Business
เปิดกลยุทธ์ Le Tote สตาร์ตอัปเช่าชุดรายเดือน ที่เรียกตัวเองว่า Netflix แห่งวงการแฟชั่น
2 ก.พ. 2022
เปิดกลยุทธ์ Le Tote สตาร์ตอัปเช่าชุดรายเดือน ที่เรียกตัวเองว่า Netflix แห่งวงการแฟชั่น /โดย ลงทุนเกิร์ล
“ผู้หญิงจะสวมเสื้อผ้าที่อยู่ในตู้เสื้อผ้าเพียง 10-20% เท่านั้น” นี่คือคำกล่าวของคุณ Rakesh Tondon ผู้ร่วมก่อตั้ง Le Tote สตาร์ตอัปเช่าชุดชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา
โดยผู้ร่วมก่อตั้งเองเชื่อว่า หนึ่งในปัญหาที่สาว ๆ หลายคนอาจเคยประสบ อย่างความรู้สึกที่ว่า “มีเสื้อผ้าอยู่เต็มตู้ แต่ไม่รู้จะใส่เสื้อผ้าอะไร”
ซึ่งจะดีขนาดไหน ถ้าเรามีตัวช่วยที่คอยมอบเสื้อผ้าใหม่ ๆ ให้เป็นประจำ เปรียบเสมือนตู้เสื้อผ้าในฝันของสาว ๆ
วันนี้ลงทุนเกิร์ล จึงได้หยิบเอาเรื่องของ Le Tote ธุรกิจเช่าชุดรายเดือน ที่กล้านิยามตนเองว่าเป็น Netflix แห่งวงการแฟชั่นเลยทีเดียว
แล้ว Le Tote มีโมเดลธุรกิจแบบไหน และน่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Le Tote เป็นสตาร์ตอัปที่ให้บริการเช่าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ แบบ Subscription รายเดือน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 โดยคุณ Brett Northart และคุณ Rakesh Tondon
โดยพวกเขาได้ไอเดียธุรกิจนี้ หลังจากที่ภรรยาของคุณ Rakesh Tondon ตั้งครรภ์ เนื่องจากเธอรู้สึกหงุดหงิดที่จะต้องเสียเงินซื้อชุดคลุมท้องใหม่ ทั้งที่รู้ว่าจะสวมใส่แค่ในช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น
เธอจึงแก้ปัญหาด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนเสื้อผ้าและเครื่องประดับกับเพื่อน ๆ โดยภรรยาของคุณ Brett Northart ก็ได้มีส่วนร่วมในวงแลกเปลี่ยนลักษณะนี้เช่นกัน
ต่อมา หลังจากที่ทั้งสองครอบครัวได้แบ่งปันประสบการณ์และตระหนักว่ามีปัญหาในเรื่องเดียวกัน รวมถึงคุณ Brett Northart และคุณ Rakesh Tondon ก็ได้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในตลาดเสื้อผ้าคนท้อง ไปจนถึงตลาดเสื้อผ้าผู้หญิงในวงกว้าง
ทั้งหมดนี้จึงทำให้พวกเขาตัดสินใจคว้าโอกาสนี้ ลาออกจากงานเพื่อปั้นสตาร์ตอัปที่มีชื่อว่า “Le Tote”
ซึ่งอันที่จริงแล้วแนวคิดเรื่องธุรกิจเช่าชุดรายเดือน ก็ไม่ใช่โมเดลธุรกิจใหม่ในอุตสาหกรรมแฟชั่น แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ เช่น Rent the Runway ผู้เล่นรายใหญ่ในธุรกิจเช่าชุดชื่อดัง ที่เคยถูกประเมินมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท
แต่จะต่างกันที่ Rent the Runway เน้นเสื้อผ้าแบรนด์หรูหรา ระดับไฮเอนด์
ในขณะที่ Le Tote จะเน้นไปที่ “เสื้อผ้าในชีวิตประจำวัน” หรือเสื้อผ้าที่พร้อมจะสวมใส่ได้ในทุกวัน เช่น เสื้อผ้าลำลอง ชุดทำงาน ชุดทางการ รวมถึงชุดสำหรับคนท้อง
ในขณะที่ Le Tote จะเน้นไปที่ “เสื้อผ้าในชีวิตประจำวัน” หรือเสื้อผ้าที่พร้อมจะสวมใส่ได้ในทุกวัน เช่น เสื้อผ้าลำลอง ชุดทำงาน ชุดทางการ รวมถึงชุดสำหรับคนท้อง
สำหรับการใช้งาน ในขั้นแรกลูกค้าจะต้องกรอกโพรไฟล์สั้น ๆ เกี่ยวกับขนาดตัว, ไลฟ์สไตล์, ชื่อแบรนด์ที่ชื่นชอบ และสามารถใส่การร้องขอพิเศษได้ เช่น ไม่ใส่ต่างหู หรือต้องการแค่กระโปรง
จากนั้น อัลกอริทึมของ Le Tote ก็จะประมวลผล เพื่อจัดรูปแบบเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เหมาะสมให้อัตโนมัติ ซึ่งลูกค้าจะมีเวลา 7 วันก่อนการจัดส่ง ในการปฏิเสธรายการสินค้าที่อัลกอริทึมเสนอให้ และเลือกสินค้าอื่นแทน
โดยค่าบริการเริ่มต้นที่ $59 หรือประมาณ 1,950 บาท ซึ่งลูกค้าก็จะได้รับกล่องสินค้าที่ประกอบด้วยเสื้อผ้า 3 ชิ้น และเครื่องประดับ 2 ชิ้น จัดส่งทางไปรษณีย์ สำหรับนำไปสวมใส่ได้เท่าที่ต้องการ แล้วส่งกลับเมื่อถึงสิ้นเดือน เพื่อเลือกกล่องสินค้าใหม่
อย่างไรก็ตาม หากสมาชิกต้องการตัวเลือกเสริมอื่น ๆ เช่น ชุดสำหรับคนท้อง หรือจะเพิ่มจำนวนการเช่าสินค้าที่จะได้รับต่อเดือน การจัดส่งรายเดือนแบบไม่จำกัด ก็สามารถเลือกจ่ายค่าบริการรายเดือนที่สูงขึ้นได้
โดยตัวเลือกการจัดส่งรายเดือนแบบไม่จำกัดที่ว่านี้ หมายถึงลูกค้าสามารถส่งคืนสินค้ากลับมาเพื่อรับกล่องสินค้าใหม่ได้บ่อยครั้งเท่าที่ต้องการ ซึ่งถ้ามองในมุมลูกค้าก็จะเท่ากับว่าจะสามารถเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ได้ในทุกสัปดาห์เลยทีเดียว
และการส่งสินค้าเดิมคืนเพื่อรับสินค้าใหม่อย่างไม่จำกัด รวมถึงตัวเลือกสินค้า เสื้อผ้าและเครื่องประดับ หลากหลายแบรนด์ที่มีให้เลือกสรร ไม่ต่างอะไรกับบริการสตรีมมิงที่มีหนังและซีรีส์ ให้เลือกชมมากมายเท่าที่ต้องการ
จุดนี้เองที่ทำให้ Le Tote อธิบายตนเองว่าเป็น “Netflix แห่งวงการแฟชั่น”
นอกจากนั้น หากลูกค้าชอบเครื่องแต่งกายชิ้นไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถเก็บเอาไว้ได้เลย
โดย Le Tote จะเรียกเก็บเงินจากลูกค้าสำหรับสิ่งของชิ้นนั้นภายหลัง ในราคาที่ต่ำกว่าราคาขายปลีก 20-70% ซึ่งหมายความว่าลูกค้าจะได้ทั้งลองและได้เลือกซื้อสินค้า ในราคาคุ้มค่ากว่าราคาปกตินั่นเอง
และอีกหนึ่งข้อดีของบริการนี้คือ ลูกค้าไม่ต้องทำความสะอาดสินค้าก่อนที่จะส่งคืนอีกด้วย ซึ่ง Le Tote จะนำเสื้อผ้าทั้งหมดไปซักแห้งและอบไอน้ำ รวมถึงนำเครื่องประดับทุกชิ้นไปฆ่าเชื้อโรคให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม ถือเป็นตัวช่วยในการประหยัดเงินและเวลาไปในตัว
ที่น่าสนใจคือ Le Tote ยังได้พัฒนากระบวนการทำความสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่การใช้ผงซักฟอกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ใช้ไฟฟ้าน้อยลง 43% ใช้แก๊สน้อยลง 11% และใช้น้ำน้อยลง 50% เมื่อเทียบกับการซักล้างทั่วไป
ซึ่งแม้ว่า Le Tote จะปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายได้ แต่บริษัทเคยมีการเปิดเผยในปี 2016 ว่าบริษัทมีการเติบโต 500% จากปีก่อน และมีรายได้เติบโตขึ้นเป็น 15 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
แล้วสงสัยไหมคะว่า ทำไมผู้คนถึงเลือกใช้บริการเช่าชุดรายเดือนอย่าง Le Tote ?
อันดับแรก คือ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่ “Sharing Economy หรือ แนวคิดเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน”
โดย Le Tote เป็นการจับคู่กันระหว่างผู้ให้บริการที่มีทรัพยากร กับผู้บริโภคที่ต้องการใช้สินค้าหรือบริการ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค แทนการจ่ายเงินเต็มจำนวนเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการนั้นเป็นของตัวเอง
ซึ่งผู้บริโภครุ่นใหม่มักจะ “ให้ค่ากับประสบการณ์” ที่ดี เช่น ความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย และค่าใช้จ่ายที่ลดลง แทนที่จะยึดติดกับการเป็นเจ้าของ รวมถึงไม่ตะขิดตะขวงใจ ที่จะแชร์การใช้สิ่งต่าง ๆ ร่วมกับผู้อื่น
สังเกตได้จากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก เช่น การแชร์รถ (Uber) หรือการให้เช่าที่พัก (Airbnb)
มากไปกว่านั้น สตาร์ตอัปลักษณะนี้ยังมาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ “ตระหนักเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเติบโตอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมในปัจจุบันให้ความสำคัญ
อีกทั้งยังมีเรื่องของ “นวัตกรรมดิจิทัล” การนำเทคโนโลยีมาทำงานร่วมกับข้อมูล เพื่อตอบสนองความต้องการ และพฤติกรรมของผู้บริโภค อย่างการใช้อัลกอริทึมที่มีชื่อว่า Chloe ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ Le Tote
รวมถึง “การพัฒนาเทคโนโลยีด้านโลจิสติกส์” การใช้เวลาให้สั้นที่สุด ก็เป็นหัวใจสำคัญของบริการนี้
และอีกเหตุผลสำคัญคือ “ราคา” โดย Le Tote ใช้เทคนิคตั้งราคาด้วยหลักจิตวิทยาให้ราคาสินค้าดูไม่สูง โดยการตั้งราคาค่าบริการลงท้ายด้วยเลข 9 อย่าง $59, $79, $89, $99, $109 และ $119 อีกทั้งราคาเริ่มต้นที่ $59 ก็เป็นราคาสมเหตุสมผลที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้
นอกจากนี้ Le Tote ยังดึงดูดผู้บริโภคที่สนใจลองเสื้อผ้าแบรนด์ใหม่ ๆ โดยที่ไม่ต้องซื้ออีกด้วย
จากเรื่องราวทั้งหมด ก็เรียกได้ว่า Le Tote เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างการใช้โมเดลธุรกิจ Subscription อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจไม่น้อย
เพราะถึงแม้เราจะไม่ใช่ผู้บุกเบิกธุรกิจใหม่ ๆ หรืออาจจะมีเจ้าตลาดที่ประสบความสำเร็จอยู่แล้ว
แต่ถ้าเราหาจุดเด่น และสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าหรือบริการของเราได้ ต่อให้เราจะเป็นหน้าใหม่ในตลาด การเติบโต, ลูกค้าในอนาคต และความสำเร็จก็คงไม่หนีไปไหนไกลเช่นกัน..
References:
-https://businesseswithstories.com/2020/08/14/le-tote/
-https://www.brittandwhit.com/what-is-le-tote/
-https://www.brittandwhit.com/rent-the-runway-vs-le-tote/
-https://venturebeat.com/2012/08/03/le-tote-netflix-for-fashion-clothing/
-https://fortune.com/2015/11/19/le-tote-15-million-funding/
-https://etaileast.wbresearch.com/blog/how-le-tote-uses-data-to-deliver-personalized-fashion-rental-experiences
-https://businesseswithstories.com/2020/08/14/le-tote/
-https://www.brittandwhit.com/what-is-le-tote/
-https://www.brittandwhit.com/rent-the-runway-vs-le-tote/
-https://venturebeat.com/2012/08/03/le-tote-netflix-for-fashion-clothing/
-https://fortune.com/2015/11/19/le-tote-15-million-funding/
-https://etaileast.wbresearch.com/blog/how-le-tote-uses-data-to-deliver-personalized-fashion-rental-experiences