รู้จัก Bottomless โรงคั่วกาแฟ ที่พลิกมาจากความล้มเหลว
Business

รู้จัก Bottomless โรงคั่วกาแฟ ที่พลิกมาจากความล้มเหลว

8 ก.พ. 2021
รู้จัก Bottomless โรงคั่วกาแฟ ที่พลิกมาจากความล้มเหลว /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าวันนี้เราอายุ 30 ปี แล้วยังค้นหาตัวเองไม่เจอ
เราจะทำอย่างไรกันคะ?
เราจะยังกล้าทำตามความฝันรึเปล่า ถ้าหากใครๆ ต่างบอกว่ามันสายเกินไป
แต่สำหรับคุณนพพล อมรพิชญ์ปรัชญา หรือคุณหมู
ผู้เป็นเจ้าของโรงคั่วกาแฟ Bottomless กลับไม่คิดแบบนั้น
เพราะเขากล้าที่จะเริ่มต้นทำตามความฝัน แม้ว่าจะล่วงเลยวัย 30 ไปแล้วก็ตาม
และในปัจจุบัน หลังจากผ่านมากว่า 10 ปี
เขาได้กลายมาเป็น “ปรมาจารย์ในวงการกาแฟ” ที่ใครๆ ต่างชื่นชม
แต่กว่าจะมีวันนี้ คุณหมูต้องผ่านความล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วน
ที่ผ่านมาเขารับมือกับความล้มเหลวได้อย่างไร?
โรงคั่วกาแฟ Bottomless และคุณหมู คือใคร?
ลงทุนเกิร์ล จะพาไปทำความรู้จักเองค่ะ
แต่อ่านแล้วระวังนะคะ เรื่องราวของคุณหมูและ Bottomless 
อาจทำให้คุณประทับใจ จนอยากลองไปชิมกาแฟถึงที่..
Bottomless คือ ธุรกิจร้านกาแฟ โรงคั่วกาแฟ รวมถึงจำหน่ายเครื่องชงกาแฟ
นอกจากนี้ Bottomless ยังถือเป็นร้านกาแฟ Specialty คุณภาพอันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึงอีกด้วย
จุดเริ่มต้นของการเปิดร้านกาแฟของคุณหมู ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน 
นั่นก็คือ ความรักในการดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ 
แต่ในช่วงนั้น การหาร้านกาแฟ Specialty ดีๆ สักแห่ง เป็นเรื่องค่อนข้างยาก
และร้านกาแฟที่มีอยู่ทั่วไป ก็ยังไม่ค่อยถูกปากคุณหมูเท่าไรนัก
นอกจากนี้ ในสมัยนั้นการนำเข้าเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ ยังค่อนข้างลำบาก
เรื่องนี้เองทำให้คุณหมูตัดสินใจ ซื้อเครื่องชงกาแฟแรงดันสูง และเครื่องคั่วกาแฟ 
มาเปิดเป็นร้านกาแฟ “โอมากาเซะ” ลับๆ ที่บ้านซะเลย 
โดยความพิเศษของร้านนี้อยู่ที่ “ไม่มีเมนู” แต่จะเสิร์ฟกาแฟในแบบที่คุณหมูรู้สึกว่าดีเท่านั้น
เราอาจคิดว่าทุกอย่างนั้นดูง่ายดาย และราบรื่น
แต่สำหรับเมื่อ 10 ปีก่อน การชงกาแฟในบ้านเอง ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนอย่างในทุกวันนี้
เพราะนอกจากอุปกรณ์จะหาได้ยากแล้ว การเรียนรู้วิธีชงกาแฟก็ยากเช่นกัน 
ถ้าหากเราต้องการสูตรกาแฟสักแก้ว เราก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง 
เพราะไม่มีช่องยูทูบสอนชงกาแฟเป็นสูตรสำเร็จ
ซึ่งการชงกาแฟให้อร่อยว่ายากแล้ว แต่การชงกาแฟทุกแก้วให้มีรสชาติคงที่ นั้นยากยิ่งกว่า
เพราะคุณหมูต้องทดลองอยู่หลายสูตร เททิ้งซ้ำไปซ้ำมา ไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมงต่อวัน
คุณหมูไม่คิดที่จะยอมแพ้เลยสักครั้ง เขากลับฝึกไปเรื่อยๆ ลองผิด ลองถูกมากว่า 10 ปี
จนเขาเริ่มมั่นใจในฝีมือตัวเองมากขึ้น
แต่ปัญหาคือ คนรอบข้างกลับไม่เชื่อในฝีมือเขาเลยสักคน แม้กระทั่งครอบครัวของเขาเอง
จนกระทั่ง เขาได้พบกับลูกค้าคนหนึ่งเป็นจุดเปลี่ยนให้กับชีวิตเขา..
ลูกค้าคนนี้ค่อนข้างมีฐานะที่ดีมาก แต่กลับมากินกาแฟร้านเล็กๆ แห่งนี้ทุกวัน
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาพูดกับคุณพ่อของคุณหมูว่า “คุณหมูเหมือนอยู่บนยอดพีระมิดของวงการกาแฟ มีครบทุกอย่าง ขาดแค่กำลังทรัพย์”
และคำพูดนี้เอง ที่ทำให้พ่อของคุณหมูเปลี่ยนจากการไม่เชื่อใจ เป็นการสนับสนุนคุณหมูอย่างเต็มที่
ซึ่งหลังจากนั้น คุณหมูก็ตัดสินใจเปิดร้านกาแฟอย่างจริงจัง
หลายคนอาจคิดว่า เส้นทางของธุรกิจกาแฟของเขาน่าจะไปได้สวยแล้วแน่ๆ 
แต่ในความเป็นจริง กลับไม่ใช่เลย 
เพราะด้วยคอนเซปต์ร้าน และความมั่นใจของคุณหมู 
ทำให้เขาแทบไม่ได้สนใจความต้องการของลูกค้า ไม่มีเมนูเครื่องดื่มให้ลูกค้าเลือก
แต่เลือกที่จะเสิร์ฟกาแฟตามความต้องการของตัวเอง เลือกที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว โดยที่ไม่ได้สนใจว่าลูกค้าจะอยากได้หรือไม่ ที่สำคัญคือลูกค้าแต่ละคนย่อมมีความชอบที่ต่างกัน
แน่นอนว่าสุดท้ายก็ไปไม่รอด 
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้นคุณหมูก็ยังไม่หยุดความพยายามที่จะทำให้กาแฟ Specialty เป็นที่รู้จักในวงกว้าง 
เขาจึงได้ลงหุ้นกับเพื่อน เปิดร้านขายกาแฟคั่วอ่อน คุณภาพดี ราคาไม่สูงเกินไป 
และเน้นขายให้กับพนักงานออฟฟิศ 
ซึ่งในขณะนั้น กาแฟในลักษณะนี้ ถือเป็นสินค้าที่ค่อนข้างแปลกใหม่มาก
และด้วยความแปลกใหม่ ก็ทำให้ในช่วงแรกๆ ร้านมียอดขายสูงถึง 1,000 แก้วต่อวัน
แต่ไม่นาน ยอดขายก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง
เพราะสไตล์ของกาแฟในร้านนี้ ยังไม่ค่อยถูกปาก และตอบโจทย์ลูกค้าในละแวกนั้น
แม้ว่ามันจะเป็นกาแฟที่มีคุณภาพดี หรือขายในราคาที่ถูกขนาดไหน
แต่เมื่อลูกค้าไม่ซื้อ สุดท้ายร้านก็ต้องปิดตัวลง
หลังจากนั้นคุณหมูก็ยังคงเดินหน้าเปิดร้านกาแฟไปเรื่อยๆ 
เขาเปิดร้านกาแฟ ที่มีชื่อว่า “Minimal Coffee” 
ซึ่งมาพร้อมกับ คอนเซปต์กาแฟ Specialty ในราคาจับต้องได้อีกครั้ง
แต่สุดท้าย ร้านนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย
เพราะคนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟสไตล์นี้ ก็คงยากที่จะเปิดใจลอง
ดังนั้นถึงแม้ว่าร้าน Minimal Coffee จะไม่ได้ปิดตัวลง แต่มันก็ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนอยู่ดี
จากความผิดพลาดทั้งหมดของคุณหมู ก็มีหลายครั้งที่ทำให้เขารู้สึกท้อ 
แต่ด้วยอายุที่ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และสิ่งที่เขาทุ่มเทมากว่า 10 ปี 
ทำให้เขาจึงรู้สึกว่า “เขายอมแพ้ไม่ได้ และต้องลุยต่อ”
ดังนั้นเขาจึงเอาความผิดพลาดเหล่านี้ มาปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอกาแฟของเขา
จากทำกาแฟยากๆ เพื่อโชว์ความสามารถ สู่ การเสิร์ฟกาแฟที่ลูกค้าส่วนใหญ่เข้าใจ
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2562 คุณหมูก็ตัดสินใจเปิดร้านกาแฟแห่งใหม่ที่ชื่อว่า Bottomless 
แล้วคุณหมูได้เปลี่ยนจากความผิดพลาด ให้กลายมาเป็นความสำเร็จได้อย่างไร?
ประเด็นแรก วิเคราะห์ขนาดของตลาด
ถึงแม้ร้าน Bottomless จะเชี่ยวชาญเรื่องกาแฟ Specialty
แต่ลูกค้ากลุ่มใหญ่ในตลาด ยังไม่เข้าใจกาแฟประเภทนี้
คุณหมูจึงเลือกที่จะตอบสนองความต้องการลูกค้ากลุ่มใหญ่ก่อน
โดยปรับกาแฟให้ลูกค้าทานได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องอยู่ในมาตรฐานที่ดี 
รวมทั้งการตั้งราคาให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า
ถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะทำให้ลูกค้าเก่าๆ ของคุณหมูบอกว่า “เสียตัวตน”
เขาก็ยอม เพื่อที่จะให้ลูกค้ากลุ่มใหญ่เข้าใจถึงกาแฟของเขาก่อน 
ประเด็นที่สอง ใส่ใจ “ความต้องการของลูกค้า” มากกว่า “ความต้องการของตัวเอง”
คุณหมูรู้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคไม่สามารถเปลี่ยนได้ในเวลาอันสั้น
เขาจึงเปลี่ยนคอนเซปต์การเสิร์ฟกาแฟของเขาแทน โดยไม่ยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีให้กับลูกค้า 
แต่จะค่อยๆ นำเสนอประสบการณ์กาแฟใหม่ๆ ให้ลูกค้าแทน
อย่างสุดท้าย คือ “ความพยายาม”
บางคนอาจจะคิดว่าการเปิดร้านกาแฟเป็นเรื่องง่าย 
แต่จริงๆ แล้ว การเปิดร้านกาแฟไม่ใช่เรื่องสวยหรู 
สำหรับคุณหมู เขามองว่างานร้านกาแฟ คือ งานที่ต้อง “ใช้แรงงาน” สักส่วนใหญ่
และยังเป็นงานที่มีรายละเอียดเยอะ แถมค่อนข้างจำเจ
ดังนั้นหากต้องการเปิดร้านกาแฟ ต้องมีความอดทน หมั่นฝึกฝน และใส่ใจ
และนี่เอง คือความผิดพลาดทั้งหมด ที่ทำให้คุณหมูประสบความสำเร็จ
ซึ่งถ้าหากเขายอมแพ้ตั้งแต่กลางทาง 
เขาก็อาจจะพลาดเส้นชัยที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ได้
ถ้าอ่านเรื่องราวนี้แล้วประทับใจ อยากไปลองชิมกาแฟของคุณหมู
เชิญแวะไปชิมได้ที่ Bottomless Flagship Store ถนนเลี่ยงเมืองสนามบินน้ำที่จังหวัดนนทบุรี
References
-สัมภาษณ์โดยตรงกับ คุณหมู-นพพล อมรพิชญ์ปรัชญา
-www.bottomlessstore.com
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.