Soda Pop กันทั่วโลก KPop Demon Hunters กระแสดีไม่มีตก ทำนักท่องเที่ยวแห่ตามรอยถึงเกาหลี /โดย ลงทุนเกิร์ล
You're my soda pop, my little soda pop ~
เพลงฮิตติดหูที่ทำให้คนยักไหล่กันทั่วโซเชียล จากภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง KPop Demon Hunters

เรื่องราวของเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop ที่ออกมาปกป้องแฟน ๆ จากเหล่าปีศาจโดยเฉพาะบอยแบนด์ในคราบปีศาจเจ้าของเพลง Soda Pop

แม้จะเข้าฉายทาง Netflix ตั้งแต่เดือนมิถุนายน แต่ความฮิตก็ยังคงร้อนแรงไม่หยุด จนล่าสุดขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ที่มียอดรับชมสูงสุดตลอดกาลของ Netflix ไปแล้ว

รวมถึงอัลบัมเพลงประกอบก็ยังสร้างปรากฏการณ์ ด้วยการเป็นซาวนด์แทร็กแรกที่มีเพลงติด Top 10 บนชาร์ต Billboard Hot 100 พร้อมกันถึง 4 เพลง

แล้วกระแสสุดไฮป์ของแอนิเมชันเรื่องนี้ สร้างแรงกระเพื่อมในด้านไหนอีกบ้าง ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

KPop Demon Hunters คือภาพยนตร์แอนิเมชันจากค่าย Sony Pictures Animation ที่สตรีมบน Netflix

ด้วยเนื้อหาเพลิน ๆ เข้าใจง่าย ทำให้แอนิเมชันเรื่องนี้ครองใจผู้คนได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะเพลงประกอบที่ฮิตติดหู ก็ทำให้เรื่องนี้ยิ่งแมสขึ้นไปอีก

ซึ่งอีกหนึ่งผลพลอยได้จากกระแสของภาพยนตร์เรื่องนี้ คือภาคการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ที่เริ่มมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาตามรอยไม่พัก

จากผลสำรวจล่าสุดของรัฐบาลเกาหลีใต้ พบว่านักท่องเที่ยวในประเทศถึง 32.1% ได้รับอิทธิพลจากคอนเทนต์เกาหลี

และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในปีนี้ จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 6.8 แสนล้านบาท

ยกตัวอย่างสถานที่ท่องเที่ยวที่ฮิตในช่วงนี้ อย่างเช่น Naksan Park สวนสาธารณะที่ปรากฏในภาพยนตร์ KPop Demon Hunters ก็ถูกพูดถึงบนโซเชียลมีเดียเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อนหน้า

หมู่บ้านบุกชอนฮันอก นัมซานทาวเวอร์ ไปจนถึงศูนย์การแพทย์จากซีนร้านขายยาสมุนไพรในเรื่องก็กลายเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมในช่วงนี้

พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเกาหลีซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่ปรากฏในเรื่อง ก็มีรายได้จากการขาย Merchandise ที่ได้แรงบันดาลใจจากตัวละครอย่างนกและเสือที่โผล่มาให้ผู้ชมเอ็นดูทั้งเรื่อง

และยอดจองคลาสเรียนเต้น K-Pop จากนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันก็เพิ่มขึ้นถึง 400% และจากนักท่องเที่ยวไต้หวันเพิ่มขึ้น 575%

นอกจากนี้ ในเรื่องยังได้สอดแทรกกิมมิกที่สะท้อนชีวิตประจำวันของคนเกาหลี อย่างการทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือวัฒนธรรมการแฮงเอาต์กับเพื่อนที่โรงอาบน้ำสาธารณะ

ส่งผลให้ Creatrip แพลตฟอร์มท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ รายงานว่าตั้งแต่มีภาพยนตร์เรื่องนี้ ยอดซื้อชุดฮันบกเพิ่มขึ้น 30% และยอดจองทัวร์โรงอาบน้ำแบบเกาหลีก็เพิ่มขึ้น 84%

อีกทั้งแฟน ๆ ยังไปตามรอยอาหารที่ตัวละครกิน เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขนมขบเคี้ยว ทำให้บริษัทอาหารยักษ์ใหญ่อย่าง Nongshim ต้องออกสินค้าคอลเลกชันพิเศษที่ร่วมมือกับภาพยนตร์

โดยเป็นบะหมี่ที่มีหน้าตาคล้ายกับถ้วยรามยอนที่วง Huntrix บอยแบนด์ในเรื่องทานกันอย่างเอร็ดอร่อยในฉากเปิด และยังมีแพ็กเกจจิงที่มีหน้าของตัวละครอื่น ๆ ในเรื่อง ก็เตรียมวางขายในหลายทวีปทั่วโลก

นี่คือความสำเร็จเพียงส่วนหนึ่งที่อาจทำให้ KPop Demon Hunters กลายเป็นแฟรนไชส์ระดับโลก ที่มีมูลค่าสูงถึงหลักพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ขณะเดียวกันสื่อต่างประเทศก็รายงานว่าผู้สร้างอย่าง Sony Pictures Animation อาจทำกำไรจากเรื่องนี้เพียง 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 646 ล้านบาทเพราะได้ขายลิขสิทธิ์ให้กับ Netflix ไปแล้ว

สำหรับแฟน ๆ ที่กำลังรอภาคต่อของภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Sony Pictures Animation และ Netflix จะร่วมมือกันสร้างออกมาให้เราได้ชมเมื่อไร

แต่ด้วยกระแสความสำเร็จระดับโลกที่ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้สร้างขึ้นมา ก็เชื่อว่าคงไม่นานเกินรอ

ทั้งนี้ ก็น่าคิดว่าถ้าบ้านเรามีภาพยนตร์หรือแอนิเมชันที่สร้างแรงกระเพื่อมได้ในระดับเดียวกับ KPop Demon Hunters จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร..

References :

Netflix, The Korea Times, BBC, The Korea Herald