Business
ทำไม แบรนด์หรูถึงมักออกคอลเลกชัน ที่ร่วมมือกับตัวการ์ตูน
13 มี.ค. 2022
ทำไม แบรนด์หรูถึงมักออกคอลเลกชัน ที่ร่วมมือกับตัวการ์ตูน /โดย ลงทุนเกิร์ล
หากพูดถึงคำว่า “ตัวการ์ตูน” ทุกคนจะนึกถึงตัวอะไรกันคะ ?
ถ้าเป็นการ์ตูนฝรั่งบางคนอาจนึกถึง พาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์, มิกกี้ เมาส์, บักส์ บันนี หรือซูเปอร์แมน
ส่วนด้านการ์ตูนจากญี่ปุ่น ก็อาจนึกถึงโดราเอมอน, โปเกมอน, เซเลอร์มูน หรือโคนัน
ถ้าเป็นการ์ตูนฝรั่งบางคนอาจนึกถึง พาวเวอร์พัฟฟ์เกิลส์, มิกกี้ เมาส์, บักส์ บันนี หรือซูเปอร์แมน
ส่วนด้านการ์ตูนจากญี่ปุ่น ก็อาจนึกถึงโดราเอมอน, โปเกมอน, เซเลอร์มูน หรือโคนัน
ซึ่งส่วนใหญ่ เราน่าจะนึกถึงการ์ตูน ที่อยู่ในดวงใจตอนวัยเด็กกัน
ในขณะเดียวกัน ช่วงหลัง ๆ มานี้ เราก็เริ่มเห็นแบรนด์หรู ที่หันมาร่วมมือกับตัวละครในตำนานเหล่านี้ ออกเป็นคอลเลกชันพิเศษเฉพาะกิจ หรือคอลเลกชันฉลองครบรอบโอกาสพิเศษ
ทั้ง ๆ ที่ภาพลักษณ์ทั้งสองอย่างนี้ ดูแตกต่างกันคนละขั้ว
โดยฝั่งหนึ่ง เน้นความหรูหรา สร้างความรู้สึกพิเศษให้ผู้ใช้
แต่อีกฝั่งกลับใช้ความเป็นมิตร เพื่อเข้าถึงคนในวงกว้าง
โดยฝั่งหนึ่ง เน้นความหรูหรา สร้างความรู้สึกพิเศษให้ผู้ใช้
แต่อีกฝั่งกลับใช้ความเป็นมิตร เพื่อเข้าถึงคนในวงกว้าง
แล้วทำไมทั้งสองสิ่งนี้ ถึงเลือกมาจับมือกันได้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
จริง ๆ แล้ว กลยุทธ์ Brand Collaboration หรือ Co-Brand ไม่ใช่เรื่องใหม่ และยังนับเป็นหนึ่งในเครื่องมือการตลาดที่เป็นที่นิยม
เพราะการร่วมมือกับแบรนด์อื่น นอกจากจะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าแล้ว
ยังเป็นการเปิดเส้นทางสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่อาจไม่เคยสนใจตัวแบรนด์มาก่อนด้วย
ยังเป็นการเปิดเส้นทางสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่อาจไม่เคยสนใจตัวแบรนด์มาก่อนด้วย
แต่ไม่ใช่ว่าแบรนด์จะสามารถร่วมมือกับใครก็ได้ เนื่องจากควรเป็นแบรนด์ที่มีจุดยืนไม่ต่างกันเกินไป
หรือก็คือ เป็นแบรนด์ที่จะช่วยส่งเสริมให้การร่วมมือเป็นแบบ Win-Win ทั้งสองฝ่าย
โดยที่ผ่านมา เราก็ได้เห็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์หรูมาบ้างแล้ว อย่าง Gucci x Balenciaga
หรือการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์หรูกับแบรนด์สตรีต อย่าง Louis Vuitton x Supreme
หรือการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์หรูกับแบรนด์สตรีต อย่าง Louis Vuitton x Supreme
ซึ่งทั้งสองกรณี แต่ละแบรนด์ก็สามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ของกันและกัน ได้เป็นอย่างดี
และที่สำคัญคือ ยังสามารถเรียกกระแสฮือฮาได้จากกลุ่มแฟนคลับด้วย
และที่สำคัญคือ ยังสามารถเรียกกระแสฮือฮาได้จากกลุ่มแฟนคลับด้วย
อย่างไรก็ตามพอเป็นการร่วมมือกันระหว่างแบรนด์แฟชั่นกับการ์ตูน โดยเฉพาะแบรนด์หรู
ไม่ว่าจะเป็น Gucci x มิกกี้ เมาส์,
Loewe x My Neighbor Totoro
หรือ Longchamp x โปเกมอน
Loewe x My Neighbor Totoro
หรือ Longchamp x โปเกมอน
ทำไมแบรนด์เหล่านี้ ถึงเลือกร่วมมือกับตัวการ์ตูน แทนที่จะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การร่วมมือกันระหว่างแบรนด์ จะช่วยเปิดเส้นทางสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ได้
ดังนั้น การร่วมมือกับตัวละครจากการ์ตูนเรื่องต่าง ๆ ก็จะทำให้แบรนด์แฟชั่นได้กลุ่มลูกค้า ที่เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนั้น ๆ มาได้ แบบ Uniqlo ที่มักจะออกเสื้อผ้าร่วมกับตัวละครต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง
แต่พอเป็นแบรนด์ที่มีระดับราคาสูงขึ้น การร่วมมือกับตัวละครต่าง ๆ อาจไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าไปสู่แฟนการ์ตูนอย่างเดียวเสมอไป
เพราะสิ่งที่แตกต่างคือ แบรนด์หรูไม่ได้ทำแบบนี้บ่อย ๆ
สำหรับเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ด้านการตลาดแบรนด์หรู คุณ Thomai Serdari จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก
ได้ให้มุมมองเอาไว้ว่า
ได้ให้มุมมองเอาไว้ว่า
การที่แบรนด์หรูออกคอลเลกชันร่วมกับแครักเตอร์การ์ตูน เป็นเหมือนการ “ทดลองสินค้า”
โดยที่แบรนด์ไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว เพราะเป็นเพียงคอลเลกชันพิเศษ หรือจำหน่ายในปริมาณจำกัดเท่านั้น
โดยที่แบรนด์ไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว เพราะเป็นเพียงคอลเลกชันพิเศษ หรือจำหน่ายในปริมาณจำกัดเท่านั้น
แต่เรื่องนี้กลับช่วยเพิ่มโอกาสตีตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคน Gen Z
เนื่องจากความสนใจของกลุ่มคนรุ่นใหม่นั้น ค่อนข้างกระจัดกระจาย และไม่ยึดติดกับกรอบเดิม ๆ แบรนด์จึงพยายามที่จะหาช่องทางเพื่อเข้าไปอยู่ในสายตาของคนเหล่านี้
และหนึ่งในช่องทางนั้น ก็คือ การใช้ตัวละครจากการ์ตูน ซึ่งสัมพันธ์กับประสบการณ์ในอดีตของเด็กทุกคน
นอกจากนั้นยังมีประเด็นเรื่องการสร้างความโดดเด่นจากแบรนด์หรูอื่น เพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดที่กำลังเติบโตมาอยู่ในมือ
อย่างตลาดของประเทศจีน ข้อมูลจาก Bain & Company บริษัทที่ปรึกษาระดับโลกได้คาดการณ์ว่า
ภายในปี 2025 หรืออีก 3 ปีจากนี้ ยอดขายแบรนด์หรูทั่วโลกเกือบ 50% จะมาจากชาวจีน
ภายในปี 2025 หรืออีก 3 ปีจากนี้ ยอดขายแบรนด์หรูทั่วโลกเกือบ 50% จะมาจากชาวจีน
ซึ่งในปี 2019 ที่ผ่านมา ยอดขายแบรนด์หรูทั่วโลก 1 ใน 3 ก็มาจากชาวจีนแล้ว
ดังนั้น แบรนด์หรูต่าง ๆ จึงมีการหาหนทางใหม่ ๆ เพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่ในจีนโดยเฉพาะ
เช่น กรณีการร่วมมือของ Loewe x My Neighbor Totoro ซึ่งถือว่าเรียกเสียงฮือฮาให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
โดยข้อมูลจาก China Daily แอนิเมชันญี่ปุ่นเรื่อง “Spirited Away” ถือเป็นผลงานชิ้นเอก ในสายตาของชาวจีน รวมถึงผลงานอื่น ๆ ของ Studio Ghibli ก็ตราตรึงใจพวกเขาไม่แพ้กัน
เรื่องนี้จึงทำให้ Loewe ได้ใจแฟน ๆ ที่ยังชื่นชอบความน่ารัก และรู้สึกคิดถึงแอนิเมชันที่ตัวเองเคยดูไปไม่น้อย
ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่ว่าแบรนด์หรู จะสามารถเลือกไปจับมือกับตัวการ์ตูนไหนก็ได้ เพราะก็ต้องเลือกแครักเตอร์ที่จะส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วย
อย่างในกรณีของ Loewe กับ Studio Ghibli ก็เป็นเช่นนั้น
อย่างแรกคือ ภาพลักษณ์ของ Loewe และ Studio Ghibli ขึ้นชื่อในด้าน “งานฝีมือ” เหมือนกัน
โดย Loewe ถือเป็นแบรนด์เครื่องหนัง ที่โด่งดังด้านงานฝีมือเครื่องหนัง
ส่วน Studio Ghibli ก็โด่งดังด้านงานภาพแอนิเมชันที่ต้องใช้ฝีมือและความใส่ใจในรายละเอียด
ส่วน Studio Ghibli ก็โด่งดังด้านงานภาพแอนิเมชันที่ต้องใช้ฝีมือและความใส่ใจในรายละเอียด
เมื่อทั้งสองมาร่วมมือกัน ผลลัพธ์ที่ออกมาจึงไม่ได้ขัดแย้งกันจนรู้สึกว่า มันเข้ากันไม่ได้
และอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าคิด ก็คือ
แม้ Loewe จะเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่มีอายุถึง 176 ปี แต่ปัจจุบันแบรนด์ก็เป็นส่วนหนึ่งของเครือ LVMH บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งน่าจะต้องรักษาผลประกอบการ ให้เป็นไปตามความคาดหวังของผู้ถือหุ้นอยู่เสมอ
แบรนด์จึงเหมือนมีแรงกดดันในการทำการค้า และต้องหาเส้นทางใหม่ ๆ อยู่เสมอ
สอดคล้องกับ Gucci ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเครือ Kering บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เช่นเดียวกัน ก็เคยออกคอลเลกชันร่วมกับโดราเอมอน, โดนัลด์ ดั๊ก รวมถึง มิกกี้ เมาส์ มาแล้ว
ต่างจาก Chanel หรือ Hermès ที่แม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่เหมือนกัน
แต่ Chanel ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ส่วน Hermès ถึงจะเป็นบริษัทมหาชน แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังเป็นการถือครองโดยทายาทของผู้ก่อตั้งอยู่
แต่ Chanel ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ส่วน Hermès ถึงจะเป็นบริษัทมหาชน แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ยังเป็นการถือครองโดยทายาทของผู้ก่อตั้งอยู่
ดังนั้นแบรนด์เหล่านี้ จึงอาจมีมุมมองว่า ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ในการปรับตัว และเลือกที่จะรักษาความคลาสสิกหรูหราแบบดั้งเดิมเอาไว้มากกว่า
อ่านมาถึงตรงนี้ สิ่งที่เรื่องนี้กำลังบอกเรา ก็คงจะเป็น “ไม่มีความสำเร็จใดที่ยั่งยืน”
อย่างแบรนด์หรูเก่าแก่ ที่อยู่มาได้นับร้อยปี ก็เป็นเพราะมีการปรับตัวอยู่เสมอ
ซึ่งการปรับตัวที่ว่านี้ ก็ไม่จำเป็นว่าจะมีวิธีที่ถูกต้อง เพียงคำตอบเดียว
ซึ่งการปรับตัวที่ว่านี้ ก็ไม่จำเป็นว่าจะมีวิธีที่ถูกต้อง เพียงคำตอบเดียว
เพราะบางแบรนด์ ก็อาจเลือกปรับภาพลักษณ์ให้เข้าถึงง่ายขึ้น เพื่อจับกลุ่มคนรุ่นใหม่
ในขณะที่บางแบรนด์อาจจะเลือกหยิบความดั้งเดิมในอดีต มาใช้ดึงดูดลูกค้า
ในขณะที่บางแบรนด์อาจจะเลือกหยิบความดั้งเดิมในอดีต มาใช้ดึงดูดลูกค้า
เรียกได้ว่า “ความสำเร็จ” คงเป็นสิ่งที่ไม่มีสูตรตายตัว
และสุดท้าย คนที่จะตัดสินว่าอะไรเหมาะกับแบรนด์ ก็คือ “ลูกค้า” นั่นเอง..
และสุดท้าย คนที่จะตัดสินว่าอะไรเหมาะกับแบรนด์ ก็คือ “ลูกค้า” นั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ
นอกจากการร่วมมือกับการ์ตูนแล้ว ก็มีบางแบรนด์เลือกที่จะสร้างตัวการ์ตูนของตัวเองขึ้นมาแทนด้วย
เช่น Louis Vuitton ในคอลเลกชัน The Adventures Of Zoooom With Friends ที่ออกแบบโดยคุณ Virgil Abloh อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบเครื่องแต่งกายผู้ชายของแบรนด์ และผู้ก่อตั้งแบรนด์ Off-White
References:
-https://www.tatlerasia.com/style/fashion/3-luxury-fashion-brands-louis-vuitton-gucci-lesportsac-cartoon-characters
-https://www.marketplace.org/2022/01/19/why-high-fashion-brands-are-releasing-anime-collaborations/
-https://www.the-outlet.com/posts/luxury-fashion-cartoon-collaborations
-https://www.elle.com/fashion/a35155900/loewe-x-my-neighbor-tortoro-studio-ghibli/
-https://www.vice.com/en/article/evqaqj/chinas-answer-to-studio-ghibli-is-a-stunning-modern-fairy-tale
-https://www.cnbc.com/2020/11/18/china-to-become-the-worlds-biggest-luxury-market-by-2025-bain-says.html
-https://www.tatlerasia.com/style/fashion/3-luxury-fashion-brands-louis-vuitton-gucci-lesportsac-cartoon-characters
-https://www.marketplace.org/2022/01/19/why-high-fashion-brands-are-releasing-anime-collaborations/
-https://www.the-outlet.com/posts/luxury-fashion-cartoon-collaborations
-https://www.elle.com/fashion/a35155900/loewe-x-my-neighbor-tortoro-studio-ghibli/
-https://www.vice.com/en/article/evqaqj/chinas-answer-to-studio-ghibli-is-a-stunning-modern-fairy-tale
-https://www.cnbc.com/2020/11/18/china-to-become-the-worlds-biggest-luxury-market-by-2025-bain-says.html