Bora Korean Mart X ลงทุนเกิร์ล

หากพูดถึงร้านขายสินค้าเกาหลีที่กำลังมาแรงในช่วงนี้
หนึ่งในชื่อที่หลายคนน่าจะเคยได้ยิน หรือเคยไปใช้บริการมาบ้างแล้วก็คงจะเป็น Bora Korean Mart

ที่น่าสนใจคือ Bora Korean Mart เพิ่งจะก่อตั้งมาได้เพียง 1 ปี
แต่กลับกลายมาเป็นร้านขายสินค้าเกาหลีที่มีสาขาเยอะที่สุดในเมืองไทย

แล้วเรื่องราวของ Bora Korean Mart น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..

จุดเริ่มต้นของ Bora Korean Mart เกิดขึ้นจาก 3 พี่น้อง ซึ่งก็คือ คุณภัทรพร, คุณอภิชาต และคุณณัฏฐา จิรัญญกุล ซึ่งเดิมทีทำธุรกิจโรงงานผลิต และส่งออกขนมขบเคี้ยว รวมถึงการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในไทย

แต่หลังจากประสบกับวิกฤติโรคระบาด ก็ทำให้ยอดขายในธุรกิจเดิมลดลงทันที
ดังนั้นทั้ง 3 พี่น้องจึงได้เกิดไอเดียในการสร้างธุรกิจใหม่อย่าง Gimbab King (คิมบับคิง) แบรนด์ข้าวห่อสาหร่ายสไตล์เกาหลีขึ้น

โดยแบรนด์ Gimbab King จะใช้โรงงาน และอุปกรณ์ที่มีอยู่เดิมมาต่อยอดในการผลิตสินค้า ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนและเวลาได้ โดยที่ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์

ซึ่งหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน แบรนด์ Gimbab King ก็ได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
ที่สำคัญคือ พวกเขายังพบว่า ลูกค้าชาวไทยที่ชื่นชอบสินค้าเกาหลี เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ และเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย

เรื่องนี้จึงจุดประกายให้กับทั้ง 3 พี่น้องหันมาต่อยอดธุรกิจสู่ ร้านขายสินค้าเกาหลี “Bora Korean Mart” ที่มีสินค้าครอบคลุมตั้งแต่ อาหารแปรรูป, ขนม, เครื่องดื่ม, เครื่องปรุง ไปจนถึงของใช้ต่าง ๆ ที่นำเข้าจากเกาหลีใต้

ส่วนชื่อ “Bora” (โบรา) นั้นมีที่มาจากภาษาเกาหลี ที่แปลว่า “สีม่วง” ซึ่งทางบริษัทมองว่าเป็นสีที่นำโชคของพวกเขานั่นเอง

โดยหลังจากเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่เดือน ก็เริ่มมีเพื่อน ๆ ของผู้ก่อตั้งติดต่อเข้ามาขอนำแบรนด์ Bora Korean Mart ไปเปิดสาขาในทำเลอื่น ๆ
และจากวงคนรู้จักกลุ่มเล็ก ๆ ก็เริ่มขยายเป็นการขายแฟรนไชส์ให้กับคนทั่วไป
โดยมีเงื่อนไขง่าย ๆ ว่า ต้องเป็นคนที่เข้าใจ และชื่นชอบวัฒนธรรมเกาหลี

และในวันนี้ Bora Korean Mart ก็สามารถขยายสาขาไปแล้วกว่า 34 แห่งทั่วไทย และกำลังจะเปิดให้บริการอีก 8 สาขาในเร็ว ๆ นี้

แล้วอะไรคือ เคล็ดลับที่ทำให้ Bora Korean Mart สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ?

สำหรับประเด็นแรก ก็คือ คอนเซปต์ความเป็นเกาหลีที่ชัดเจน
ทำให้ลูกค้าที่จะมาใช้บริการ ก็จะเป็นกลุ่มที่ตั้งใจมาซื้อสินค้าเหล่านี้จริง ๆ

ดังนั้น Bora Korean Mart จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่ม และรวดเร็ว
เพราะไม่ต้องมาเสียเวลาศึกษาว่า ลูกค้าของตัวเองเป็นใคร และเรื่องนี้ก็ยังทำให้ร้านสามารถทำการตลาดให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายของร้านได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ถัดมาที่ประเด็นที่สอง คือ เรื่องของทำเลที่ตั้ง

โดยจำนวนสาขามากกว่าครึ่งหนึ่งของ Bora Korean Mart จะอยู่ในต่างจังหวัด
ซึ่งมักจะเป็นพื้นที่ที่หาซื้อสินค้าเกาหลีได้ค่อนข้างยากกว่ากรุงเทพฯ
นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีให้กับ Bora Korean Mart ที่จะได้เข้ามาทำตลาด ในขณะที่ยังมีผู้เล่นน้อยราย และเข้าถึงผู้บริโภคได้เป็นรายแรก ๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัด

ต่อมาที่ประเด็นที่สาม คือ เรื่องของความเข้าใจในธุรกิจที่กำลังทำ และเข้าใจลูกค้า

โดยทาง Bora Korean Mart จะมีการปรับเปลี่ยนสินค้า ตามเทรนด์ในสังคมอยู่เสมอ
อย่างเช่น ตอนที่ซีรีส์ Vincenzo กำลังเป็นกระแส หนึ่งในสินค้าที่ปรากฏในเรื่องอยู่บ่อย ๆ ก็คือ มักก็อลลี (Makgeolli) หรือ ไวน์ข้าว ซึ่งพวกเขาก็สามารถหาสินค้ามาวางขายได้ทันกระแส และทันใจลูกค้าที่กำลังอินกับซีรีส์อยู่พอดี

ซึ่งเหตุผลที่พวกเขาสามารถนำเข้าสินค้ามาขายได้อย่างรวดเร็ว
นั่นก็เพราะคุณณัฏฐา หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Bora Korean Mart อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้
ทำให้เธอสามารถหาสินค้าที่ตรงกับกระแส และติดต่อกับซัปพลายเออร์ที่เกาหลีใต้ได้อย่างรวดเร็ว

แต่ไม่เพียงเท่านั้น อีกหนึ่งเสน่ห์ของ Bora Korean Mart คือ ความใกล้ชิดกับลูกค้า
หากลูกค้ามีสินค้าที่อยากได้ และที่ร้านไม่มีขาย ก็สามารถลองติดต่อเข้ามาหาทางร้านได้ ถ้าไม่เกินกำลัง ทางร้านก็ยินดีที่จะไปหามาบริการลูกค้า

และสำหรับประเด็นสุดท้าย ก็คือ เรื่องของ House Brands หรือ สินค้าที่เป็นแบรนด์ของตัวเอง

โดยภายในร้าน Bora Korean Mart ทุกสาขาจะมีสินค้า House Brands อย่าง Gimbab King และ Kory Up แบรนด์สินค้าสไตล์เกาหลี ที่ผลิตขึ้นในไทย เพื่อส่งออกไปเกาหลี และยังมีการนำเข้าสินค้าบางตัวจากเกาหลีเข้ามาขายในไทยอีกด้วย

ซึ่งข้อดีของการมี House Brands เป็นของตัวเอง ไม่เพียงแต่จะสร้างความแตกต่างที่ทำให้สินค้าไม่เหมือนร้านอื่น ๆ แต่ยังช่วยให้บริษัทควบคุมคุณภาพสินค้า ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ต้องการได้ง่ายขึ้นด้วย

เรื่องราวของ Bora Korean Mart ถือเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจ

เพราะแม้ว่าธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ อาจต้องพบเจอปัญหาบ้าง แต่ถ้าเราลองปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจสักเล็กน้อย และนำทรัพยากรที่มีอยู่เดิมมาต่อยอด

ก็อาจจะกลายมาเป็นธุรกิจใหม่ ที่สร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วได้ไม่รู้ตัวเหมือนกับ Bora Korean Mart ก็เป็นได้..

สำหรับใครที่สนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.facebook.com/borakoreanmart