ทำไม แบรนด์แฟชั่น ถึงจัดโชว์ในแฟชั่นวีก ทั้งที่ต้องทุ่มงบมหาศาล
Business

ทำไม แบรนด์แฟชั่น ถึงจัดโชว์ในแฟชั่นวีก ทั้งที่ต้องทุ่มงบมหาศาล

4 มี.ค. 2024
ทำไม แบรนด์แฟชั่น ถึงจัดโชว์ในแฟชั่นวีก ทั้งที่ต้องทุ่มงบมหาศาล /โดย ลงทุนเกิร์ล
แฟชั่นวีก คือ ช่วงเวลาราว 1 สัปดาห์ที่เหล่าดิไซเนอร์จากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ จะนำผลงานและสินค้าในคอลเลกชันล่าสุด มาจัดแสดงโชว์ใน “Big 4” หรือ 4 หัวเมืองแฟชั่นของโลก อย่าง นิวยอร์ก, ปารีส, มิลาน และลอนดอน
ซึ่งแต่ละแบรนด์ จะต้องทำการบ้านอย่างหนัก และประชันความคิดสร้างสรรค์กันบนรันเวย์ เพื่อให้แบรนด์ของตัวเองโดดเด่น และดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุด
ยกตัวอย่าง แบรนด์ Chanel ที่ชอบทำโชว์อลังการ ก็เคยทุ่มงบกว่า 63 ล้านบาท เพื่อเนรมิตโชว์คอลเลกชัน Chanel Cruise Show ในปี 2014 มาแล้ว
ทำไมหลายแบรนด์ ถึงยังเลือกที่จะจัดโชว์ในงานแฟชั่นวีก ทั้ง ๆ ที่ต้องลงทุนมหาศาล ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า งานแฟชั่นวีกถูกจัดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 1943 หรือนานถึง 81 ปีมาแล้ว
โดยมีจุดเริ่มต้นจากคุณ Eleanor Lambert นักประชาสัมพันธ์ด้านแฟชั่น
ในเวลานั้น เป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งการคมนาคมไม่ได้สะดวกเหมือนตอนนี้ จนสื่อต่าง ๆ ในสหรัฐฯ ไม่สามารถเดินทางไปดูผลงานของเหล่าดิไซเนอร์ในปารีสได้
คุณ Lambert จึงเล็งเห็นโอกาส จึงจัดงานชื่อ “Press Week” เพื่อแสดงโชว์ผลงานจากดิไซเนอร์และแบรนด์ต่าง ๆ โดยจะจัดขึ้นในแต่ละสัปดาห์ที่กำหนด
ด้วยความที่ Press Week ในนิวยอร์ก สร้างเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก
ทำให้หลังจากนั้น การจัดแฟชั่นวีกจึงได้ถือกำเนิดขึ้นในหัวเมืองแฟชั่นอย่างปารีส, มิลาน และลอนดอน ตามลำดับ
ปัจจุบัน แฟชั่นวีกจะจัดขึ้น 2 ครั้งใน 1 ปี ตามฤดูกาล
ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ จะโชว์สินค้าล่วงหน้าก่อนฤดูกาลจริง เพื่อที่จะนำไปวางขายตามหน้าร้านค้า ในช่วงซีซันถัดไป
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นคอลเลกชัน Autumn/Winter หรือ Fall/Winterช่วงเดือนกันยายน เป็นคอลเลกชัน Spring/Summer
อย่างไรก็ตาม แบรนด์แฟชั่นบางแบรนด์ จะมีคอลเลกชันพิเศษ เพื่อคั่นก่อนหรือหลังคอลเลกชันใหญ่ ๆ เช่น Pre-fall, Cruise หรือ Resort
ที่น่าสนใจก็คือ ค่าใช้จ่ายในการจัดโชว์ในแฟชั่นวีก แต่ละครั้ง มีตั้งแต่..
ค่าเช่าสถานที่ค่าโปรดักชันส์ค่าสไตลิสต์ค่าช่างแต่งหน้า ช่างทำผมค่าตัวนางแบบ/นายแบบค่าประชาสัมพันธ์และสื่อ
โดยมีรายงานว่าแต่ละแบรนด์จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายราว 7 ล้านบาท หรืออาจสูงถึง 36 ล้านบาท
แล้วผลตอบแทนที่ได้ คุ้มค่าหรือไม่ ?
แม้ว่าระยะเวลา ในการจัดแสดงคอลเลกชันใหม่ของแต่ละแบรนด์ จะอยู่ที่ราว ๆ 10-20 นาที
แต่แบรนด์เหล่านี้ ก็ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า โดยเฉพาะ “การโปรโมตสินค้า”
ต้องบอกว่า จุดประสงค์หลัก ที่หลายแบรนด์อยากจัดแสดงโชว์ในงานแฟชั่นวีก ก็เพื่อให้สื่อและเหล่าคนดัง ช่วยโปรโมตสินค้าในคอลเลกชันนั้น ๆ
เพราะการที่โชว์ หรือสินค้าในคอลเลกชันบนรันเวย์ กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ หรือถูกพูดถึงโดยผู้ที่มีอิทธิพลในวงการแฟชั่น จะทำให้แบรนด์อยู่ในกระแส และสินค้าเหล่านั้นจะกลายเป็นที่ต้องการมากขึ้น
จึงไม่แปลกใจที่งานแฟชั่นวีกแต่ละครั้ง ทุกแบรนด์จะทำโชว์ให้น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุด
รวมถึงช่วงหลัง ๆ แบรนด์แฟชั่นก็ชักชวนอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังและเซเลบริตี มาร่วมเดินบนรันเวย์กันมากขึ้น
เช่น Celine คอลเลกชัน Winter ปี 2022 ที่ดึงคุณลิซ่า BLACKPINK เข้ามาเป็นหนึ่งในนางแบบของแบรนด์
เรื่องนี้ ส่งผลให้แบรนด์เพิ่มการมองเห็น และการเข้าถึงคอลเลกชันนั้นได้มหาศาล จากฐานแฟนคลับของคุณลิซ่า
และสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น ก็คือกระแสในโซเชียลมีเดีย ที่ทั้งอินฟลูเอนเซอร์และคนทั่วไป ต่างรีวิวบอกต่อกันแบบปากต่อปาก จนกระตุ้นให้เกิด “Bandwagon Effect” หรือปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา ที่ทำให้คนแห่ใช้ตามเพราะไม่อยากตกเทรนด์
ที่น่าสนใจก็คือ ปัจจุบันหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จ และผลตอบแทนจากการจัดแฟชั่นโชว์ของแบรนด์ในแฟชั่นวีก คือ “มูลค่าทางสื่อ (MIV)”
โดยมูลค่าทางสื่อ เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพด้านแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และความงาม ที่ใช้อัลกอริทึมคำนวณจากคุณภาพ เช่น เนื้อหา, ความเกี่ยวข้อง, ปริมาณการเข้าถึง และปริมาณผู้มีส่วนร่วมกับคอนเทนต์
ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์รู้ว่า กลยุทธ์ใดหรืออินฟลูเอนเซอร์คนไหน สร้างผลกระทบต่อสื่อ หรือสร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ได้สูงสุด
อย่างไรก็ตาม การจัดงานแฟชั่นโชว์ ก็ไม่ได้เอื้อประโยชน์แค่แบรนด์แฟชั่นเท่านั้น
เพราะมันยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เช่นเดียวกัน
ตั้งแต่ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจร้านอาหาร ไปจนถึงธุรกิจในท้องถิ่น
เช่น ปารีสแฟชั่นวีกในปี 2016 ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับกรุงปารีส ได้ถึง 47,000 ล้านบาท
แต่ในช่วงที่โลกต้องหยุดชะงัก จากการแพร่ระบาด
ทำให้แฟชั่นโชว์ไม่สามารถจัดขึ้นได้ตามปกติ
บางแบรนด์จึงต้องตัดสินใจยกเลิกการจัดโชว์ หรือเลือกที่จะจัดแสดงโชว์ออนไลน์แทน
ทำให้ในเวลานั้น ทั้ง 4 หัวเมืองแฟชั่น สูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจไปมากกว่า 20,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
เรียกได้ว่า “แฟชั่นวีก” ไม่ได้เป็นแค่พื้นที่สำหรับการจัดโชว์ผลงาน ของแบรนด์แฟชั่นเท่านั้น
แต่ยังเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และพื้นที่ทำการตลาดชิ้นดีของแบรนด์
เพราะแม้แบรนด์ต่าง ๆ จะต้องทุ่มงบหลายล้านบาท ในการเนรมิตรันเวย์ให้โดดเด่นกว่าใคร
แต่ถ้าเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้รับกลับมา เงินที่ลงทุนไปนั้น อาจจะเป็นแค่เสี้ยวเดียวของรายได้ที่ได้รับกลับมาก็ได้..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.