
Business
รู้จัก “Tagwalk” ที่เรียกตัวเองว่า Google แห่งโลกแฟชั่น
9 มิ.ย. 2022
รู้จัก “Tagwalk” ที่เรียกตัวเองว่า Google แห่งโลกแฟชั่น /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าพูดถึง Search Engine อันดับ 1 ของโลก ทุกคนก็น่าจะนึกถึง Google
ที่ไม่ว่าเราจะสงสัยอะไร ก็สามารถถามอากู๋ได้ทุกอย่าง และใช้เวลาเพียง 0.19 วินาที
ก็มีผลการค้นหากว่า 1 ล้านเว็บไซต์ให้ได้เจอ
ที่ไม่ว่าเราจะสงสัยอะไร ก็สามารถถามอากู๋ได้ทุกอย่าง และใช้เวลาเพียง 0.19 วินาที
ก็มีผลการค้นหากว่า 1 ล้านเว็บไซต์ให้ได้เจอ
ถึงอย่างนั้น การมีผลการค้นหามากมาย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไป
โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องค้นหาในหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงมาก ๆ เช่น “เสื้อผ้า”
โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องค้นหาในหัวข้อที่เฉพาะเจาะจงมาก ๆ เช่น “เสื้อผ้า”
เรื่องนี้ทำให้คุณ Alexandra Van Houtte ก่อตั้ง Search Engine เป็นของตัวเองชื่อ Tagwalk และเรียกตัวเองว่าเป็น Google แห่งวงการแฟชั่น
แล้ว Tagwalk น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณ Alexandra Van Houtte เรียนจบปริญญาโท ด้าน Fashion Media Styling ที่ London College of Fashion ซึ่งหลังเรียนจบ เธอก็ได้ทำงานอยู่ในวงการแฟชั่น
ทั้งการเป็นดีไซเนอร์ให้กับนิตยสาร Grazia และ Numéro รวมถึงเป็นผู้ช่วยนักออกแบบที่ Lanvin
ด้วยลักษณะงานของเธอ ทำให้เธอต้องค้นหาไอเดียเสื้อผ้าเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน
เพื่อนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าต่อไป
เพื่อนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าต่อไป
ที่สำคัญคือ วงการแฟชั่น ถือว่าเป็นวงการที่มีเทรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ทำให้ในโลกอินเทอร์เน็ต มีงานดีไซน์เป็นจำนวนมาก จนยากต่อการค้นหาสิ่งที่ต้องการ
ทำให้ในโลกอินเทอร์เน็ต มีงานดีไซน์เป็นจำนวนมาก จนยากต่อการค้นหาสิ่งที่ต้องการ
และต่อให้มีแพลตฟอร์มในการค้นหาไอเดียต่าง ๆ อย่าง Instagram, Pinterest หรือ Google แต่การที่มีข้อมูลเยอะเกินไป ทำให้การค้นหาในแต่ละครั้ง ไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร
พอเรื่องเป็นแบบนี้ คุณ Alexandra Van Houtte จึงคิดหาทางออกให้ตัวเอง
และก่อตั้ง Tagwalk ขึ้นในปี 2016
และก่อตั้ง Tagwalk ขึ้นในปี 2016
แล้ว Tagwalk ต่างจากการค้นหาใน Google อย่างไร ?
ในเว็บไซต์ Tagwalk จะมีฟิลเตอร์สำหรับช่วยค้นหา โดยสามารถเลือกได้ทั้งประเภทของชุด คอลเลกชัน สถานที่ และแบรนด์ รวมถึงสามารถใส่คีย์เวิร์ดอื่น ๆ ที่เราต้องการค้นหาเพิ่มเติมได้ โดยคำแต่ละคำ จะขึ้นมาในลักษณะคล้ายกับการใส่ Hashtag
เช่น ถ้าหากเราจะค้นหา “มินิเดรสสีดำ” ใน Tagwalk ก็จะเป็นการเซิร์ชคำว่า “มินิเดรส” และ “สีดำ”
โดยผลการค้นหา จะเลือกรูปที่มีความใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดทั้ง 2 คำที่เราค้นหาขึ้นมา
โดยผลการค้นหา จะเลือกรูปที่มีความใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดทั้ง 2 คำที่เราค้นหาขึ้นมา
จากนั้นถ้าหากเราอยากลงดีเทลมากยิ่งขึ้น เช่น เป็นมินิเดรสสีดำจากฝรั่งเศส
ก็สามารถเลือกฟิลเตอร์ภายใน Tagwalk ให้ช่วยคัดกรองเพิ่มเติมได้เช่นกัน
ก็สามารถเลือกฟิลเตอร์ภายใน Tagwalk ให้ช่วยคัดกรองเพิ่มเติมได้เช่นกัน
นอกจากการค้นหาไอเดียได้แล้ว Tagwalk ยังมีฟีเชอร์สร้าง Mood Board สำหรับดีไซเนอร์
ให้สามารถรวบรวมไอเดียที่หาใน Tagwalk แล้วดาวน์โหลดออกมาเป็นไฟล์ PDF ได้อีกด้วย
ให้สามารถรวบรวมไอเดียที่หาใน Tagwalk แล้วดาวน์โหลดออกมาเป็นไฟล์ PDF ได้อีกด้วย
และความง่ายดายนี้ ไม่ได้ส่งผลดีแค่กับดีไซเนอร์เท่านั้น แต่ยังช่วยในเรื่องการดูแนวโน้มของแฟชั่น
ที่ช่วยในการคาดการณ์เทรนด์ หรือแม้แต่การเข้ามาหาแรงบันดาลใจในการแต่งตัวก็ได้ เช่นกัน
ที่ช่วยในการคาดการณ์เทรนด์ หรือแม้แต่การเข้ามาหาแรงบันดาลใจในการแต่งตัวก็ได้ เช่นกัน
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะมีคำถามว่า Tagwalk มีรายได้จากช่องทางใดบ้าง
Tagwalk จะแบ่งการหารายได้ออกเป็น 4 ช่องทาง คือ
Tagwalk จะแบ่งการหารายได้ออกเป็น 4 ช่องทาง คือ
-ค่าเข้าร่วมเว็บไซต์สำหรับแบรนด์แฟชั่นขนาดเล็ก
โดยปกติแล้วรูปที่ปรากฏในการค้นหาบน Tagwalk จะมาจากการไปตามถ่ายรูปที่งานแฟชั่นโชว์ของแบรนด์
แต่สำหรับแบรนด์ที่ไม่ได้ใหญ่พอที่จะจัดงานแฟชั่นโชว์ได้ ก็สามารถจ่ายค่าแรกเข้า
เพื่อให้แบรนด์มีตัวตนบนแพลตฟอร์มได้
แต่สำหรับแบรนด์ที่ไม่ได้ใหญ่พอที่จะจัดงานแฟชั่นโชว์ได้ ก็สามารถจ่ายค่าแรกเข้า
เพื่อให้แบรนด์มีตัวตนบนแพลตฟอร์มได้
-ค่าคอมมิชชันจากการขายสินค้า
สำหรับคนที่เข้ามาหาไอเดีย แล้วเกิดสนใจสินค้า ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าผ่าน Tagwalk ได้เลย
โดย Tagwalk จะได้รับรายได้ เป็นส่วนแบ่งจากการขายสินค้าชิ้นนั้น ๆ
โดย Tagwalk จะได้รับรายได้ เป็นส่วนแบ่งจากการขายสินค้าชิ้นนั้น ๆ
-ค่าปรึกษาสำหรับแบรนด์แฟชั่นที่อยากขยายช่องทางสู่โลกออนไลน์
เนื่องจาก 91% ของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ เป็นคนที่ทำธุรกิจแบบ Business to Business
และตัวแพลตฟอร์มเองก็มีทั้งระบบในการค้นหา และขายสินค้าพร้อมอยู่แล้ว
และตัวแพลตฟอร์มเองก็มีทั้งระบบในการค้นหา และขายสินค้าพร้อมอยู่แล้ว
ทำให้ Tagwalk มีข้อมูลการค้นหาบนเว็บไซต์ รวมถึงข้อมูลการซื้อสินค้าของลูกค้า
ซึ่งข้อมูลตรงนี้ก็คือขุมทรัพย์สำคัญ ที่ทำให้ Tagwalk กลายมาเป็นผู้ให้คำแนะนำชั้นดีของแบรนด์อื่น ๆ
ซึ่งข้อมูลตรงนี้ก็คือขุมทรัพย์สำคัญ ที่ทำให้ Tagwalk กลายมาเป็นผู้ให้คำแนะนำชั้นดีของแบรนด์อื่น ๆ
-ค่าข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์
แม้ผู้ใช้งานบน Tagwalk จะมีราว ๆ 25,000 คน แต่ทุกคนล้วนเป็นผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมแฟชั่นโดยเฉพาะ ทำให้พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ เปรียบเสมือนกับขุมทรัพย์ สำหรับคนที่อยากเข้าใจอินไซต์ของวงการนี้
ปัจจุบัน Tagwalk ยังไม่มีการเปิดเผยถึงรายได้ที่ตัวแพลตฟอร์มทำได้
แต่มีการระบุถึงนักลงทุนที่ให้ความสนใจกับแพลตฟอร์มนี้ ได้แก่
คุณ Carmen Busquets นักลงทุน และบริษัท C Ventures
แต่มีการระบุถึงนักลงทุนที่ให้ความสนใจกับแพลตฟอร์มนี้ ได้แก่
คุณ Carmen Busquets นักลงทุน และบริษัท C Ventures
โดยคุณ Carmen Busquets เป็นนักลงทุนที่มีความสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมแฟชั่น
และบริษัท C Ventures ก็เน้นการลงทุนในธุรกิจ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่
และบริษัท C Ventures ก็เน้นการลงทุนในธุรกิจ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่
ที่น่าสนใจคือ คุณ Carmen Busquets เริ่มลงทุนกับ Tagwalk หลังจากบริษัทเปิดตัวได้เพียง 2 เดือน
โดยเธอมองว่า เมื่อนักออกแบบสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เยอะขึ้น ดีไซเนอร์ก็จะออกแบบได้ดีขึ้นด้วย
โดยเธอมองว่า เมื่อนักออกแบบสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เยอะขึ้น ดีไซเนอร์ก็จะออกแบบได้ดีขึ้นด้วย
แล้วเมื่อออกแบบได้ดีขึ้น สินค้าก็จะขายได้มากขึ้น และยังขยายตลาดได้มากขึ้น ช่วยให้อุตสาหกรรมในภาพรวมสามารถเติบโตตามไปด้วย
เรื่องราวของ Tagwalk จึงเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการทำธุรกิจในตลาดขนาดเล็ก
หรือ Niche Market ที่เลือกตอบโจทย์คนกลุ่มเล็ก ๆ แต่ตรงจุดประสงค์มากที่สุด
หรือ Niche Market ที่เลือกตอบโจทย์คนกลุ่มเล็ก ๆ แต่ตรงจุดประสงค์มากที่สุด
ซึ่งอาจจะดีกว่าการทำสินค้าที่ตอบโจทย์คนทุกคน
แต่กลับไม่มีลูกค้าที่แท้จริงเลยก็ได้..
แต่กลับไม่มีลูกค้าที่แท้จริงเลยก็ได้..