Goody แอปพลิเคชันส่งของขวัญ ที่ “ผู้ให้” ไม่ต้องกลัวว่าจะเซอร์ไพรส์ /โดย ลงทุนเกิร์ล

เวลาให้ของขวัญใคร เราก็คงอยากทำให้ “ผู้รับ” เซอร์ไพรส์
แต่หลาย ๆ ครั้ง กลับกลายเป็น “ผู้ให้” ที่ต้องเซอร์ไพรส์เสียเอง
เพราะซื้อของมาไม่ถูกใจผู้รับ หรือซื้อมาผิดไซซ์ก็เจอได้บ่อย ๆ

และยิ่งในช่วงที่เราไม่สามารถออกไปเดินเลือกซื้อของขวัญที่หน้าร้านได้อย่างเคย
ก็ทำให้หลายคนหันมาพึ่งการสั่งของผ่านช่องทางออนไลน์แทน
ปัญหาที่ตามมา ก็อาจจะเป็นสินค้าไม่ตรงปกบ้าง หรือหากสินค้ามีปัญหาก็ยังเปลี่ยนคืนยากกว่าปกติ

พอเรื่องเป็นแบบนี้ก็ทำให้มีคนมองเห็นโอกาสทางธุรกิจจากปัญหาเหล่านี้
และได้พัฒนาเป็นแอปพลิเคชัน Goody ที่จะเข้ามาช่วยให้การส่งของขวัญ
ไม่ต้องเจอเรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งคนรับและคนส่งอีกต่อไป

การทำงานของแอปพลิเคชัน Goody เป็นอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ไอเดียการก่อตั้งแอปพลิเคชัน Goody เกิดขึ้นมาจากคุณ Edward Lando

โดยเขาเป็นนักลงทุนในสตาร์ตอัป ที่มีโอกาสได้พูดคุยกับหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ Even.com
หรือคุณ Mark Bao และ Lee Linden ซึ่งเคยขาย Karma แอปพลิเคชันส่งของขวัญให้กับ Facebook ในช่วงปี 2012

ด้วยความที่คุณ Edward Lando ก็เป็นคนที่ชอบส่งของขวัญให้กับคนรอบข้าง ทำให้เขารู้สึกอยากที่จะพัฒนาให้การส่งของขวัญให้กันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และต้องเป็นของขวัญที่ทำให้ผู้รับรู้สึกว่าเราคิดถึงและใส่ใจพวกเขาจริง ๆ ไม่ใช่การส่งของง่าย ๆ อย่างการโอนเงิน หรือส่งพวกบัตรเงินสดไปให้เฉย ๆ

แล้ว Goody จะช่วยให้การส่งของขวัญง่ายขึ้นได้อย่างไร ?

เมื่อเปรียบเทียบกับการส่งของขวัญปกติ ที่เวลาเราสั่งผ่านร้านค้าออนไลน์
ไม่ใช่ทุกร้านที่จะมีบริการห่อของขวัญ หรือให้เราสามารถเขียนการ์ดส่งให้เพื่อนได้
ในขณะเดียวกันเราก็ต้องมีที่อยู่ของเพื่อนและคำนวณเวลาส่งให้ดี เพื่อให้ของขวัญไปถึงทันเวลา

แต่สำหรับ Goody จะเปิดให้เราเลือกซื้อสินค้าได้เหมือนกับการซื้อสินค้าออนไลน์ทั่วไป
จากนั้นเราก็เลือกข้อความที่อยากจะเขียนใส่ใน E-card และกรอกเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับ

ระบบก็จะทำการส่งข้อความไปยังเบอร์โทรศัพท์นั้น เพื่อบอกคนนั้นว่าเราส่งของขวัญมาให้
จากนั้นคนที่ได้รับก็จะได้รับข้อความการ์ดอวยพร

โดยผู้รับยังสามารถเปิดของขวัญแบบออนไลน์ได้ทันที เพื่อดูว่าของขวัญที่ได้รับคืออะไร
ถ้าของขวัญถูกใจผู้รับ ก็สามารถกดยอมรับ เพื่อกรอกข้อมูลที่อยู่ของตนเองได้เลย
ส่วนคนส่งของขวัญก็มีหน้าที่แค่จ่ายเงินค่าของและค่าขนส่งเท่านั้น

แต่ความพิเศษอีกอย่างของ Goody มันอยู่ที่ในกรณีที่ของขวัญไม่ถูกใจผู้รับ
ทางผู้รับก็สามารถขอเปลี่ยนของขวัญให้กลายเป็นของที่ตัวเองชอบได้

ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้ผู้รับไม่จำเป็นที่จะต้องมีแอปพลิเคชัน Goody ก็ได้

ถึงแม้ความสนุกของการได้เปิดของขวัญและได้เซอร์ไพรส์แบบจริง ๆ อาจจะลดไปบ้าง
แต่ก็เป็นการช่วยลดความผิดหวังของการที่ได้รับของขวัญไม่ถูกใจได้เช่นกัน

และก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีกับทั้ง 2 ฝ่ายมากกว่า ถ้าผู้รับจะได้สิ่งของที่พวกเขาชื่นชอบหรือใช้งานได้จริง ๆ แทนที่จะเป็นการรับมาเพื่อไม่ให้เสียน้ำใจ

โดยแอปพลิเคชัน Goody ก็เพิ่งเปิดตัวไป ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2020
และสามารถระดมทุนได้ 130 ล้านบาท ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021 ที่ผ่านมา

ปัจจุบัน Goody ยังมีพาร์ตเนอร์ที่เข้ามาขายสินค้าบนแอปพลิเคชันกว่า 20 แบรนด์
ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพ ขนม เครื่องดื่ม สัตว์เลี้ยง และสินค้าหมวดหมู่อื่น ๆ ให้เลือก

ซึ่งการร่วมมือกันกับพาร์ตเนอร์ร้านต่าง ๆ ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้ของ Goody นั่นเอง

ถึงแม้ตอนนี้จะยังมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน Goody แค่เพียงหลักหมื่น
เพราะยังให้บริการแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

แต่ถ้า Goody สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้ ก็น่าจะมีโอกาสเติบโตไปได้อีก

โดยเฉพาะในเวลาที่เราจะต้องเว้นระยะห่าง อย่างในสถานการณ์เช่นนี้
การส่งของขวัญให้กัน ก็น่าจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือ ที่จะช่วยให้คนสองคนรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น
ซึ่งไม่ว่าจะมาในรูปแบบออนไลน์ หรือสินค้าจริง ๆ ก็คงทำให้เกิดรอยยิ้มได้ทั้งนั้น..

References:
-https://www.forbes.com/sites/yolarobert1/2021/08/17/goody-is-making-gift-giving-as-easy-as-sending-a-text/?sh=308233f14550
-https://www.researchandmarkets.com/reports/5030449/personalized-gifts-global-market-trajectory-and?
-https://www.ongoody.com/
-https://techcrunch.com/2021/02/08/goody-raises-4-million-its-mobile-app-that-lets-you-send-gifts-via-text/
-https://techcrunch.com/2012/05/18/facebook-acquires-karma/

ที่น่าสนใจคือ หากอ้างอิงจากผลการค้นหาใน Google Insights คำว่า “Online Gift”
พบว่ามีอัตราการค้นหาคำนี้เพิ่มขึ้นถึง 80% จากปี 2019 ไปถึงปี 2020

แต่ด้วยโอกาสของตลาดที่กำลังเติบโต
จากการคาดการณ์ของเว็บไซต์ researchandmarkets ว่าตลาดของสินค้าของขวัญ
จะเติบโตจาก 8.5 แสนล้านบาทในปี 2020 เป็น 1.4 ล้านล้านบาทภายในปี 2027