรื่องของที่บ้าน และสามารถโฟกัสกับการทำงานได้เต็มที่
คนที่สองคือ คุณแม่ ซึ่งเป็นคนที่สอนให้เธอรู้จักคุณค่าของการทำงานหนัก รู้จักพึ่งพาตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือสอนให้ เธอมีความเป็นผู้นำตั้งแต่เด็ก
โดยเมื่อตอนคุณ Marillyn Hewson เรียนชั้นมัธยม เธอเคยทำงานเป็นแคชเชียร์ที่ Dairy Queen
และด้วยความที่เธอมีความเป็นผู้นำในตัวสูง ซึ่งก็เป็นผลมาจากสิ่งที่แม่ของเธอได้สั่งสอนไว้ เรื่องนี้ก็ทำให้ผู้จัดการเลื่อนตำแหน่งให้เธอเป็นหัวหน้ากะ หลังจากทำงานได้ไม่นาน
เรื่องราวของคุณ Marillyn Hewson นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างดี
ใครจะไปคาดคิดว่าจากคนที่มาทำงานเสริมเป็นแคชเชียร์ Dairy Queen ซึ่งก็อาจจะมีแววความเป็นผู้นำจนได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ากะ
เมื่อเติบโตขึ้น จะกลายเป็นผู้นำบริษัทค้าอาวุธระดับโลก และสามารถพาบริษัท มาสู่การมีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาทได้..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.