<อัปเดต> Prada Group ปิดดีลซื้อ Versace มูลค่า 44,000 ล้านบาท หวังพลิกฟื้นแบรนด์หรู อายุ 47 ปี

Prada Group ได้ลงนามในข้อตกลงขั้นสุดท้าย สำหรับการเข้าซื้อกิจการ Versace จากบริษัท Capri Holdings ด้วยมูลค่า 1,380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 44,000 ล้านบาทย้อนกลับไปในปี 2018 Capri Holdings เคยซื้อกิจการ Versace ด้วยมูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 67,000 ล้านบาท (เท่ากับว่า Capri Holdings ขาย Versace ออกมาในราคาที่ ถูกลงกว่าเดิมกว่า 1 ใน 3)

ในตอนนั้น Capri Holdings ตั้งเป้าว่า Versace จะถึงจุดคุ้มทุนในเดือนมีนาคม ปี 2026 แต่กลับกลายเป็นว่าไม่สามารถทำกำไรได้

อีกทั้งในเดือนกุมภาพันธ์ Fitch ยังปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้บริษัท Capri Holdings เป็น BBB ซึ่งอยู่เหนือระดับหนี้เสี่ยงสูง (Junk) เพียงขั้นเดียว สะท้อนความกังวลต่อภาระหนี้และผลการดำเนินงานที่อาจแย่ลง

ซึ่ง Capri Holdings เคยพยายามแก้สถานการณ์ด้วยการขายแบรนด์ Versace ให้กับบริษัท Tapestry เจ้าของแบรนด์แฟชั่นอย่าง Coach, Kate Spade แต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องจากถูกคณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ (FTC) ระงับไว้ เพราะเสี่ยงต่อการแข่งขันและราคาสินค้า

แต่หลังจากที่ Capri Holdings เคราะห์ซ้ำหลายครั้ง ดีลการเสนอซื้อ Versace จาก Prada Group ก็เจรจาได้สำเร็จลุล่วง

กลับมาที่ฝั่ง Prada Group มองว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ จะทำให้พอร์ตโฟลิโอของบริษัทแข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเน้นย้ำว่าแบรนด์ Versace มีศักยภาพการเติบโตที่ยังไม่ถูกนำมาใช้อีกมาก

อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมเห็นว่า การรวมกันของ Prada ที่เน้นความเรียบง่าย (Minimalist) กับ Versace ที่เน้นความหรูหราอลังการ (Maximalist) เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เพราะแบรนด์ทั้งสองไม่ได้แข่งขันดึงดูดลูกค้ากลุ่มเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม Prada Group ยังคงเผชิญความท้าทาย เนื่องจาก Versace ผ่านยุครุ่งเรืองมานานแล้ว

และในช่วงที่อยู่ภายใต้การบริหารของ Capri Holdings ดิไซน์ของ Versace ยังถูกดึงให้ไปตามกระแสความเรียบง่ายมากขึ้น จนเอกลักษณ์ความจัดจ้านแบบ Versace ถูกทำให้จืดลง พร้อมกับการปรับราคาให้สูงขึ้น

ดังนั้น Prada Group จึงต้องหาทางพลิกฟื้นเอกลักษณ์ หรือคิดค้นอะไรบางอย่างที่จะทำให้ Versace กลับมาน่าดึงดูดอีกครั้ง

เพราะแม้ชื่อของ Versace จะยังแข็งแกร่งในบางกลุ่ม แต่ถ้าไม่สามารถรีเฟรชภาพลักษณ์ให้เข้ากับยุคสมัยได้ ก็อาจกลายเป็นแบรนด์ที่ “คนจำได้ แต่ไม่อยากซื้อ”

แล้ว Prada Group จะสามารถพา Versace ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งได้หรือไม่ ก็คงต้องจับตาดูกันอย่างใกล้ชิด..

References :

BOF, Apnews, BBC