S.I.L.K. (Super Income, Low Key) ไลฟ์สไตล์ของมหาเศรษฐี ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย /โดย ลงทุนเกิร์ล

“Act broke, Stay rich” ใช้ชีวิตสมถะ จะทำให้เรารวย
นี่คือคำพูดของคุณ Lucy Guo ผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI ที่ขึ้นแท่นมหาเศรษฐินี Self-Made หมื่นล้านบาทที่อายุน้อยที่สุด แซงหน้าคุณ Taylor Swift ไปเรียบร้อยแล้ว

และหากใครติดตามข่าวในช่วงนี้ ก็คงจะเห็นว่าหลาย ๆ สื่อพูดถึงเธอแทบจะทุกวัน ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้การก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐินีหน้าใหม่ของคุณ Guo ก็คือการให้สัมภาษณ์ถึงไลฟ์สไตล์การใช้เงินของเธอ

ที่แม้ว่าปัจจุบัน จะมีสถานะใหม่ที่ร่ำรวยขึ้นมาก แต่เธอก็ยังคงมีไลฟ์สไตล์ที่สบาย ๆ ไม่ฟุ่มเฟือย หรือไลฟ์สไตล์แบบ “S.I.L.K.” จนกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกออนไลน์

เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

หลังจากที่คุณ Mark Zuckerberg ทุ่มเงินกว่า 480,000 ล้านบาท ลงทุนใน Scale AI แพลตฟอร์มสำหรับการสอนและพัฒนา AI เพื่อแลกกับหุ้น 49%

มูลค่าของบริษัท Scale AI ก็ถูกประเมินเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า กลายเป็น 940,000 ล้านบาท

ส่งผลให้หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Scale AI อย่างคุณ Guo ที่แม้ปัจจุบันเป็นเพียงผู้ถือหุ้น 5% ในบริษัท ร่ำรวยขึ้นอย่างมาก จนกลายเป็นเศรษฐินีที่อายุน้อยที่สุดเพียง 30 ปี ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 42,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้เธอเป็นที่พูดถึงมากกว่าแค่ความร่ำรวยนั้น คือ ไลฟ์สไตล์การใช้เงินของเธอที่ไม่หวือหวา

ซึ่งคุณ Guo จั่วหัวเรื่องนี้ว่า “เธอไม่ชอบการใช้เงินฟุ่มเฟือย”

โดยเธอให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เธอยังคงใส่เสื้อผ้าแจกฟรี หรือหากต้องซื้อ ก็จะซื้อเสื้อผ้าจาก Shein

เธอยังคงใช้รถ Honda Civic คันเดิมไปทำงาน และซื้ออาหารโปรโมชัน 1 แถม 1 จากแอป Uber Eats อยู่เลย

ซึ่งเราสามารถนิยามคนกลุ่มนี้ได้ว่า “S.I.L.K.” ที่ย่อมาจาก Super Income, Low Key ไลฟ์สไตล์ของมหาเศรษฐี ที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย

แน่นอนว่า มีมหาเศรษฐีอีกหลายคนที่ชื่นชอบการใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่โดดเด่น หวือหวา

เช่นคุณ Warren Buffett มหาเศรษฐีที่ขึ้นชื่อเรื่องความประหยัด ที่มีมูลค่าทรัพย์สินราว 5 ล้านล้านบาท

เขายังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่เรียบง่าย ซึ่งซื้อไว้ตั้งแต่อายุ 28 ปี และยังคงขับรถ Cadillac XTS ปี 2014 ธรรมดา ๆ แม้ว่าเขาจะสามารถซื้อรถหรูได้หลายคันก็ตาม

ซึ่งลูกสาวของคุณ Buffett เปิดเผยกับ BBC ว่า คุณพ่อของเธอยินดีซื้อรถยนต์ที่มีรอยชำรุดเล็กน้อย แลกกับการได้รถที่ราคาถูกลง โดยที่ไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่ามหาเศรษฐีเหล่านี้จะต่อต้านการใช้เงินไปกับทุกอย่าง

เพราะบางครั้งคุณ Guo ก็ยอมจ่ายเงินเพื่อนั่งเครื่องบินในชั้น Business Class หากต้องนั่งเครื่องบินไฟลต์ยาว ๆ เป็นสิบชั่วโมง หรือการมีเสื้อผ้าแบรนด์หรูติดตู้เสื้อผ้าไว้ สำหรับใช้ยามจำเป็น

และหลาย ๆ ครั้ง คุณ Buffett ก็ใช้เงินก้อนใหญ่ไปลงทุนในหุ้นที่เขาชื่นชอบ

สรุปก็คือ มหาเศรษฐีบางคนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแสดงออกถึงความมั่งคั่ง หรือการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่เน้นไปที่ความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุดจากการใช้จ่ายนั้น ๆ

เพราะเมื่อพวกเขามีทรัพย์สินมากเพียงพอแล้ว การไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองผ่านข้าวของแบรนด์หรู หรือเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อการยอมรับจากสังคม ก็คือการสะท้อนถึงความมั่นคงภายในที่แท้จริง..

References :

Yahoo Finance, Fortune