รู้จัก น้องชายอีลอน มัสก์ คนที่อยากเอาผักไปปลูก บนดาวอังคาร
Business

รู้จัก น้องชายอีลอน มัสก์ คนที่อยากเอาผักไปปลูก บนดาวอังคาร

20 เม.ย. 2023
รู้จัก น้องชายอีลอน มัสก์ คนที่อยากเอาผักไปปลูก บนดาวอังคาร /โดย ลงทุนเกิร์ล
อีลอน มัสก์ มีความฝัน ตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า เขาจะพามนุษยชาติไปเหยียบดาวอังคาร และตั้งอาณานิคมบนนั้น
เขาจึงก่อตั้ง SpaceX หรือธุรกิจพัฒนาจรวดขนส่งทางอวกาศขึ้นมา ในปี 2002 โดยมียานขนส่งอวกาศ Starship เป็นหัวใจสำคัญในภารกิจนี้
และอีลอน มัสก์ ยังเคยตั้งเป้าหมายไว้อีกว่า จะสร้างอาณานิคมบนดาวอังคาร ภายในปี 2050 หรือในอีก 27 ปีข้างหน้า โดยจะส่งคนไปอยู่ที่ดาวอังคารให้ได้ 1,000,000 คน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าคงไม่ใช่แค่อีลอน มัสก์ คนเดียวเท่านั้น ที่อยากจะไปพิชิตดาวอังคาร เพราะน้องชายของเขาเอง ก็ตั้งใจจะไปเหมือนกัน
พร้อมกับเป้าหมาย ที่จะนำ “ผัก” ขึ้นไปปลูกบนดาวอังคาร
เพื่อเป็นแหล่งผลิตอาหารให้กับคนบนนั้น อีกด้วย
แล้วน้องชายของ อีลอน มัสก์ คือใคร ?
เขามีแนวคิดในการปลูกผักบนดาวอังคาร อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
น้องชายแท้ ๆ ของอีลอน มัสก์ มีชื่อว่า “คิมบัล มัสก์” ปัจจุบันมีอายุ 50 ปี
โดยเส้นทางธุรกิจของอีลอน และคิมบัล เริ่มต้นจากการทำธุรกิจด้วยกัน ซึ่งก็คือการก่อตั้ง Zip2 บริษัทซอฟต์แวร์ จัดหาข้อมูลออนไลน์ให้กับสื่อต่าง ๆ
ซึ่งในภายหลัง Zip2 ก็ถูกขายให้กับ Compaq บริษัทผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลชื่อดังในสมัยนั้น เป็นเงินกว่า 10,400 ล้านบาท
นับเป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของทั้งคู่ และหลังจากนั้น พวกเขาก็แยกย้ายกันไปทำธุรกิจ ตามความสนใจของตนเอง อย่างจริงจัง
สำหรับอีลอน มัสก์ ที่สนใจด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เขาจึงร่วมก่อตั้ง Paypal บริษัทพัฒนาระบบชำระเงินออนไลน์ ก่อนที่ในปี 2002 จะขายกิจการให้กับ eBay
และในเวลาต่อมา อีลอน มัสก์ ก็ได้ร่วมก่อตั้ง และเป็นเจ้าของบริษัทอีกหลายแห่ง เช่น SpaceX, Tesla, The Boring Company, Neuralink และ Twitter
ขณะที่ คิมบัล มัสก์ กลับมีความสนใจในด้านอาหาร และนวัตกรรมการเกษตร
เขาจึงมุ่งมั่นก่อตั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Square Roots, The Kitchen Restaurant Group และ Big Green
แล้วแต่ละธุรกิจของ คิมบัล มัสก์ มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
เริ่มต้นด้วย “Square Roots” เป็นธุรกิจสตาร์ตอัปด้านการเกษตร ที่คิมบัล มัสก์ได้ร่วมก่อตั้งกับเพื่อนของเขา โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่การเกษตรให้กับคนในเมือง ได้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบที่สดใหม่ และดีต่อสุขภาพ
เนื่องจากเขามองว่า ยิ่งมีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ในตัวเมือง หรือใกล้กับจุดที่นำไปใช้ได้มากเท่าไร
ก็จะยิ่งช่วยลดความเสียหาย หรือการเน่าเสียของผลผลิต ในระหว่างการขนส่งได้มากขึ้นเท่านั้น
แต่อย่างที่รู้ ๆ กันว่า ในเมืองมักมีพื้นที่เพาะปลูกที่จำกัด
ความน่าสนใจของ Square Roots ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ จึงอยู่ที่การนำ “ตู้คอนเทนเนอร์” มาเป็น ฟาร์มเพาะปลูกพืชผักในที่ร่ม เพื่อลดข้อจำกัดการใช้สอยพื้นที่ในเมือง
ที่สำคัญการปลูกพืชผักของ Square Roots ยังไม่ต้องพึ่งพาดินหรือแสงแดดใด ๆ เนื่องจากใช้ระบบการปลูกแบบไฮโดรพอนิกส์ หรือการปลูกพืชในน้ำ ที่มีสารอาหารของพืชละลายอยู่
และด้วยระบบจัดการน้ำที่สามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงทำให้ Square Roots สามารถลดการใช้น้ำไปได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับการเพาะปลูกแบบเดิม
มากไปกว่านั้น ภายในตู้คอนเทนเนอร์ ยังมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยควบคุมสภาพแวดล้อมโดยรวม ให้ไม่ต่างจากวันที่อากาศดีที่สุดตามธรรมชาติ
จึงทำให้ Square Roots ไม่ต้องกังวลในเรื่องของคุณภาพ และปริมาณของผลผลิตที่ไม่แน่นอน เพราะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี
ดังนั้น แปลงเพาะปลูกของ Square Roots ที่ถูกเนรมิตขึ้นภายในตู้คอนเทนเนอร์ ด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ
จึงสามารถนำไปตั้งทำการเกษตรที่ไหนก็ได้ ตั้งแต่ลานจอดรถ, โกดังเก็บของ ไปจนถึงพื้นที่ในอาคาร
นอกจากนี้ในอนาคต คิมบัล มัสก์ ยังวางเป้าหมายไว้อีกว่า เมื่อพี่ชายของเขาขึ้นไปสร้างอาณานิคมบนดาวอังคารได้สำเร็จเมื่อไร
แปลงผักของ Square Roots ก็จะถูกนำขึ้นไปปลูกที่นั่นด้วยเช่นกัน..
ด้วยเรื่องราวทั้งหมดนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม Square Roots ถึงเป็นที่สนใจจากนักลงทุน จนสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนไปได้แล้ว กว่า 3,100 ล้านบาท แม้จะก่อตั้งมาได้ไม่ถึง 7 ปี ซึ่งถือว่าเป็นสตาร์ตอัปด้านการเกษตร ที่ระดมทุนได้มากเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว
แต่เส้นทางธุรกิจของ คิมบัล มัสก์ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะเขายังได้ต่อยอดผลผลิตของ Square Roots ไปสู่อีกหนึ่งธุรกิจ นั่นก็คือ “The Kitchen Restaurant Group”
ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านอาหาร ที่มีคอนเซปต์ “Farm to table” ด้วยการใช้ผลผลิตจาก Square Roots และฟาร์มออร์แกนิกจากเกษตรกรในท้องถิ่น มาเป็นวัตถุดิบของร้าน
เพราะคิมบัล มัสก์ต้องการให้ทุกมื้ออาหารที่ถูกเสิร์ฟ เต็มไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพดีจากฟาร์มโดยตรง เพื่อให้ได้รสชาติอาหารที่ดีที่สุดออกมา
นอกจากนี้ เขายังมองว่าวัตถุดิบเหล่านี้ ล้วนมีเรื่องราวมากมาย ก่อนที่จะมาเป็นอาหารในจาน ทั้งเรื่องของความใส่ใจ และความพิถีพิถันในการดูแลผลผลิต
ดังนั้นมันจึงเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ ที่ลูกค้าจะได้รับกลับไป นอกเหนือจากความอร่อยที่ทางร้านมอบให้
มากไปกว่านั้น กำไรบางส่วนจากยอดขายของ The Kitchen Restaurant Group ในแต่ละสาขา จะถูกนำไปบริจาคให้กับ “Big Green” องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ คิมบัล มัสก์ ได้ร่วมก่อตั้งกับเพื่อน ๆ
โดย Big Green มีเป้าหมายในการเป็นสวนแห่งการเรียนรู้ เพื่อสอนให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องโภชนาการ สุขภาพ และความรู้ด้านการเกษตร ผ่านความร่วมมือกับโรงเรียนต่าง ๆ
ซึ่งในปัจจุบัน Big Green ก็ได้ร่วมมือกับโรงเรียนประถมไปแล้วกว่า 650 แห่ง ทั่วประเทศสหรัฐฯ
เรียกได้ว่า ทั้ง 3 ธุรกิจของคิมบัล มัสก์ นั้น มีความเชื่อมโยงกัน แถมยังน่าสนใจไม่น้อยไปกว่าธุรกิจของพี่ชายเลย
และถึงแม้เป้าหมายในการทำธุรกิจของทั้งคู่ จะค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน
แต่สิ่งที่สองพี่น้องคู่นี้ กลับมีเหมือนกันคือ “แพสชัน” ในการทำธุรกิจ
ซึ่งแพสชันนี่แหละ ที่เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงชั้นดี ในการขับเคลื่อนให้ทั้งคู่ได้ลงมือทำในสิ่งที่พวกเขาต้องการจริง ๆ และค่อย ๆ ก้าวไปสู่เป้าหมาย ที่ตั้งใจเอาไว้ได้สำเร็จ โดยที่ไม่ล้มเลิกระหว่างทางเสียก่อน เมื่อต้องพบเจออุปสรรค
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า หากอีลอน มัสก์ สามารถใช้แพสชันนี้ พามนุษย์ ไปยังดาวอังคารได้จริง
นอกจากจะสานฝันให้ตนเองแล้ว ก็คงจะสานฝันน้องชาย ให้ไปปลูกผัก บนดาวอังคาร ได้ด้วยเช่นกัน..
------------------------------------------------------------------
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/#TANACHIRA
------------------------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.