Business
<อัปเดต> Hermès ยังคงเติบโต สวนทาง Louis Vuitton และ Gucci
26 ก.ค. 2024
<อัปเดต> Hermès ยังคงเติบโต สวนทาง Louis Vuitton และ Gucci
-หลังจากไม่กี่วันมานี้ บริษัทแบรนด์หรูต่างออกมารายงานว่ารายได้ไม่เติบโต กำไรลดลง จากตลาดแบรนด์หรูที่ซบเซา
นำโดย LVMH เจ้าของ Louis Vuitton กำไรลดลง 1 ใน 10
ต่อด้วย Kering เจ้าของ Gucci ที่กำไรหายไปครึ่งบริษัท ในช่วงครึ่งแรกของปี
ต่อด้วย Kering เจ้าของ Gucci ที่กำไรหายไปครึ่งบริษัท ในช่วงครึ่งแรกของปี
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Hermès เปิดเผยงบผลประกอบการประจำครึ่งปี 2024
-รายได้ 295,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12%
-กำไรสุทธิ 93,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%
-กำไรสุทธิ 93,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%
โดยแบ่งการเติบโต ของรายได้ตามภูมิภาคออกเป็น
-เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เพิ่มขึ้น 10%
-ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 22%
-สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 13%
-ยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศส) เพิ่มขึ้น 18%
-ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 15%
-ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 22%
-สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 13%
-ยุโรป (ไม่รวมฝรั่งเศส) เพิ่มขึ้น 18%
-ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 15%
จะเห็นได้ว่า Hermès สามารถเติบโตได้ทุกที่ในโลก ในขณะที่แบรนด์หรูอื่น ๆ รายได้หดตัวลงแทบทั้งหมด
และเติบโตสูงแค่ยอดขายในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ประโยชน์จากเงินเยนที่อ่อนค่าลง
และเติบโตสูงแค่ยอดขายในประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ประโยชน์จากเงินเยนที่อ่อนค่าลง
บริษัทรายงานว่าหลังเทศกาลตรุษจีน แม้จำนวนผู้เข้าชมของหน้าร้าน Hermès ในประเทศจีนจะลดลง แต่สาขาในประเทศอื่นกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เช่น Lee Gardens ในฮ่องกง และ Jio World Plaza ในมุมไบ
ยอดขายยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในญี่ปุ่นและยุโรป จากฐานลูกค้าเดิมที่ซื้อซ้ำ และลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว..
แล้วถ้าเทียบกัน ระหว่างหุ้น LVMH, Kering และ Hermès
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นอย่างไร ?
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เป็นอย่างไร ?
LVMH -19%
มูลค่าบริษัท 13.1 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 22 เท่า
มูลค่าบริษัท 13.1 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 22 เท่า
Kering -47%
มูลค่าบริษัท 1.4 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 11 เท่า
มูลค่าบริษัท 1.4 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E 11 เท่า
ในขณะที่ Hermès +8%
มูลค่าบริษัท 8.4 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E เกือบ 50 เท่า
มูลค่าบริษัท 8.4 ล้านล้านบาท ซื้อขายกันที่ P/E เกือบ 50 เท่า
ตรงนี้ก็น่าสนใจ ทั้ง 3 บริษัท ทำธุรกิจเดียวกัน
แถม Hermès ยังไม่ได้ครอบครองกิจการแบรนด์หรูมากมายเหมือนเครือ LVMH หรือ Kering
แถม Hermès ยังไม่ได้ครอบครองกิจการแบรนด์หรูมากมายเหมือนเครือ LVMH หรือ Kering
แต่ดูเหมือนว่าบริษัท จะสามารถรักษาภาพลักษณ์ และคุณภาพแบรนด์
จนลูกค้ากลับแย่งกันซื้อ และบางครั้งเตรียมเงินไว้เป็นแสน เป็นล้าน แต่ก็ยังไม่สามารถหาซื้อได้
จนลูกค้ากลับแย่งกันซื้อ และบางครั้งเตรียมเงินไว้เป็นแสน เป็นล้าน แต่ก็ยังไม่สามารถหาซื้อได้
ความเป็นแบรนด์ ความชัดระดับ Hermès ก็นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดี
ที่ทำให้เห็นว่าไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมไหน
อุตสาหกรรมนั้น จะได้รับผลกระทบอะไร
แต่ถ้าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้
ตลาดก็จะเห็น แบบ Hermès ที่ได้ตัวคูณจากกำไรเป็นมูลค่าบริษัท ต่างจากอีก 2 บริษัท หลายเท่าตัว..
อุตสาหกรรมนั้น จะได้รับผลกระทบอะไร
แต่ถ้าเราสามารถสร้างความแตกต่างได้
ตลาดก็จะเห็น แบบ Hermès ที่ได้ตัวคูณจากกำไรเป็นมูลค่าบริษัท ต่างจากอีก 2 บริษัท หลายเท่าตัว..
Reference
-ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2024 บริษัท Hermès International
-ผลประกอบการครึ่งปีแรก 2024 บริษัท Hermès International
Tag:HERMÈS