Ibérico Ham แฮมชั้นเลิศ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “Rolls-Royce of Ham”
Food

Ibérico Ham แฮมชั้นเลิศ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “Rolls-Royce of Ham”

23 เม.ย. 2022
Ibérico Ham แฮมชั้นเลิศ ที่ถูกขนานนามว่าเป็น “Rolls-Royce of Ham” /โดย ลงทุนเกิร์ล
เมื่อพูดถึง “แฮม” หลายคนอาจนึกถึงอาหารแปรรูปที่ไม่มีประโยชน์
แต่ในทางกลับกัน แฮมบางชนิด กลับเป็นอาหารชั้นเลิศ ที่มีคุณค่าทางสารอาหาร และมีราคาสูงกว่าเนื้อวัวเสียอีก
ซึ่งแฮมที่หมายถึง คือ “Ibérico Ham” แฮมขาหมูดำ ที่จะทำให้หลายคน ลืมภาพจำของแฮมปกติ หรือการเป็นอาหารแปรรูปที่ไม่มีประโยชน์ไปเลย
พูดมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า Ibérico Ham คืออะไร ?
แล้วทำไมมันถึงถูกเรียกว่า Rolls-Royce of Ham ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
แฮมอิเบริโก (Ibérico Ham) มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ฆามอน อิเบริโก” (Jamón Ibérico) หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า “แฮมขาหมูดำ” เป็นแฮมที่ทำมาจากหมูดำสายพันธุ์อิเบริโก
และได้รับการขนานนามว่า เป็นแฮมชั้นเลิศที่มีรสชาติดีที่สุด
หมูดำที่พูดถึงนี้ เป็นสายพันธุ์หายาก และส่วนใหญ่จะถูกเลี้ยงทางฝั่งคาบสมุทรไอบีเรีย ในส่วนของประเทศสเปนและโปรตุเกสเท่านั้น
ซึ่งโดยปกติ แฮมอิเบริโก ก็จะมีการแบ่งออกเป็น 4 ระดับ
ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของหมู อาหาร และลักษณะการเลี้ยง
โดยระดับที่แพงสุด ก็คือ “Black Label” ทำมาจากหมูดำสายพันธุ์อิเบริโกแท้ 100% ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 6% เท่านั้นในท้องตลาด และมีราคาอยู่ที่ 34,000-150,000 บาทต่อขา
แล้วนอกจากสายพันธุ์ อะไรคือความพิเศษของแฮมขาหมูดำแบรนด์นี้ จนทำให้มันกลายเป็นแฮมรสเลิศ ?
อันดับแรก คือระยะเวลาและสถานที่ในการเลี้ยงดูหมูดำ
เพราะต้องใช้ระยะเวลาอย่างน้อย ๆ ถึง 5 ปี กว่าจะครบกระบวนการทั้งหมด โดยแบ่งเป็นระยะเวลาในการเลี้ยงดูจนเติบโตประมาณ 2 ปี และอีก 3 ปีขึ้นไป สำหรับการหมักจนกลายเป็นแฮม
ซึ่งระยะเวลา 2 ปี ในการเลี้ยงดู ก็จะมีกฎในการเลี้ยงหมูดำเหล่านี้ คือจะต้องเลี้ยงหมูดำ 1 ตัว ต่อพื้นที่ประมาณ 12.5 ไร่ เพื่อให้มันมีพื้นที่มากพอที่จะเดินเล่นอย่างมีความสุข และไม่รู้สึกอึดอัด
อีกทั้งหมูดำเหล่านี้ จะถูกเลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติ โดยปล่อยให้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ และกินหญ้าอยู่ในทุ่งโล่งแบบเปิดในประเทศสเปน บนเทือกเขาที่อุดมสมบูรณ์
อันดับต่อมา คือ เรื่องอาหาร
นอกจากจะกินหญ้าเป็นอาหารแล้ว หมูดำเหล่านี้จะกินเบอร์รีหลากชนิด, ถั่ว และอาหารหลักอย่างลูกโอ๊กสด ๆ จากต้น ประมาณ 12 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับ ที่ทำให้แฮมอิเบริโกมีรสชาติดี และมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
เนื่องจากลูกโอ๊ก มีคุณสมบัติในการเข้าไปเพิ่มชั้นไขมันดีในหมูดำ และทำให้แฮมมีรสชาติหวาน เค็มกลมกล่อม มีกลิ่นหอมนุ่มลิ้น
อีกทั้งลูกโอ๊ก ยังมีกรดโอเลอิก (Oleic Acid) ที่ช่วยควบคุมการเผาผลาญ และช่วยลดคอเลสเตอรอล ทำให้หมูดำเหล่านั้น กลายเป็นแฮมที่สุขภาพดีอีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ หมูดำที่ถูกเลี้ยงด้วยลูกโอ๊กสด ๆ มีสัดส่วนเพียงแค่ 1% ของประชากรหมูดำทั้งหมดในประเทศสเปนเท่านั้น
อย่างสุดท้าย คือการหมัก รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งออก
หลังจากผ่านขั้นตอนการเลี้ยงดูจนครบกำหนด จนได้หมูดำที่มีน้ำหนักตรงตามมาตรฐานแล้ว
ก็จะเข้าสู่กระบวนการการหมัก
ซึ่งหมูเหล่านี้ จะถูกตัดแต่งไขมันให้เหมาะสมก่อน โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในการตัดแต่ง เพราะถ้าไม่เชี่ยวชาญมากพอ แฮมอาจจะแข็งหรือแห้งได้
หลังจากนั้น หมูดำที่ตัดแต่งเรียบร้อยแล้ว จะถูกนำไปหมักด้วยเกลือแต่ละประเภท ตามสูตรของแต่ละแบรนด์
โดยเกลือจะต้องมีปริมาณที่เหมาะสมกับน้ำหนัก ก่อนจะนำไปแขวน เพื่อเก็บไว้ในห้องรักษาอุณหภูมิอีก 3 ปีเป็นต้นไป ซึ่งถือว่าใช้เวลาในการหมักยาวนานกว่าแฮมปกติ ที่อาจใช้เวลาหมักแค่ประมาณ 3-7 วันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ก่อนส่งออกไปขาย จะต้องมีการตรวจสอบคุณภาพ ทั้งเรื่องความแห้งที่กำลังพอดี, การละลายของไขมัน รวมถึงกลิ่นหอมของแฮมขาหมูดำอีกด้วย
โดยแฮมอิเบริโกที่สมบูรณ์ ผิวหนังชั้นนอกจะเริ่มกลายเป็นสีเหลืองอ่อน ส่วนเนื้อแฮมด้านใน จะมีสีชมพูเข้มอมแดง พร้อมไขมันสีขาวลายหินอ่อน แทรกอยู่ประมาณ 25-30% ของแฮมเหล่านั้น
และแน่นอนว่า ไขมันเหล่านั้นเป็นไขมันดี เพราะมันคือไขมันชนิดเดียวกันกับที่อยู่ในน้ำมันมะกอก รวมทั้งเยอะมากพอ ที่ทำให้แฮมอิเบริโก ถูกเรียกว่าเป็น “ต้นมะกอกที่มีขา” เลยทีเดียว
เรียกได้ว่า ด้วยกระบวนการเลี้ยงดู การหมักแบบพิเศษ บวกกับความเป็นหมูสายพันธุ์หายาก ส่งผลให้ราคาของแฮมชนิดนี้ สูงกว่าราคาแฮมทั่วไปในท้องตลาด
ซึ่งในประเทศไทย ก็มีซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Villa Market นำแฮมขาหมูดำแบบสไลซ์ของแบรนด์ 5J Cinco Jotas มาวางขายอยู่ที่ประมาณขีดละ 1,500 บาท โดยราคานี้ สูงกว่าแฮมทั่วไปในท้องตลาดกว่า 25 เท่าเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ยังมีการนำแฮมขาหมูดำแบบทั้งขา ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 8-9 กิโลกรัมมาวางขาย ในราคาสูงถึง 100,000 บาท
ซึ่งต้องยอมรับว่า มันมีราคาที่สูง จนเกือบจะดาวน์รถญี่ปุ่นได้สักคัน จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมแฮมขาหมูดำถูกขนานนามว่าเป็น Rolls-Royce of Ham
ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่า Rolls-Royce of Ham หมายถึงอะไร ?
ที่เปรียบว่ามันคือ Rolls-Royce of Ham อาจเป็นเพราะรถแบรนด์ Rolls-Royce เป็นรถราคาแพงที่อยู่ระดับต้น ๆ ของบรรดารถหรูทั้งหลาย
ดังนั้น ด้วยราคา, ความพิถีพิถัน และกระบวนการผลิตแฮมอิเบริโก ทำให้มันถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่แฮมชั้นเลิศ ที่อยู่ระดับสูงกว่าแฮมประเภทอื่น ๆ เช่นเดียวกับรถหรูอย่าง Rolls-Royce นั่นเอง
หากถามว่า แฮมขาหมูดำ เหมาะจะทานคู่กับอะไร เพื่อให้ได้รสชาติที่สมบูรณ์แบบ และคุ้มค่ากับราคามากที่สุด ?
โดยปกติ แฮมขาหมูดำ จะนิยมทานจับคู่กับผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น องุ่นหรือเมลอน เพื่อให้ได้สัมผัสรสชาติที่กลมกล่อม
อีกทั้งถั่วรสมัน, มะกอกดอง หรือแตงกวาดอง ก็เป็นของทานเล่นที่ช่วยตัดรสชาติ ในการทานแฮมขาหมูดำได้อย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
เห็นได้ชัดแล้วว่า แฮมขาหมูดำ ถูกดูแลด้วยผู้เชี่ยวชาญในทุกกระบวนการ รวมถึงการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดในทุกขั้นตอน จนกลายเป็นแฮมที่แพงที่สุดในโลก และสามารถสร้างมูลค่าได้มากกว่าแฮมทั่วไปหลายเท่า
หากใครมีโอกาสได้ลิ้มลอง แนะนำให้นำแฮมขาหมูดำ แปะไว้ที่เพดานปากก่อน จะสัมผัสได้ถึงความนุ่มจนละลายในปากได้เลยทีเดียว..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.