รู้หรือไม่ว่า ในปีที่ผ่านมาขยะพลาสติกในไทยมีจำนวนมากถึง 2.88 ล้านตัน
แต่มีเพียง 25% เท่านั้นที่ถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ อ้างอิงจากข้อมูลของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

นั่นหมายความว่ายังมีขยะพลาสติกอีกกว่า 2.16 ล้านตัน ที่อาจถูกนำไปจัดการด้วยการฝังกลบหรือเผาทำลาย หรืออาจหลุดกลับไปปะปนในสิ่งแวดล้อม จนกระทบกับระบบนิเวศและกลายเป็นปัญหามลพิษตามมา

โชกุบุสซึ (Shokubutsu) ในฐานะเป็นผู้นำตลาดครีมอาบน้ำยอดขายอันดับ 1 สามปีซ้อน* ที่อยู่ในบ้านคนไทยมามากกว่า 30 ปี ก็ถือเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ที่ตระหนักถึงปัญหานี้มาโดยตลอด และมีแคมเปญที่มุ่งเป้าไปที่ประเด็นสิ่งแวดล้อม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของธรรมชาติ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการบำรุงผิวในครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริทุกขวด

โดยในปีนี้ ทางแบรนด์ยังคงให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อม และต้องการขอบคุณธรรมชาติ
แต่เพิ่มเติมความน่าสนใจให้กับแคมเปญรักษ์โลกของแบรนด์ให้ยิ่งเข้มข้น และกลายเป็นที่มาของธีม Go Green Go Glam
ซึ่งนอกจากจะชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์การดูแลผิวที่ไม่เพียงแค่ตอบโจทย์ความงาม
แต่ยังเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์ชิ้นงานแฟชั่นที่รักษ์โลก กับแบรนด์แฟชั่นชื่อดังอย่าง PIPATCHARA อีกด้วย

แล้วแคมเปญ Go Green Go Glam จะมีกิมมิกอะไรที่ชวนให้ว้าวซ่อนอยู่ ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

อย่างที่เรารู้กันว่า โชกุบุสซึ เป็นแบรนด์ครีมอาบน้ำยอดฮิตที่ครองยอดขายอันดับ 1 ในหลายปีที่ผ่านมา
ทีนี้ลองจินตนาการดูว่าในแต่ละปี จะมีขวดโชกุบุสซึที่ถูกผลิตออกมามากขนาดไหน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้กัน

ซึ่งข้อนี้ทางโชกุบุสซึ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้พยายามโฟกัสไปที่เรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เพื่อลดผลกระทบกับโลกให้ได้มากที่สุด

จนได้ออกมาเป็นแคมเปญ Go Green Go Glam เพื่อแสดงความขอบคุณต่อโลกด้วย 3 วิธีหลัก ๆ ด้วยกัน เริ่มตั้งแต่

หนึ่ง พัฒนานวัตกรรมการผลิตแพ็กเกจจิงที่ใช้พลาสติกน้อยลง และเป็นมิตรกับธรรมชาติมากขึ้น

โดยเป็นความร่วมมือที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2566 ระหว่างเอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) ผู้นำตลาดเคมีภัณฑ์ครบวงจรระดับภูมิภาค และไลอ้อน (ประเทศไทย) เปิดตัวแพ็กเกจจิงใหม่จากนวัตกรรมและโซลูชันของ SCGC GREEN POLYMER™ ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี SMX™

ความพิเศษของเทคโนโลยี SMX™ คือความสามารถในการผลิตเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง สำหรับใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีน้ำหนักน้อยลง ลดการใช้เม็ดพลาสติกลงจากเดิม และยังถูกออกแบบมาให้นำกลับไปรีไซเคิลได้

นั่นหมายความว่าแพ็กเกจจิงครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริในบ้านของทุกคน เป็นผลผลิตจากนวัตกรรม Eco-Friendly Packaging ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมากขึ้น

และที่ผ่านมาถ้าใครสังเกตเห็นว่าแพ็กเกจจิงครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริมีน้ำหนักเบาลง ก็คงจะได้คำตอบแล้วว่ามาจากความตั้งใจของทางแบรนด์ที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดการใช้พลาสติกในกระบวนการผลิตให้ได้มากที่สุด ซึ่งเห็นได้ชัดจากตัวเลข 42 ตันที่หายไปในแต่ละปีนั่นเอง

สอง เปลี่ยนพลาสติกเหลือใช้ ให้กลับมามีมูลค่า

ตลอดเดือนกันยายนถึงตุลาคมที่ผ่านมา ทางโชกุบุสซึ ได้ชวนทุกคนมาร่วมกิจกรรมชุบชีวิตขวดครีมอาบน้ำที่ใช้แล้ว ให้กลายมาเป็นไอเทมสุดแกลมจาก PIPATCHARA

เพียงนำขวดครีมอาบน้ำที่ใช้แล้วไปหย่อนที่ตู้ Recycle Station ใน Tops 5 สาขาทั่วกรุงเทพฯ เพื่อสะสมคะแนน และคนที่สะสมคะแนนได้สูงสุด 3 อันดับแรก จะได้รับสร้อยข้อมือ PIPATCHARA คอลเลกชันพิเศษ

นอกจากนี้ทางโชกุบุสซึ ยังดึงดูดให้ลูกค้ามาร่วมรีไซเคิลด้วยการมอบคูปองส่วนลด 40 บาท ให้กับทุกคนที่ร่วมกิจกรรม เรียกได้ว่าเป็นมูฟที่จริงจังในการลดขยะของแบรนด์ ที่ฝั่งลูกค้าก็พลอยได้ประโยชน์ไปด้วย

สาม ร่วมกับ PIPATCHARA แบรนด์แฟชั่นไทยสายรักษ์โลก ชุบชีวิตพลาสติกเหลือใช้ ผ่านการทำงาน

PIPATCHARA ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นคนไทยที่ตระหนักถึงผลกระทบกับธรรมชาติมาตั้งแต่ก้าวแรก ไม่ว่าจะเป็นดิไซน์หรือแนวคิดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผ่านการเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืนและกระทบกับโลกน้อยที่สุด

ขณะที่โชกุบุสซึเอง ก็วางจุดยืนในการเป็นแบรนด์ที่ใช้พลังจากธรรมชาติ เพื่อสร้างสุขภาพผิวที่ดีให้กับทุกคน ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้พึ่งพากันได้อย่างยั่งยืน

การเจอกันของสองแบรนด์ ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันเช่นนี้เป็นความตั้งใจของโชกุบุสซึ ในการสร้างสรรค์ผลงานและประสบการณ์ที่ทำให้เราได้สัมผัสถึงความสวยงาม พร้อมสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นว่าการรักษ์โลกไม่ใช่เรื่องไกลตัว

และที่มากไปกว่านั้นคือการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม และใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้ให้ได้มากที่สุด

สิ่งที่เราจะได้เห็นจากการ Collaboration ครั้งนี้คือคอลเลกชันสุดพิเศษจาก PIPATCHARA ที่มาจากการนำฝาปั๊มขวดพลาสติกครีมอาบน้ำโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ มาแปรรูปจนได้ออกมาเป็นชุด กำไล และกระเป๋าที่แต่ละใบถือเป็นผลงานชิ้นเดียวในโลก

ซึ่งจะถูกนำไปจัดประมูล โดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้แก่ มูลนิธิสติ (SATI Foundation) ที่มุ่งแก้ปัญหาการศึกษาและสุขภาพกับเด็กและเยาวชนกลุ่มเสี่ยงและขาดโอกาส เพื่อร่วมสนับสนุนการดูแลรักษาโลกอย่างยั่งยืน

อ่านมาถึงตรงนี้คงจะทำให้ทุกคนเห็นภาพความตั้งใจของโชกุบุสซึ ในการเป็นผู้ผลิตที่ไม่ละทิ้งประเด็นสิ่งแวดล้อม

และต้องบอกเลยว่านี่ไม่ใช่เป้าหมายเล็ก ๆ แต่เป็นก้าวสำคัญไปสู่การขับเคลื่อนให้ทุกคนตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น

จากเดิมที่อาจจะทิ้งขวดใช้แล้วแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่แคมเปญนี้ก็คงจะทำให้หลายคนหันมาเห็นประโยชน์ของการรีไซเคิลมากขึ้นด้วย

ในโลกที่ธรรมชาติพูดออกมาไม่ได้ โชกุบุสซึได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียง ให้คนหันมาให้ความสำคัญ
กับสิ่งแวดล้อมผ่านแคมเปญนี้แล้วไม่มากก็น้อย

*หมายเหตุ : ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2561 - 20 มิถุนายน 2564 จากการเก็บข้อมูลของ Kantar (Thailand) Ltd., Worldpanel Division

Reference :
- ข่าวประชาสัมพันธ์ Shokubutsu

ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม https://www.dcce.go.th/7385/