ความท้าทายของ TikTok ในมือ CEO ชาวอเมริกัน /โดย ลงทุนเกิร์ล

รู้หรือไม่ว่า TikTok แอปพลิเคชันที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้
อยู่ภายใต้ ByteDance สตาร์ตอัปจากจีน ที่มีมูลค่ามากสุดในโลก
โดยปัจจุบัน ByteDance ถูกประเมินมูลค่าสูงถึง 3.2 ล้านล้านบาท
มีมูลค่ามากกว่า Twitter เกือบ 4 เท่า

ซึ่งนอกจาก TikTok แล้ว ByteDance ยังเป็นเจ้าของแอปอื่นๆ อีกหลายอย่างด้วย
เช่น Toutiao, Xigua Video, Helo และ Vigo Video

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ TikTok ได้ออกมาประกาศชื่อ CEO คนใหม่
ซึ่งก็คือ คุณ Kevin Mayer และเขาจะเข้ามารับตำแหน่ง
“กรรมการผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการ” ของ ByteDance อีกด้วย

โดยเขาจะมีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของ TikTok ทั่วโลกทั้งหมด

ที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้าที่คุณ Kevin Mayer จะมาร่วมงานกับ ByteDance
เขาเป็นหนึ่งในผู้บริหารคนสำคัญของ Disney

โดยเฉพาะในการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการต่างๆ ของ Disney
อย่างเช่น Pixar, Marvel, Lucasfilm และ BAMTech
คุณ Kevin Mayer ก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญ ในการทำให้ดีลเหล่านี้ประสบความสำเร็จ

และเขายังเป็นผู้นำในการพัฒนา Disney+ บริการสตรีมมิงของ Disney
ซึ่งปัจจุบัน มีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ทั้งๆ เพิ่งที่เปิดตัวไปไม่ถึง 7 เดือน

ที่สำคัญคือ คุณ Kevin Mayer ยังเคยเป็นหนึ่งในตัวเก็ง
ที่มีโอกาสจะได้ขึ้นไปนั่งในตำแหน่งสูงสุดของการบริหาร Disney ด้วย

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจกำลังคิดว่า
อนาคตของแอป TikTok ภายใต้การบริหารของคุณ Kevin Mayer
จะต้องสดใสอย่างแน่นอน เพราะได้ผู้บริหารคนเก่งจาก Disney มาบริหาร

แต่ว่าในความเป็นจริง TikTok ก็ยังคงมีความท้าทายหลายอย่างรออยู่..

โดยเฉพาะเรื่อง “การเซนเซอร์เนื้อหา” บนแพลตฟอร์ม TikTok ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่น่ากังวล

ที่ผ่านมา TikTok ถูกมองว่า วางตัวแบบไม่เป็นกลางทางการเมือง
เพราะเคยเซนเซอร์และแบนบัญชีของผู้หญิงชาวอเมริกัน
ที่ออกมาพูดเรื่องการกักกันชาวอุยกูร์ในประเทศจีนมาแล้ว

เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากเป็นการจำกัดสิทธิ์ แม้กระทั่งคนที่ไม่ได้อยู่ที่ประเทศจีน

จนภายหลัง TikTok ต้องออกมาขอโทษ
และชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนี้ ว่าไม่ได้แบนเพราะการวิพากษ์วิจารณ์จีน
แต่เป็นวิดีโอก่อนหน้าของผู้ใช้นั้นได้มีการพูดเสียดสีถึงกลุ่มก่อการร้าย
ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎของ TikTok

ดังนั้น หลายคนจึงคาดว่าในอนาคต คุณ Kevin Mayer ก็อาจจะมีปัญหากับรัฐบาลจีน
ในเรื่องการเซ็นเซอร์และการควบคุมข้อมูลผู้ใช้ผ่าน TikTok
เพราะว่าคุณ Kevin Mayer เป็นชาวอเมริกัน เติบโตมาในประเทศเสรี
และอาจจะไม่เห็นด้วยกับการเซนเซอร์เนื้อหาตามรัฐบาลจีน

ในขณะเดียวกัน คุณ Kevin Mayer ยังต้องแก้ปัญหาที่ค้างคากับฝั่งรัฐบาลสหรัฐฯ ด้วย

เนื่องจากมีหลายหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ
ที่กังวลว่า TikTok อาจเข้ามาขโมยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้
จนถึงกับสั่งห้ามไม่ให้พนักงานดาวน์โหลดหรือใช้แอป TikTok

นอกจากนั้น แรงต่อต้าน TikTok ก็ดูยิ่งจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อวุฒิสมาชิก Josh Hawley ได้เสนอให้มีการร่างกฎหมาย
ห้ามไม่ให้พนักงานของรัฐบาลกลางใช้แอปนี้อีกด้วย

ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นปัญหาที่ขัดกันจาก 2 ด้าน
โดยมีตัวกลางเป็นคุณ Kevin Mayer ซึ่งต้องสร้างสมดุลให้กับ 2 ฝ่าย

อย่างไรก็ตาม ภายใต้การบริหารของคุณ Kevin Mayer
ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้ภาพลักษณ์ของ TikTok ดูโปร่งใสและน่าเชื่อถือขึ้น

ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาเรื่องความปลอดภัยด้านข้อมูล
และการเซนเซอร์เนื้อหาบนแพลตฟอร์ม Disney+

ซึ่งก็ไม่แน่ว่าความท้าทายเหล่านี้ จะกลายเป็นโอกาส
ให้คุณ Kevin Mayer ได้แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่

และในอนาคตโทรศัพท์มือถือของเราทุกคน
อาจจะต้องมีแอป TikTok ติดเครื่องเหมือนกับ Facebook ก็เป็นได้..

References:
-https://www.businessinsider.com/tiktok-ceo-kevin-mayer-disney-streaming-executive-los-angeles-bytedance-2020-5
-https://www.nytimes.com/2020/05/18/business/media/tiktok-ceo-kevin-mayer.html
-https://www.theverge.com/2020/5/18/21262872/disney-plus-streaming-kevin-mayer-tiktok-ceo-bytedance-coo
-https://www-cnbc-com.cdn.ampproject.org/c/s/www.cnbc.com/amp/2020/05/18/tiktok-nabs-disneys-streaming-boss-to-be-its-new-ceo.html
-https://technode.com/2020/03/31/bytedance-may-now-be-worth-100-billion/
-https://www.businessinsider.com/tiktok-apology-china-muslims-viral-video-feroza-aziz-suspend-politics-2019-11
-https://www.bytedance.com/en/products