รู้จัก ลอรี เกรเนอร์ นักลงทุนที่ทำเงินมหาศาล จากการเลือกลงทุนในบริษัทที่ผลิตแค่ “สินค้าธรรมดา ๆ”
Business

รู้จัก ลอรี เกรเนอร์ นักลงทุนที่ทำเงินมหาศาล จากการเลือกลงทุนในบริษัทที่ผลิตแค่ “สินค้าธรรมดา ๆ”

26 มี.ค. 2023
รู้จัก ลอรี เกรเนอร์ นักลงทุนที่ทำเงินมหาศาล จากการเลือกลงทุนในบริษัทที่ผลิตแค่ “สินค้าธรรมดา ๆ” /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า “ครึ่งหนึ่ง” ของ 20 อันดับสินค้าขายดีที่สุดในรายการ Shark Tank สหรัฐอเมริกา ถูกลงทุนโดย นักลงทุนอย่าง “คุณลอรี เกรเนอร์”
สถิติที่ไม่ธรรมดานี้ แสดงให้เห็นว่าเธอ เป็นนักลงทุนที่เก่งกาจ และมีสายตาแหลมคม
ซึ่งตัวอย่าง 2 สินค้าดาวเด่น ที่คุณลอรีเลือกลงทุน และเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก คือ
-Scrub Daddy ฟองน้ำล้างจานหน้ายิ้ม
ซึ่งเธอลงทุนไป 6.6 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้น 20%
แต่ต่อมาเจ้าฟองน้ำล้างจานนี้ ก็เติบโต จนปัจจุบันมีมูลค่ากิจการสูงถึง 8,200 ล้านบาท
-Squatty Potty ที่วางเท้าตอนนั่งชักโครก เพื่อให้ท่านั่งเอื้อต่อการขับถ่าย ซึ่งมันก็ขายดีอย่างไม่น่าเชื่อ
โดยคุณลอรี ได้เข้าลงทุนในปี 2014 ด้วยจำนวนเงิน 11.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้นจำนวน 10%
ซึ่งถ้าหากนับรายได้ ตั้งแต่หลังออกรายการ Shark Tank จนถึงปัจจุบัน ก็จะมีรายได้ทะลุ 7,500 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย
จะเห็นว่าทั้งคู่เป็นสินค้าที่ฟังดูแสนธรรมดา แต่คุณลอรี กลับมองเห็นความเป็นไปได้ ที่คนอื่นมองไม่เห็น
แถมยังได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ จากการลงเงินรวมไม่ถึง 20 ล้านบาท ไปกับผลิตภัณฑ์ 2 ตัวนี้ และได้รับผลตอบแทนหลักพันล้านบาทกลับมา..
แล้วก่อนที่คุณลอรี จะมาเป็นหนึ่งใน Shark ที่ประสบความสำเร็จที่สุด เธอเคยทำอะไรมาบ้าง ?
และอะไร ที่ทำให้คุณลอรี เลือกลงทุนถูกกิจการ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จริง ๆ แล้ว คุณลอรี เคยทำงานเป็นนักเขียนบทละคร แต่ต่อมาเธอก็พบว่า ตัวเองชอบประดิษฐ์และคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีใครทำขาย ซึ่งเป็นของใช้ง่าย ๆ ที่มาช่วยให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
สินค้าตัวแรกที่เธอตัดสินใจทำขาย คือ ตู้เล็ก ๆ สำหรับเก็บต่างหู
โดยไอเดียนี้ได้มาจาก ปัญหาในการเก็บเครื่องประดับโดยเฉพาะต่างหูนับร้อยคู่ของตัวเธอเอง
เธอได้ทำตู้ ที่สามารถแขวนต่างหูเป็นคู่ ๆ โดยโชว์ให้เห็นทุกคู่ เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกหยิบ และมันใช้ดีมาก จนคุณลอรี คิดว่า ผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่มีปัญหาเดียวกันกับเธอ ต้องอยากซื้อตู้นี้ไปใช้แน่ ๆ
หลังจากนั้น เธอจึงตัดสินใจลาออกจากงาน แล้วกู้เงินก้อนแรกในชีวิต มาเริ่มชีวิตผู้ประกอบการในปี 1996
แล้วเธอก็ทำสำเร็จ และใช้หนี้ที่กู้มาในตอนนั้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 18 ล้านบาทในปัจจุบัน หมดภายในเวลา 18 เดือน
ซึ่งความสำเร็จของธุรกิจ หลัก ๆ มาจากการถูกเลือกไปขายในช่องโทรทัศน์ช็อปปิงชื่อดัง ที่ออกอากาศทั่วประเทศ
วันแรกที่ถ่ายทอดสด เธอขายตู้เก็บต่างหูหมดสต็อก 2,000 ชิ้น ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที และนั่นปูทางให้สินค้าของเธอ ได้นำไปวางขายในเชนห้างดังของสหรัฐฯ อย่าง JCPenney อีกด้วย
จากนั้นเป็นต้นมา การหาสินค้าที่เป็น “Solution” หรือของที่มาแก้ปัญหาเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน ที่ผู้คนมักมองข้าม คือ เข็มทิศในการทำธุรกิจของคุณลอรี
โดยเธอเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เทคนิคที่ทำให้เธอสามารถคิดสินค้าใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เรื่อย ๆ คือ
“การสังเกตอย่างละเอียด” แล้ว “ตั้งคำถามกับตัวเอง” ว่า ในแต่ละวัน มีอะไรที่ทำให้การใช้ชีวิตสะดุดบ้าง ? แล้วคนอื่น สะดุดจุดเดียวกันไหม ?
จากนั้นจึงคิดสินค้าง่าย ๆ ที่ไม่ซับซ้อน มาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
และจากตู้เก็บต่างหู ก็เริ่มขยับขยาย มาทำตู้เก็บเครื่องประดับประเภทอื่น ๆ หรือตู้เก็บเครื่องสำอาง แล้วค่อย ๆ เป็นสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ล้วนเป็นของใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไป แต่เป็น Solution ใหม่ ๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าทั้งสิ้น
โดยช่วงนั้น ช่องทางการขายหลักของคุณลอรี คือ QVC ช่องทีวีเคเบิลของสหรัฐฯ ที่ออกอากาศขายของตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าของผลิตภัณฑ์จะต้องพรีเซนต์สินค้าด้วยตัวเอง จนคุณลอรี ได้ฉายาว่า “ราชินีแห่ง QVC”
เมื่อได้ออกทีวีขายสินค้าบ่อย ๆ ทำให้คุณลอรี มีทักษะในการนำเสนอ และการขายเพิ่มขึ้น
หลังจากขายของผ่านช่องเคเบิลได้เพียงปีเดียว คุณลอรี กลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน ด้วยยอดขายของรวมกว่า 1 ล้านเหรียญ หรือราว ๆ 59 ล้านบาทในปัจจุบัน
ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้
1) สินค้าสร้างสรรค์ที่ตอบโจทย์
2) ทักษะการพูดนำเสนอ
3) ความสำเร็จทางธุรกิจ และมูลค่าทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น
ทำให้ในปี 2012 คุณลอรีถูกทาบทามให้มาเป็น Shark ในรายการ Shark Tank ซีซัน 4 ของสหรัฐฯ เรื่อยมาจนปัจจุบันซีซันที่ 14 แล้ว
ในรายการ คุณลอรีก็ได้เลือกลงทุนในสินค้าที่เรียบง่าย แต่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นคอนเซปต์เดียวกันกับที่เธอใช้ผลิตสินค้านั่นเอง
ตัวอย่างแรก คือ คุณลอรีลงเงินไป 6.6 ล้านบาท เพื่อแลกกับหุ้น 20% ของ Scrub Daddy ฟองน้ำล้างจาน ที่ดูแสนธรรมดา
โดยปัจจุบันแบรนด์ Scrub Daddy ติดตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และแตกไลน์สินค้ามากถึง 48 อย่าง แถมวางขายใน 17 ประเทศทั่วโลกอีกด้วย ทำให้มียอดขายมากกว่า 3,300 ล้านบาทต่อปี เลยทีเดียว
ในขณะที่ Squatty Potty ที่ดูเหมือนเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม และน่าจะขายยาก แต่คุณลอรีกลับกล้าลงเงินถึง 11.5 ล้านบาท แลกกับหุ้นเพียง 10% ด้วยเหตุผลที่ว่า การขับถ่ายเป็นเรื่องของทุกคน
และตั้งแต่หลังออกรายการ จนถึงตอนนี้ ก็มียอดขายรวมกันแล้วถึง 7,500 ล้านบาท
ซึ่งนอกจาก บทบาทในฐานะนักลงทุนแล้ว คุณลอรียังเป็นผู้ที่ช่วยให้ทั้ง 2 กิจการนี้ สามารถนำสินค้าเข้าไปวางขายในห้างชั้นนำ
โดยที่วางเท้า Squatty Potty ได้เข้าไปวางขายในห้าง Bed, Bath & Beyond กว่า 11,000 แห่ง
ส่วน Scrub Daddy ก็ได้เข้าไปวางขายในร้านค้าปลีกมากถึง 30,000 แห่ง ใน 17 ประเทศทั่วโลก
นี่เป็นการย้ำอีกครั้งว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สินค้าขายได้ คือ สินค้านั้น ต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะช่วยลดเรื่องน่าปวดหัวในชีวิตประจำวันให้กับผู้คน หรือช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่พวกเขา
แม้จะเป็นสินค้าธรรมดาง่าย ๆ แต่ถ้าเราช่างสังเกต และตีโจทย์แตก ก็สามารถทำสินค้าที่ประสบความสำเร็จ และสร้างยอดขายถล่มทลายได้
เหมือนอย่างคุณลอรี ซึ่งตอนนี้เธอก็ได้กลายเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ และเศรษฐี เจ้าของสินค้ากว่าพันชนิด ที่มีความมั่งคั่งรวมเกือบ 5,000 ล้านบาท..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.