Jinx สตาร์ตอัปอาหารน้องหมา Direct-to-Dog ที่ Chris Evans ร่วมลงทุน
Business

Jinx สตาร์ตอัปอาหารน้องหมา Direct-to-Dog ที่ Chris Evans ร่วมลงทุน

31 ธ.ค. 2021
Jinx สตาร์ตอัปอาหารน้องหมา Direct-to-Dog ที่ Chris Evans ร่วมลงทุน /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าให้พูดถึงนักแสดงฮอลลีวูดที่เป็นทาสน้องหมาเต็มตัว หนึ่งในนั้นคงต้องมีรายชื่อคุณ Chris Evans ที่แฟนภาพยนตร์ทั่วโลกจดจำเขาได้ในบทบาท “กัปตันอเมริกา” แห่งจักรวาลมาร์เวล อย่างแน่นอน
สำหรับใครที่ติดตามเขาในโซเชียลมีเดีย ก็น่าจะได้เห็นว่าเขามักจะโพสต์ภาพและวิดีโอ เจ้าดอดเจอร์ (Dodger) สุนัขสุดรักของเขาอยู่เป็นประจำ
ซึ่งล่าสุด คุณ Chris Evans ก็ได้มีบทบาทใหม่ ในวงการธุรกิจเกี่ยวกับเพื่อนสี่ขาของเขาอย่าง การร่วมลงทุนในแบรนด์อาหารสุนัขที่มีชื่อว่า “Jinx”
ที่น่าสนใจคือ Jinx ยังกล่าวว่าเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ที่ทำการตลาดแบบ Direct-to-Dog หรือทำการตลาดโดยตรงกับสุนัขในฐานะผู้บริโภคอีกด้วย
แล้ว Jinx ต่างจากแบรนด์อาหารสุนัขทั่วไปอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Jinx เป็นแบรนด์อาหารสุนัขเพื่อสุขภาพระดับพรีเมียม เปิดตัวในปี 2020
นำเสนอผลิตภัณฑ์ตั้งแต่อาหารเม็ด, ขนมสุนัข, อาหารแช่แข็ง ไปจนถึงของเคี้ยวทางทันตกรรม
ก่อตั้งโดยคุณ Terri Rockovich, คุณ Sameer Mehta และคุณ Michael Kim อดีตผู้บริหารทั้งสามคนของ Casper ธุรกิจที่เขย่าวงการอุตสาหกรรมที่นอนในปี 2014 สร้างยอดขายหลักหมื่นล้านบาท ด้วยการขายที่นอนทางออนไลน์ บรรจุกล่องขนาดเล็กจัดส่งให้ลูกค้า
ซึ่งทั้งสามคนตั้งเป้าหมายที่จะเขย่าตลาดอาหารสุนัขมูลค่า 2.5 ล้านล้านบาท เหมือนกับที่ Casper เคยได้ทำไว้กับอุตสาหกรรมที่นอน
ที่น่าสนใจคือ Jinx ไม่ใช่แค่นำอาหารสุนัขธรรมดา มาขายในรูปแบบพรีเมียมเท่านั้น
แต่ทีมผู้ก่อตั้งได้ตั้งข้อสังเกตว่าประมาณ 56% ของสุนัขในสหรัฐอเมริกา มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน รวมถึงสุนัขหลาย ๆ ตัว ยังงีบหลับเกือบทั้งวันในอะพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ ที่พวกมันอยู่อาศัย
อีกทั้ง ตัวเลือกอาหารสุนัขระดับพรีเมียมส่วนใหญ่นั้นให้โปรตีนมากเกินไป หากสุนัขไม่ได้เผาผลาญก็จะกักเก็บเป็นไขมัน จนอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย
จากปัญหานี้เอง Jinx จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับ “สุนัขสมัยใหม่” ที่เคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย และไม่ต้องการโปรตีนมากเกินไปในชามอาหารของพวกมัน
นอกจากนี้ พวกเขายังเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจจากเจ้าของสัตว์เลี้ยง “กลุ่มวัยมิลเลนเนียล” ที่มีกำลังซื้อสูง และใช้จ่ายเงินเพื่อซื้ออาหารสัตว์เลี้ยงมากกว่าคนรุ่นอื่น ๆ
ประกอบกับเทรนด์ Pet Parent หรือการเลี้ยงสัตว์เสมือนสมาชิกคนสำคัญในครอบครัว ที่เจ้าของพร้อมควักกระเป๋าจ่ายเงินซื้อสิ่งที่ดีมีคุณภาพให้กับสัตว์เลี้ยง
Jinx จึงพยายามตอบสนองความต้องการ ด้วยสิ่งที่ชาวมิลเลนเนียลให้ความสำคัญมากที่สุด ดังนี้
“ผลิตจากส่วนผสมที่มีประโยชน์” อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับโภชนาการสุนัข เช่น เนื้อไก่ออร์แกนิกและซูเปอร์ฟูดจากธรรมชาติ 20 ชนิด เพื่อคุณประโยชน์ด้านสุขภาพหัวใจและลำไส้ รวมถึงเรื่องผิวหนังและขน
“ความโปร่งใสในการผลิต” จัดทำขึ้นโดยนักโภชนาการสัตว์และรับรองโดยสัตวแพทย์ ซึ่งจะได้รับการตรวจสอบคุณภาพอย่างถี่ถ้วนผ่านห้องปฏิบัติการ และเผยแพร่คะแนนการประเมินคุณค่าทางโภชนาการเพื่อความโปร่งใส
“ประสบการณ์ดิจิทัลที่ไร้รอยต่อ” เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์ได้สะดวกสบาย เพียงปลายนิ้วสัมผัส มอบจุดเชื่อมต่อให้กับลูกค้าอย่างครอบคลุม เช่น การสั่งซื้อ, การสมัครรับข้อมูล หรือการติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้า
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ ผู้ก่อตั้งได้นิยามว่า Jinx เป็นแบรนด์ที่ทำการตลาดแบบ D2D หรือ Direct-to-Dog
โดยวางแผนให้ลูกค้าที่เป็น “สุนัข” ได้มีส่วนร่วมโดยตรงกับแบรนด์อาหารสุนัข Jinx
อย่างไรก็ตาม ยังมีความย้อนแย้งที่ว่าลูกค้า 4 ขานี้ ไม่ได้มีต่อมรับรสที่เฉียบแหลม
ดังนั้น แบรนด์จึงโฟกัสไปที่ข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ตั้งแต่ความสามารถในการดมกลิ่น ไปจนถึงไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบ เช่น การออกไปเดินเล่น การงีบหลับยาว
เพื่อพิจารณาในฐานะผู้บริโภคที่แท้จริง จัดหาอาหารที่สมดุลสำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์ อายุ และขนาด
สำหรับช่องทางการขาย Jinx เปิดให้บริการบนอีคอมเมิร์ซของร้านค้าปลีกรายใหญ่ เช่น Petco, Target และ Bloomingdale’s
รวมถึงช่องทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของแบรนด์โดยตรง ที่มีข้อเสนอสำหรับผู้บริโภคที่สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารผลิตภัณฑ์ จะได้รับส่วนลด 25% สำหรับการสั่งซื้อในครั้งแรก และ 10% สำหรับคำสั่งซื้อครั้งต่อ ๆ ไป
และหลังจากเปิดตัวครั้งแรกในเดือนมกราคม ปี 2020 ไม่นาน
Jinx ก็ได้รับผลประโยชน์ครั้งใหญ่จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในช่วงล็อกดาวน์
เนื่องจากความอ้างว้างขณะที่ต้องกักตัว ทำให้ความต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้ชัดจากรายงานของสถานพักพิงสัตว์หลายแห่ง ต่างเปิดเผยว่ามีการรับเลี้ยงสัตว์เพิ่มเป็นประวัติการณ์
เช่น กรมบริการสัตว์แห่งลอสแอนเจลิส รายงานตัวเลขการอุปถัมภ์สัตว์เลี้ยง มากถึง 2,232 ตัว ภายในเดือนมีนาคม ปี 2020 เพียงเดือนเดียว
แน่นอนว่า มูลค่าการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยงย่อมเพิ่มขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมของคนที่หันมาซื้อของทางออนไลน์อีกด้วย
แม้ว่า Jinx จะปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายได้ประจำปี
แต่คุณ Terri Rockovich ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวว่า ในปี 2020 บริษัทมีการเติบโตเฉลี่ยต่อเดือนที่ 33%
โดยยอดขาย เฉพาะช่องทางเว็บไซต์ของแบรนด์ เติบโตขึ้น 40-100% ในแต่ละเดือนตั้งแต่เปิดตัว ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัท ก็มาจากลูกค้าที่กลับมาซื้อซ้ำ
ซึ่งล่าสุด Jinx ก็ได้ประกาศว่าการระดมทุนในรอบ Series A เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 ที่ผ่านมา สามารถระดมทุนได้ราว 933 ล้านบาท โดยมีคุณ Chris Evans นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง เข้ามาเป็นผู้ร่วมให้เงินทุนอีกด้วย
และนอกจากนักแสดงหนุ่มแล้ว บริษัทยังได้รับเงินจากคุณ Trevor Noah นักแสดงตลกและพิธีกรทอล์กโชว์, คุณ Odell Beckham Jr. นักอเมริกันฟุตบอล NFL และคุณ Michael Ovitz ผู้ร่วมก่อตั้ง Creative Artists Agency เช่นกัน
โดยการระดมทุนในรอบนี้ ก็มีจุดประสงค์เพื่อที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ขยายขอบเขตการจำหน่าย ไปจนถึงเปิดตัวในร้านค้าปลีกรายใหญ่ที่มีหน้าร้านทั่วสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ต้นปี 2022
ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่การระดมทุนครั้งแรกของ Jinx เพราะในเดือนพฤศจิกายน ปี 2019 บริษัทระดมทุนได้มากถึง 188 ล้านบาท สำหรับเตรียมความพร้อมก่อนเปิดตัวธุรกิจ จากนักลงทุนมากมายที่มีความสนใจในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ Jinx ยังได้เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ต่าง ๆ เช่น
Postmates บริษัทที่ให้บริการขนส่งออนดีมานด์ เพื่อจัดส่งสินค้าของ Jinx ภายในวันเดียวSpotlight Oral Care แบรนด์ผลิตภัณฑ์สุขภาพช่องปาก สร้างผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อสุขภาพฟันสุนัขโดยเฉพาะBarry's Bootcamp สตูดิโอฟิตเนสชื่อดัง ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด โดยแถมผ้าพันคอสุนัขและข้อเสนอการออกกำลังกายที่บ้าน
ล่าสุด ยังได้ร่วมมือกับ Angler ร้านอาหารมิชลินในลอสแอนเจลิสและซานฟรานซิสโก สร้างเมนูสำหรับสุนัขที่มากับเจ้าของ อย่างบิสกิตแซลมอนหรือบิสกิตไก่ ราดด้วยคาเวียร์และปรุงจากส่วนผสมที่เป็นมิตรกับสุนัข
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็ได้สร้างชื่อเสียงให้ Jinx กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ “แบรนด์ไลฟ์สไตล์สำหรับสุนัขและเจ้าของยุคใหม่” และถือเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นหน้าใหม่ ที่น่าสนใจสำหรับเหล่า Pet Parent เลยทีเดียว..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.