ร้านอาหารตามสั่ง มีเชฟคนเดียว เปิดวันละ 5 ชั่วโมง แต่ขายหมูกรอบ ได้วันละ 56 กก.
Business

ร้านอาหารตามสั่ง มีเชฟคนเดียว เปิดวันละ 5 ชั่วโมง แต่ขายหมูกรอบ ได้วันละ 56 กก.

1 ต.ค. 2022
ร้านอาหารตามสั่ง มีเชฟคนเดียว เปิดวันละ 5 ชั่วโมง แต่ขายหมูกรอบ ได้วันละ 56 กก. /โดย ลงทุนเกิร์ล
สำหรับในวันหยุดสบาย ๆ แบบนี้ เราอยากจะชวนทุกคนมาอ่านเรื่องราวดี ๆ ของ “บ้านต้นไทร” ร้านอาหารตามสั่งที่ขึ้นชื่อเรื่อง “หมูกรอบ” ชิ้นใหญ่ เต็มปากเต็มคำ ซึ่งเราได้ไปเจอมาจากคลิปในช่องของคุณ MOJIKO และบอกได้เลยว่า แม้จะเป็นเพียงร้านเล็ก ๆ แต่สตอรีไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เพราะร้านบ้านต้นไทร คือ 1 ใน 10 ร้านเด็ด ที่ได้รับ “รางวัล บิบ กูร์มองด์” (Bib Gourmand) ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากคู่มือ MICHELIN Guide Thailand 2022
โดยร้านที่ได้รับรางวัล บิบ กูร์มองด์ จะถูกยกให้เป็น “ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่า ในราคาย่อมเยา” ซึ่งมีราคาไม่เกิน 1,000 บาท สำหรับอาหาร 3 คอร์ส ได้แก่ จานเรียกน้ำย่อย, จานหลัก และของหวาน ไม่รวมเครื่องดื่ม
ที่น่าสนใจคือ ร้านบ้านต้นไทร เป็นร้านที่สืบทอดต่อกันมา จากรุ่นเตี่ยและหม่าม้า โดยหากรวมทั้ง 2 เจเนอเรชันแล้ว ร้านอาหารและสูตรลับที่สืบต่อกันมานี้ จะมีอายุกว่า 40 ปี ด้วยกัน
ซึ่งผู้ดูแลเจเนอเรชันที่ 2 ก็คือ คุณอ้วน ซึ่งเป็นเชฟหนึ่งเดียว ที่เสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าทานแบบจานต่อจาน โดยเปิดร้านเพียงวันละ 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น.
แต่กลับขายหมูกรอบ ได้ถึงวันละ 56 กิโลกรัมเลยทีเดียว
โดยคุณอ้วนเคยพูดว่า “ร้านไม่เคยทำการตลาด แต่ที่เป็นที่รู้จักก็เพราะว่า อร่อย จนลูกค้าบอกปากต่อปากกันเอง”
แล้วอะไรทำให้ร้านบ้านต้นไทร กลายเป็นร้านดัง ขายดี จนได้รับรางวัล บิบ กูร์มองด์ ทั้งที่ไม่เคยทำการตลาด ?
1.หาซิกเนเชอร์ของตัวเองให้เจอ
การจะทำธุรกิจร้านอาหาร หลายคนอาจเคยสงสัยว่า ระหว่างร้านอาหารที่มีเมนูเด่นเพียงเมนูเดียว กับร้านที่มีเมนูเด่นหลายเมนู แบบไหนดีกว่ากัน ?
ร้านบ้านต้นไทร ก็ได้แบ่งปันว่า การมีเมนูที่หลากหลาย นับเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ เพราะในมุมของผู้บริโภค จะมีความสุขเมื่อมี “ตัวเลือก” ให้พวกเขาได้เลือก
แต่ในมุมของ “การจดจำแบรนด์” บ้านต้นไทร ก็ได้สร้าง “ซิกเนเชอร์” ที่เป็นภาพจำของตัวเองอย่าง หมูกรอบ ที่เปรียบเหมือนตัวชูโรง ทำให้ผู้บริโภคเห็นแล้วรู้ได้ทันที ว่าร้านนี้โดดเด่นเรื่องหมูกรอบมากที่สุด
โดยอินฟลูเอนเซอร์หลาย ๆ คน ก็ได้ขนานนามว่า ร้านบ้านต้นไทร คือร้านหมูกรอบขั้นเทพ อีกด้วย
นอกจากนี้ การที่ร้านมีภาพจำที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงจะสร้างการจดจำได้ง่ายแล้ว แต่การสื่อสารก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น หลังจากที่มีสื่อให้ความสนใจ และตามมารีวิวที่ร้าน ข้อความ หรือ Key Message ที่ส่งออกไป ก็จะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน นั่นเอง
2.วัตถุดิบสดใหม่ รสชาติอร่อย รสมือคงที่
พื้นฐานของการทำร้านอาหาร ทุกคนย่อมรู้กันดีว่า “ต้องอร่อย” ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว วัตถุดิบก็ต้องสดใหม่ และที่สำคัญคือ รสมือจะต้องคงที่สม่ำเสมอ
ซึ่งกลยุทธ์ของคุณอ้วน ก็คือการแต่งตั้งตนเองเป็นเชฟ คอยดูแลเรื่องรสชาติอาหาร ที่เสิร์ฟออกไปแต่ละจานด้วยตัวเอง เพื่อให้รสชาติคงที่ ได้มาตรฐาน และไม่ผิดเพี้ยน
ส่วนเรื่องราคา ก็ต้องตั้งให้มีความสมเหตุสมผล โดยทางร้านไม่เน้นกำไรมาก แต่เน้นความคุ้มค่า เพื่อดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำในระยะยาว
เพราะการประกอบธุรกิจร้านอาหาร ส่วนใหญ่จะใช้เงินสดหมุนเวียนในกิจการ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้ธุรกิจมีสภาพคล่องให้มากที่สุด
3.มีจุดหักมุม
สำหรับราคาในแต่ละเมนูของร้านบ้านต้นไทร จะมีช่วงราคาที่ค่อนข้างกว้าง เริ่มต้นตั้งแต่ 60 บาท ไปจนถึง 1,500 บาท
ซึ่งเสียงตอบรับของคนที่เคยไปลองทาน เมนูที่มีราคาย่อมเยา 60 บาท เช่น ข้าวหมูกระเทียม ที่ดูเหมือนเมนูอาหารทั่วไป แต่รสชาติจานนี้กลับสร้างความประทับใจที่เกินคาดให้กับลูกค้า
ขณะเดียวกัน เมนูอาหารตามสั่ง เช่น กะเพราทะเลราดข้าว จานละ 300 บาท
ในความรู้สึกแรก อาจดูแพง เพราะเป็นแค่อาหารตามสั่ง แต่ปริมาณที่ได้ก็ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า เกินความคาดหมายกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก
เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เป็นจิตวิทยาทางการตลาดอย่างหนึ่ง สำหรับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหนก็ตาม ที่เจ้าของธุรกิจต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกให้ได้ว่า “เราให้..มากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง”
ซึ่งหากทำได้ ลูกค้าก็อาจจะตอบแทนกลับมา ในรูปแบบของการบอกต่อแบบปากต่อปาก หรือกลับมาซื้อซ้ำ โดยที่เราไม่ต้องลงแรง หรือใช้เม็ดเงินสักบาทในการทำการตลาดใด ๆ
4.แม้ได้สูตรที่เป็นตำนาน แต่ก็มีการต่อยอด และพลิกแพลงเพิ่มเติม
อีกข้อสำคัญ ของการเริ่มต้นทำร้านอาหาร คือต้องมีสูตรอาหารลับเฉพาะ ที่ยากต่อการเลียนแบบในร้านอื่น และต้องสร้างการจดจำให้เกิดขึ้นบนลิ้นรับรสของผู้บริโภคให้ได้
โดยหนึ่งในความโชคดีของคุณอ้วน ก็คือการสืบทอดกิจการ และสูตรอาหารดั้งเดิมจากเตี่ยและหม่าม้า
แต่คุณอ้วนก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาเมนูใหม่ ๆ มีการปรับเปลี่ยนเมนูดั้งเดิมให้มีความทันสมัยมากขึ้น รวมถึงทำรสชาติออกมาให้ถูกปากทั้งคนรุ่นใหม่ และกลุ่มลูกค้าดั้งเดิม
ทั้งหมดนี้เอง ร้านบ้านต้นไทร จึงโดดเด่นขึ้นมาเหนือใคร ๆ
และทำให้การบอกต่อกันแบบปากต่อปากของผู้บริโภคนั้น
ส่งต่อไปถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน และคนใกล้ชิด ได้มากและยาวนานที่สุด..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.