Omsom เครื่องปรุงรสฉบับเอเชีย ทำอย่างไร ให้ขายหมดใน 3 วัน หลังเปิดตัวที่สหรัฐฯ
Business

Omsom เครื่องปรุงรสฉบับเอเชีย ทำอย่างไร ให้ขายหมดใน 3 วัน หลังเปิดตัวที่สหรัฐฯ

7 ม.ค. 2022
Omsom เครื่องปรุงรสฉบับเอเชีย ทำอย่างไร ให้ขายหมดใน 3 วัน หลังเปิดตัวที่สหรัฐฯ /โดย ลงทุนเกิร์ล
การทำอาหารทานเอง เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงในช่วงปีนี้
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการที่เราหลาย ๆ คนไม่สามารถออกไปทานข้าวนอกบ้านได้อย่างเคย
บางคนจึงเลือกหันมาทำอาหารเอง เพื่อให้อาหารที่ทานทั้งสะอาด และมีรสชาติอย่างที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยากสุดสำหรับเรื่องนี้ ก็คงจะเป็น “การทำอาหารให้อร่อย” เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถปรุงอาหารออกมาอร่อยได้ แม้จะทำตามสูตรแล้วก็ตาม
จึงมีหลายบริษัท ที่พยายามออกสินค้ามา เพื่อช่วยให้ทุกคนทำอาหารได้อร่อย และหนึ่งในนั้นคือบริษัทที่มีชื่อว่า Omsom ซึ่งเป็นบริษัทอาหารเอเชียที่เปิดตัวในสหรัฐอเมริกา
ที่น่าสนใจคือ เพียงแค่ 3 วันหลังจากเปิดตัว สินค้าก็ขายได้จนหมดเกลี้ยง
แล้วอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ Omsom ขายดีขนาดนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
เรามาทำความรู้จักกับผู้ก่อตั้ง Omsom ทั้งสองคนกันก่อน
คุณ Vanessa และคุณ Kim Pham พี่น้องชาวเวียดนาม ซึ่งเกิดที่สหรัฐอเมริกา
แต่ถึงอย่างนั้นครอบครัวของพวกเธอ ก็ยังคงยึดมั่นในความเป็นเอเชีย ผ่านการทำอาหารภายในบ้าน
ทำให้ทั้งสองพี่น้องเติบโตมาพร้อมกับรสชาติแบบเอเชียแท้ ๆ
แต่ปัญหาหนึ่งสำหรับคนเอเชียที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ก็คือ “การตามหาเครื่องปรุงแบบเอเชีย”
เพราะถึงแม้ว่า ประชากรชาวเอเชียในสหรัฐฯ จะมีอยู่ประมาณ 19 ล้านคน แต่ปริมาณซูเปอร์มาเก็ตแบบเอเชียในพื้นที่ กลับไม่ได้มีจำนวนมากเท่าไรนัก และตามร้านขายของชำทั่วไป ก็ไม่ค่อยมีเครื่องปรุงแบบเอเชียให้เลือกเช่นกัน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทั้งคุณ Vanessa และคุณ Kim Pham จึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ และออกมาพัฒนาสินค้าเป็นเวลากว่า 2 ปี ก่อนจะเปิดตัว Omsom แบรนด์เครื่องปรุงอาหารสำเร็จรูป รสชาติต้นตำรับเอเชียแท้ ๆ ซึ่งลูกค้ามีหน้าที่เพียงแค่เติมผัก และเนื้อตามที่ตัวเองต้องการลงไป ก็ได้อาหารเอเชียแสนอร่อยในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 ที่ผ่านมา
โดยสินค้าเปิดตัวของแบรนด์ Omsom ก็คือ “ผงชูรส” ซึ่งแม้จะเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่า มันไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ผู้ก่อตั้งทั้งสองคน กลับอยากนำเสนอว่า ถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม มันก็สามารถเป็นเครื่องมือที่สร้างความอร่อยได้เช่นกัน
ที่น่าสนใจคือ ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่พวกเธอศึกษาหาข้อมูล ทั้งคู่ได้พูดคุยกับคนกว่าร้อยคน รวมถึงร่วมมือกับเชฟอีกหลายท่าน
เช่น คุณ Chat และคุณ Ohm Suansilphong เจ้าของร้านอาหาร Fish Cheeks ในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคนไทย เพื่อมาร่วมกันออกแบบเครื่องปรุงรส รสชาติลาบ หรือจับมือกับคุณ Jimmy Ly เจ้าของร้านอาหารเวียดนาม ชื่อ Madame Vo มาช่วยออกแบบรสชาติ บาร์บีคิวตะไคร้ รวมถึงเครื่องปรุงรสกะเพราที่ได้ความร่วมมือจากคุณ Pepper Teigen ผู้แต่งหนังสือ “The Pepper Thai Cookbook”
แล้วชื่อ Omsom มาจากอะไร ?
Omsom นั้น มีที่มาจากคำว่า “Om Sòm” วลีในภาษาเวียดนาม ที่พ่อแม่ของคุณ Vanessa และคุณ Kim Pham ชอบใช้ แปลว่า เสียงดัง โวยวาย
ซึ่งการที่ทั้งคู่เลือกใช้ชื่อนี้ก็เพราะ อยากจะ “ตะโกน” ความเป็นเอเชียออกมา ผ่านรสชาติอาหารแบบเอเชียแท้ ๆ และอยากให้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียทั้งหลาย ได้สัมผัสรสชาติอาหารบ้านเกิดแท้ ๆ รวมไปถึงอยากให้คนที่ไม่ได้มีเชื้อสายเอเชียได้เล็งเห็นว่า อาหารเอเชียที่แท้จริงเป็นอย่างไร
นอกจากนั้น การนำเสนอของ Omsom ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
อย่างการออกแบบแพ็กเกจจิง ที่ใช้สีสันสดใส จนมองผ่าน ๆ แล้วอาจรู้สึกว่าเป็นซองขนมมากกว่าซองเครื่องปรุงรสด้วยซ้ำ
รวมถึงช่องทางการนำเสนอ ก็ใช้ โซเชียลมีเดีย ซึ่งถือว่าเป็นกรณีที่ประสบความสำเร็จมาก
โดยในช่วงแรกของการเปิดตัว Omsom ได้เข้าไปโปรโมตสินค้าเอง ผ่าน “กลุ่มเฟซบุ๊ก” ที่มีความสนใจในอาหารเอเชีย ซึ่งก็เป็นการพาตัวเองเข้าไปยัง “กลุ่มเป้าหมาย” อย่างตรงจุด จากนั้นจึงประกาศหาคนที่อยากทดลองสินค้าของตัวเองในกลุ่มนั้น ๆ และส่งสินค้าไปให้ทดลองใช้
ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ใช่แค่ทำให้แบรนด์รู้ว่า กลุ่มแบบไหนคือกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังได้รับคอมเมนต์จากกลุ่มที่น่าจะเป็นลูกค้าในอนาคตได้อีกด้วย และที่สำคัญคือคนกลุ่มนี้ยังพร้อมที่จะโปรโมตสินค้าให้กับเราผ่านช่องทางส่วนตัวแบบไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวก็ว่าได้ เพราะจากการเข้ากลุ่มในเฟซบุ๊กครั้งนี้ ก็ทำให้แบรนด์ได้สร้างฐานลูกค้าขึ้นมา จนส่งผลให้สินค้าขายหมดเกลี้ยง ภายในเวลาเพียง 3 วัน หลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการ
รวมถึงในอนาคตที่แบรนด์จะทำการตลาด ทางแบรนด์ก็ยังสามารถนำคนกลุ่มนี้ มาใช้เป็นกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของ Omsom นอกจากจะเป็นเพราะใช้เครื่องมือทางการตลาดได้อย่างเหมาะสมแล้ว หัวใจสำคัญของเรื่องนี้ ก็ยังมีการที่ผู้ก่อตั้งทั้งสองคน เข้าใจตลาดเป็นอย่างดี
เนื่องจากหากพูดถึงอาหารเอเชีย เอกลักษณ์ที่คนนึกถึง ก็คงจะเป็น ความอร่อยแบบจัดจ้าน ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศแถบตะวันตก ทำให้ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา ไม่ได้มีเครื่องปรุงประเภทนี้วางขายในท้องตลาดมากนัก จนผู้คนต้องหิ้วกลับจากต่างประเทศบ่อยครั้ง
ดังนั้นการที่ Omsom เลือกทำตลาดตรงนี้ จึงเป็นการเข้ามาช่วยเติมเต็มช่องว่างในตลาด
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า ในอนาคต Omsom อาจจะกลายเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงที่ต้องมีติดบ้าน ไม่ต่างจากซอสมะเขือเทศ หรือน้ำมันมะกอก ที่ไม่ว่าจะเดินเข้าครัวของบ้านไหนในสหรัฐฯ ก็สามารถพบเห็นได้ไม่ยาก..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.