กรณีศึกษา BABYMONSTER กับกลยุทธ์ "เล่นกับใจคน" ของ ยาง ฮยอนซอก ประธานค่าย YG Entertainment
Business

กรณีศึกษา BABYMONSTER กับกลยุทธ์ "เล่นกับใจคน" ของ ยาง ฮยอนซอก ประธานค่าย YG Entertainment

30 มิ.ย. 2023
กรณีศึกษา BABYMONSTER กับกลยุทธ์ "เล่นกับใจคน" ของ ยาง ฮยอนซอก ประธานค่าย YG Entertainment /โดย ลงทุนเกิร์ล
สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักวง BABYMONSTER เกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่สัญชาติเกาหลีใต้ ที่กำลังรอวันเปิดตัว เพื่อแนะนำสมาชิกอย่างเป็นทางการ ในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้
ต้องบอกเลยว่า เกิร์ลกรุ๊ปวงนี้ ทางค่าย YG Entertainment ตั้งใจปั้นมาเป็นอย่างดี
จนในที่สุดก็ได้สมาชิกครบทั้ง 7 คน (Ruka, Pharita, Ahyeon, Haram, Rora, Chiquita, Asa)
ในฐานะวงเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นน้อง ของ 2NE1 และ BLACKPINK ซึ่งนับว่าเป็นเกิร์ลกรุ๊ปในรอบ 7 ปี ของค่าย YG เลยทีเดียว
เรื่องราวของ BABYMONSTER น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ถ้าวัดจากจำนวนสมาชิก จะสังเกตเห็นว่า BABYMONSTER มีจำนวนสมาชิก 7 คน ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ของเกิร์ลกรุ๊ปที่ค่าย YG เคยมีมาก่อน
เพราะจำนวนสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปที่ผ่านมาอย่าง 2NE1 และ BLACKPINK จะมีมากที่สุดแค่ 4 คน
ซึ่งเอกลักษณ์เกิร์ลกรุ๊ปของค่าย YG จะมีกลิ่นอายของความเป็นฮิปฮอปอยู่ใน DNA ของทุกวง
การที่วงเกิร์ลกรุ๊ปมีจำนวนสมาชิก 4 คน จะถือว่าอยู่ในระดับพอดี ๆ เพราะสามารถควบคุมแครักเตอร์ และภาพรวมของวงได้ง่ายกว่า
โดยปกติแล้วทั้ง 4 คน จะประกอบไปด้วย คนที่โดดเด่นในเรื่องรูปร่างหน้าตา หรือเป็นหน้าตาของวง (Visual), คนที่โดดเด่นในเรื่องการเต้น (Main Dance), คนที่โดดเด่นในเรื่องการร้อง (Main Vocal), คนที่โดดเด่นในเรื่องการแรป (Main Rapper) หรือบางคนอาจมีองค์ประกอบครบทุกข้อที่กล่าวมา
แต่ด้วยจำนวนสมาชิก 7 คน ของ BABYMONSTER นี้เอง ทำให้ประธานยาง ฮยอนซอก เจ้าของค่าย YG ต้องวางแผนสร้างฐานแฟนคลับให้สมาชิกแต่ละคน อย่างพิถีพิถันที่สุด ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดของวงการ K-POP
เพื่อให้มั่นใจว่า วง BABYMONSTER จะดังไกลระดับโลก เหมือนอย่างที่ BLACKPINK รุ่นพี่ของค่ายเคยทำไว้
เรื่องราวของ BABYMONSTER จึงเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายปี 2019..
ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่วง BLACKPINK กำลังโด่งดังแบบสุดขีด กลายเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
จนเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2019 ทางค่าย YG ได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ชื่อว่า BABYMONSTER
และหลังจากนั้นไม่นาน ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 ก็ได้มีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าอีกหนึ่งชื่อ นั่นก็คือ BAEMON
ถัดมาในช่วงปลายปี 2020 เริ่มมีข่าวลือว่าค่าย YG จะเดบิวต์เกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ ในช่วงต้นปี 2021
แต่สุดท้ายในปี 2021 การเดบิวต์ก็ไม่เกิดขึ้น และถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ จนล่วงเลยมาถึงปี 2022
และในระหว่างนั้น ก็ได้มีการเปลี่ยนไลน์อัปของเด็กฝึกที่จะได้เดบิวต์อยู่ตลอดเวลา
หนึ่งเหตุผลที่เลื่อนการเดบิวต์ วง BABYMONSTER ออกไปนานเป็นปี อาจเป็นไปได้ว่า การแข่งขันของวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี ที่กำลังดุเดือดในช่วงนั้น และเป็นช่วงเดียวกันกับที่มิวสิกวิดีโอเพลง Attention ของ NewJeans ออกสู่สายตาชาวโลกเป็นครั้งแรกในวันที่ 22 กรกฎาคม 2022
และได้มีการเดบิวต์อย่างเป็นทางการของวง NewJeans ในวันที่ 1 สิงหาคม 2022 ด้วยอัลบั้ม EP - NewJeans
โดย NewJeans เป็นเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่มาแรง ตั้งแต่เปิดตัว จากค่าย ADOR (All Doors One Room) ค่ายเพลงในเครือ HYBE เครือเดียวกับศิลปินชื่อดังอย่าง BTS และ LE SSERAFIM
จนในที่สุด เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2023 ค่าย YG ก็ได้ปล่อยวิดีโอตัวอย่างของวงเกิร์ลกรุ๊ปน้องใหม่ โดยยืนยันว่าจะใช้ชื่อ BABYMONSTER
แต่การเดบิวต์ของ BABYMONSTER ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น..
เพราะประธานยาง ฮยอนซอก ได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นว่า จะไม่เดบิวต์สมาชิกทั้ง 7 คน และอาจจะมีการคัดคนออกในภายหลัง ซึ่งจำนวนสมาชิกที่ชัดเจน ประธานยาง ฮยอนซอก ก็ยังไม่ได้มีในใจ
หลังจากนั้น YG ได้มีการปล่อยคลิป Live Performance รวมถึงคลิปวิดีโอสั้น Character Playlist ที่ทำให้เห็นความสามารถ และชีวิตประจำวันบางส่วนของสมาชิกแต่ละคน
และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้น ของ “กลยุทธ์เล่นกับใจคน” ของประธานยาง ฮยอนซอก..
จากการทยอยปล่อยคลิป Live Performance แนะนำสมาชิก ทักษะการเต้น การร้อง และการแรปของแต่ละคน
รวมถึงคลิปวิดีโอสั้น Character Playlist ทำให้เราค่อย ๆ ได้เห็นความสามารถ ความโดดเด่น และแครักเตอร์ของสมาชิกแต่ละคน
และยังได้เห็นถึงความยากลำบาก น้ำตา และรอยยิ้ม ของสมาชิกแต่ละคน กว่าที่จะผ่านด่านโจทย์ ที่ประธานยาง ฮยอนซอก มอบให้
วิธีการนี้เอง ในภาษาการตลาด เรียกว่า การสร้าง Storytelling ซึ่งก็คือการค่อย ๆ สร้างตัวตนของศิลปิน ให้ผู้ชมและแฟนคลับ ได้ซึมซับอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็น “ความผูกพัน”
แต่หลังจากประธานยาง ฮยอนซอก บอกว่าจะมีการคัดคนออก ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากแฟนคลับว่า หากไม่เดบิวต์สมาชิกทั้ง 7 คน ก็จะไม่ติดตามวง BABYMONSTER อีกต่อไป
ซึ่งหลาย ๆ สื่อ ก็วิเคราะห์กันว่า จริง ๆ แล้ว ประธานยาง ฮยอนซอก อาจตั้งใจเดบิวต์สมาชิกทั้ง 7 คนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เพราะไม่เช่นนั้น คงไม่ลงทุนปล่อยคลิปโปรโมตศิลปินแต่ละคนให้เสียเวลา แถมยังมีการตั้ง Stage Name หรือชื่อในวงการ ให้สมาชิกแต่ละคนด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานยาง ฮยอนซอก ไม่เคยทำมาก่อน
นอกจากนั้น อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ ประธานยาง ฮยอนซอก ตั้งใจที่จะปั้นวง BABYMONSTER ขึ้นมา เพื่อตีตลาดเพลงโกลบอล เช่นเดียวกับ BLACKPINK
โดยอาศัยการเลือกสมาชิกในวง ให้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ
ทำให้สมาชิกในวง ประกอบไปด้วย 3 สัญชาติ
1) Chiquita และ Pharita (สัญชาติไทย)
2) Asa และ Ruka (สัญชาติญี่ปุ่น)
3) Ahyeon, Haram และ Rora (สัญชาติเกาหลีใต้)
โดยปกติแล้วค่าย YG จะไม่ค่อยมีเด็กต่างชาติในวงเท่าไรนัก แต่นับตั้งแต่มีลิซ่า BLACKPINK ประธานยาง ฮยอนซอก ก็เริ่มที่จะเดบิวต์สมาชิกจากต่างประเทศ
และ BABYMONSTER ก็นับว่าเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปของค่าย YG ที่มีเด็กต่างชาติเยอะแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย
จากกลยุทธ์เล่นกับใจคน ของประธานยาง ฮยอนซอก ทำให้เราเห็นว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ BABYMONSTER ได้รับความสนใจอย่างมาก จากแฟนคลับทั่วโลก โดยช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของวง มีผู้ติดตามแล้วกว่า 2.95 ล้านคน และมียอดวิวมากกว่า 200 ล้านครั้ง
ซึ่งส่งผลดีกับภาพรวมของวง BABYMONSTER ไม่น้อย เพราะเมื่อใดที่คนอินกับเรื่องราวทั้งหมด และผูกพันกับน้อง ๆ ทั้ง 7 คนแล้ว ความเป็นแฟนคลับ ก็จะเหนียวแน่นขึ้นไปโดยปริยาย
แต่ความเสี่ยงที่ YG ต้องแบกรับ ก็มีอยู่เหมือนกัน..
จากจำนวนสมาชิก 7 คน ของ BABYMONSTER ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ที่ค่าย YG เคยมีมาก่อน ทำให้ค่ายต้องลงทุนมากเป็นพิเศษ ในการนำเสนอตัวตนของน้อง ๆ สมาชิกทั้ง 7 คน สู่สายตาคนทั้งโลก
หลาย ๆ คนอาจเกิดคำถามว่า วง BABYMONSTER ถูกปั้นมาเพื่อเป็นตัวแทนของค่าย ก่อนที่ YG จะหมดสัญญากับ BLACKPINK ในเดือนสิงหาคม ปี 2023 นี้ หรือเปล่า ?
เสียงที่เกิดขึ้น ก็มีหลายความคิดเห็น..
บริษัทหลักทรัพย์ NH Investment & Securities คาดการณ์ไว้ว่า BLACKPINK อาจต่อสัญญากับ YG อีกครั้ง
แต่สำนักข่าว Munhwa Ilbo รายงานว่า คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ YG จะทำให้สาว ๆ BLACKPINK ยอมต่อสัญญา
เพราะสมาชิกแต่ละคน ก็ได้รับข้อเสนอและจำนวนเงินมหาศาลจากค่ายเพลงอื่น ๆ ที่ติดต่อเข้ามาเช่นกัน
โดยข่าววงใน ระบุเพิ่มเติมว่า ลิซ่า ได้รับข้อเสนอกว่า 100,000 ล้านวอน (ราว 2,700 ล้านบาท) เพื่อเซ็นสัญญาเปลี่ยนค่ายเลยทีเดียว
สุดท้ายแล้ว วง BABYMONSTER จะถูกสร้างขึ้นมา เพื่อทดแทนการจากไปของวง BLACKPINK หรือไม่ ก็ไม่น่าจะใช่สาระสำคัญเท่าไรนัก
เพราะ “กลยุทธ์เล่นกับใจคน” ของ ของประธานยาง ฮยอนซอก น่าจะทำให้ วง BABYMONSTER ค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปอยู่ในใจแฟนคลับหลาย ๆ คน ได้สำเร็จแล้ว..
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.