แกะสูตร “Tallulah” แบรนด์กระเป๋าแฟชั่นชื่อดัง โกยยอดขายในแคมเปญ 11.11 ได้หลักล้าน ภายในไม่กี่ชั่วโมง
Business

แกะสูตร “Tallulah” แบรนด์กระเป๋าแฟชั่นชื่อดัง โกยยอดขายในแคมเปญ 11.11 ได้หลักล้าน ภายในไม่กี่ชั่วโมง

21 ต.ค. 2022
Lazada x ลงทุนเกิร์ล
นับถอยหลังสู่แคมเปญ 11.11 เซลใหญ่สุดในรอบปี วันนี้วันเดียว ที่ไม่ได้มีแค่ขาช้อปที่ตั้งตารอ
แต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็อดใจรอแทบไม่ไหว
เพราะเป็นที่รู้กันว่า แคมเปญเลขคู่นั้นช่วยดันยอดขายให้ปังอยู่แล้ว โดยเฉพาะแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดอย่าง 11.11 ที่เป็นโอกาสทองของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ในการเพิ่มยอดขายให้กับแบรนด์
แล้วถ้าอยากจะเป็น เจ้าของแบรนด์ ที่มียอดขายหลักล้านบ้าง ต้องทำอย่างไร ?
วันนี้ ลงทุนเกิร์ลจะพาไปแกะสูตรความสำเร็จ ที่ทำให้ “Tallulah” แบรนด์กระเป๋าแฟชั่นออนไลน์
สามารถทำยอดขายโตทะลุ 100% จากหลักแสนกลายเป็นหลักล้านบาท ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Lazada ในแคมเปญ 11.11 ของปีที่ผ่านมา
แน่นอนว่า ทุกความสำเร็จ ต้องเริ่มจากรากฐานที่มั่นคง
เช่นเดียวกับ “Tallulah” ที่ตั้งต้นจากการทำของดี เพื่อมัดใจลูกค้า
“Tallulah” ก่อตั้งโดย 3 พี่น้อง คือ คุณแหม่ม ปรีดารัตน์, คุณเหมียว พิมลรัตน์ และคุณเมจิ ณัฏฐารัตน์ พัฒนพิชัย
ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ของโรงงานเครื่องหนัง ที่รับผลิตกระเป๋าให้กับแบรนด์ต่าง ๆ ในไทย และส่งออกไปต่างประเทศ
กระทั่งเมื่อ 8 ปีก่อน ทั้ง 3 พี่น้อง มีไอเดียว่า แทนที่จะรับจ้างผลิตให้แบรนด์อื่น ไม่สู้ลองมาปั้นแบรนด์กระเป๋าเองเสียเลย
เพราะถ้าพูดถึง ตลาดกระเป๋าแฟชั่นในบ้านเราตอนนั้น ก็มีขนาดใหญ่พอสมควร
ที่สำคัญ ถ้าโฟกัสไปที่ตลาดกระเป๋าหนังเทียม กลับยังไม่ได้มีคู่แข่งมากนัก
นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม​ Tallulah ถึงเลือกวาง Position ว่า จะเป็นกระเป๋าหนังเทียม คุณภาพดี ในราคาที่จับต้องได้
ที่สำคัญ ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชัน​ที่สามารถใช้สอยได้จริง ๆ
เพื่อให้เป็นกระเป๋าแฟชั่นดีไซน์เก๋ ที่ใช้ได้ทุกวัน และใช้ได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะวันทำงาน หรือวันสบาย ​ๆ
ที่น่าสนใจคือ ด้วยความที่ทั้ง 3 ผู้ก่อตั้งแบรนด์ มีโรงงานผลิตเครื่องหนังของตัวเอง ทำให้ไม่ต้องกังวลว่า ไอเดียทั้งหมดที่คิดมา จะเป็นแค่ไอเดียขายฝัน
เพราะสามารถควบคุมคุณภาพได้ทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุและอะไหล่สำหรับทำกระเป๋า การออกแบบดีไซน์ และการตัดเย็บ
ทำให้กระเป๋า Tallulah แต่ละใบนั้น สวยและใช้งานได้คุ้มค่า คุ้มราคา
ตอบโจทย์กลุ่ม First Jobber ที่มองหากระเป๋าที่สวยครบ ใช้งานได้จริงในใบเดียว
โดยจุดเด่นของ Tallulah คือ เลือกใช้วัสดุคุณภาพพรีเมียม อย่าง Vegan Leather ซึ่งทำให้เวลาเห็นหรือสัมผัสจะรู้สึกคล้ายหนังแท้มาก
รวมถึง ซิป หัวซิป อะไหล่ต่าง ๆ ก็ใช้วัสดุคุณภาพเดียวกันกับที่ทำกระเป๋าหนังแท้
แถมยังใช้ช่างฝีมือที่ตัดเย็บกระเป๋าหนังแท้ มาทำกระเป๋า Tallulah ทำให้การตัดเย็บมีความประณีต ออกมาดูสวย ดูดี และมีคุณภาพ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า คุณภาพที่ว่า วัดกันที่ตรงไหน ?
สำหรับ Tallulah ก่อนที่สินค้าจะออกจำหน่าย​ทุกครั้ง
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ทั้ง 3 คน จะทดลองใช้กระเป๋าด้วยตนเองดูก่อน เพื่อทดสอบว่ามีจุดไหนที่ต้องปรับปรุงหรือไม่ ก่อนวางขายจริง ทำให้ได้กระเป๋าแฟชั่นที่ดีไซน์สวย และใช้งานได้จริงออกมา ตามที่แบรนด์ตั้งใจเอาไว้
หลังจากมีสินค้าดีแล้ว มาถึงอีกหนึ่งโจทย์ใหญ่ นั่นคือ การเลือกช่องทางการขาย
ในช่วงแรก Tallulah ใช้วิธีขายผ่านโซเชียลมีเดีย และเปิด Pop-up Store
ด้วยดีไซน์และคุณภาพของสินค้า ก็ทำให้มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบถ่ายรูปแล้วมาลงรีวิว พร้อมแท็กชื่อร้าน ลงใน Social Media อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งถือเป็นการช่วยโปรโมทแบรนด์ให้ยิ่งเป็นที่รู้จัก แถมแบรนด์ยังได้เก็บฟีดแบ็กของลูกค้ามาปรับปรุงร้านให้ดีขึ้นอยู่เสมอ
แต่จุดเปลี่ยนที่ทำให้ Tallulah เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด คือ ตอนที่มาขายใน Lazada เมื่อ 4 ปีก่อน
ซึ่งต้องบอกว่า เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อการขายของแบรนด์ไปเลย
จากตอนแรกคิดว่า ขายสินค้าบน Social Media ก็เพียงพอแล้ว แต่พอตอนหลังเริ่มมาศึกษาข้อมูลแบบละเอียดก็พบว่า การขายสินค้าใน Lazada มีข้อดีมากมายที่หาไม่ได้จากที่ไหน
เพราะนอกจากจะช่วยขยายฐานลูกค้า ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าจากต่างจังหวัด หรือลูกค้าที่อยู่ทางไกล
ซึ่งถือเป็นข้อดีที่เจ้าของธุรกิจทุกคนต่างมองหาโอกาสแบบนี้ เพราะยิ่งเข้าถึงลูกค้ามากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายให้มากยิ่งขึ้น
นอกจาก Lazada จะเป็นประตูแห่งโอกาส Lazada ยังเหมือนเป็นเพื่อนคู่คิดให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
เพราะมีเครื่องมือซัปพอร์ตการขายที่หลากหลาย​
เช่น เครื่องมือบรอดแคสต์ข้อความ (CEM) ช่วยให้ส่งแชตบอกโปรโมชันลูกค้าได้ตลอดเวลา
รวมไปถึงเครื่องมือโปรโมทผ่านลาซาด้า (Lazada Sponsored Discovery) ที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นร้านค้า ทำให้ได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
หรือจะเป็นโปรโมชันต่าง ๆ และโปรแกรมส่งฟรี ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการซื้อให้กับลูกค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีทีมงานที่ช่วยดูแลและซัพปพอร์ตการขาย ช่วยในการแก้ปัญหาและให้คำแนะนำ
ว่า ควรเข้าแคมเปญไหน มี Lazada Bonus และ Flash Sale ต่าง ๆ ให้เข้าร่วม ควรใช้เครื่องมือตัวไหน หรือทำการตลาดอย่างไร เพื่อเพิ่มยอดขาย หรือบางทีก็แนะนำให้ลอง Collaboration กับแบรนด์อื่น เพื่อเพิ่มยอดขาย
ที่สำคัญ ยังมีระบบ Seller Center ทำให้ผู้ขายออนไลน์ สามารถดูข้อมูลหลังบ้านได้แบบเรียลไทม์ ว่าสินค้าตัวไหนขายดี สีไหนเป็น Best Seller หรือว่ามีสินค้าอยู่ในตะกร้าแล้วกี่ชิ้น ที่กำลังจะกลายเป็นยอดขายในเร็ววัน
ซึ่งข้อดีของการเห็นข้อมูลหลังบ้านแบบละเอียด จะช่วยให้ แต่ละร้านมีอินไซต์ ไปปรับปรุงและต่อยอดสินค้า ​หรือ จัดการสต็อกสินค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
แม้กระทั่ง ระบบรีวิวที่ลูกค้าสามารถมาเขียนรีวิว หรือโพสต์สินค้าหลังจากได้รับสินค้า
รีวิวเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าคนอื่นอยากมาซื้อสินค้ากับทางร้าน หรือทำให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
แต่ถ้าพูดถึงตัวช่วย ที่ดันให้ยอดขายโตแบบก้าวกระโดด​
เจ้าของแบรนด์ เทใจให้แคมเปญ 11.11 จากที่ไม่ได้มองว่าแคมเปญ 11.11 นั้นจะยิ่งใหญ่มาก
แต่พอได้เข้าร่วมแคมเปญ และเห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทางร้านทำยอดขายโตทะลุ 100% จากการเข้าร่วมแคมเปญเมื่อปีที่แล้ว ก้าวกระโดดจากยอดขายหลักแสนบาท ไปแตะหลักล้านบาทได้ ภายในไม่กี่ชั่วโมง ก็ทำให้เปลี่ยนความคิดไปเลย
เอาเป็นว่า ใครที่อยากจะเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ และมีโมเมนต์ฟิน ๆ ตอนเห็นยอดขายเข้ารัว ๆ อย่าพลาดแคมเปญ 11.11 เซลใหญ่สุดในรอบปี วันนี้วันเดียว ที่กำลังจะกลับมาละลายทรัพย์ขาช้อป
สำหรับแบรนด์ที่ยังไม่ได้มาเปิดร้านค้ากับ Lazada ไม่ต้องลังเลหรือรีรอ
เพราะสมัครง่าย สมัครฟรี และมีสิทธิพิเศษสำหรับร้านค้าใหม่มากมาย https://lzd.co/3yvb0ww
หรือถ้าเป็นผู้ขายลาซาด้าอยู่แล้ว อย่าพลาดมาเข้าร่วมแคมเปญ 11.11 เซลใหญ่สุดในรอบปี ที่จะมาช่วยเพิ่มยอดขายให้แบรนด์ต่าง ๆ รับทรัพย์ส่งท้ายปี https://lzd.co/3Ey7xRy
ทั้งนี้ *เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.lazada.co.th
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.