บริษัทโปรดักชันส์หนัง “Crazy Rich Asians” ซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้มา 35 บาท แต่โกยรายได้ 7,800 ล้านบาท
Business

บริษัทโปรดักชันส์หนัง “Crazy Rich Asians” ซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้มา 35 บาท แต่โกยรายได้ 7,800 ล้านบาท

16 มิ.ย. 2025
บริษัทโปรดักชันส์หนัง “Crazy Rich Asians” ซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้มา 35 บาท แต่โกยรายได้ 7,800 ล้านบาท /โดย ลงทุนเกิร์ล
รู้หรือไม่ว่า ตัวละครนางเอกของหนังเรื่อง Crazy Rich Asians เคยถูกเสนอให้เปลี่ยนสัญชาติ จากสาวเอเชีย-อเมริกัน ให้กลายเป็นคนขาว เพราะเชื่อว่าหนังจะขายได้ดีกว่า
แต่สุดท้าย Crazy Rich Asians กลายเป็นหนังฮอลลีวูดเรื่องแรกในรอบ 25 ปี ที่ใช้ทีมงานและนักแสดงหลัก เป็น “คนเอเชีย” ทั้งหมด และยังสร้างรายได้ถึง 7,800 ล้านบาทบน Box Office
นับว่าไม่บ่อยนัก ที่เราจะได้เห็นหนังที่เป็นคนเอเชียแสดงล้วน และประสบความสำเร็จไปทั่วโลก โดยเบื้องหลังความสำเร็จนี้ มาจากการที่นักเขียนเจ้าของเรื่อง ยอมทิ้งเงินก้อนโตจากนายทุนใหญ่
และเลือกขายสิทธิ์การสร้างให้กับ Color Force บริษัทโปรดักชันส์อิสระ ในราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 35 บาท แลกกับการที่ทำให้เขามั่นใจว่าหนังจะยังคงความเป็นเอเชียไว้
เรื่องราวเป็นมาอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Crazy Rich Asians คือหนังโรแมนติกคอเมดีระดับตำนานในปี 2018 ถ่ายทอดเรื่องราวของ “เรเชล ชู” สาวอเมริกันเชื้อสายจีน ที่มีชีวิตธรรมดา ๆ ทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยอยู่ที่นิวยอร์ก
แต่อยู่มาวันหนึ่ง แฟนหนุ่มอย่าง นิก ยัง ชวนเธอกลับไปบ้านเกิดที่สิงคโปร์ ก่อนจะพบว่าครอบครัวของเขาเป็นตระกูลอภิมหาเศรษฐี ซึ่งเธอต้องเจออุปสรรคมากมาย โดยเฉพาะแม่ของฝ่ายชายที่ไม่ค่อยต้อนรับเธอนัก
ซึ่งเรื่องนี้สร้างมาจากนิยายขายดีของคุณ Kevin Kwan นักเขียนชาวสิงคโปร์ ที่ต้องบอกว่าชีวิตของเขาก็มีส่วนคล้ายกับ “นิก ยัง” พระเอกของเรื่องอยู่พอสมควร
คุณ Kwan มาจากครอบครัวผู้ดีเก่าในสิงคโปร์ ปู่ของเขาเป็นจักษุแพทย์คนแรกของสิงคโปร์ที่เรียนจบการแพทย์แผนตะวันตก และได้รับพระราชทานยศอัศวินจากสมเด็จพระราชินีอังกฤษ
และหากย้อนไปอีกที่รุ่นปู่ทวดของเขา ก็เป็นผู้ร่วมก่อตั้งธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในสิงคโปร์ ทำให้คุณ Kwan ได้เห็นและสัมผัสกับชีวิตอันหรูหราในสิงคโปร์ตั้งแต่เกิด
ระหว่างอยู่ที่สิงคโปร์ คุณ Kwan ได้เห็นทั้งคนรวยใหม่ (New Money) คนรวยเก่า (Old Money) และความฟุ้งเฟ้อของคนรวยและคนชั้นสูงในสิงคโปร์ ก่อนที่เขาจะย้ายไปอยู่นิวยอร์กนานถึง 20 ปี
ในช่วงที่อยู่นิวยอร์กนี้เอง เขาได้สัมผัสกับชีวิตของคนชั้นสูงในนิวยอร์ก ซึ่งเขาพบว่ามันแทบไม่ได้ต่างกับกลุ่มคนชั้นสูงเก่าแก่ในสิงคโปร์เลย จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาเขียนนิยายเรื่องนี้
ในปี 2013 หนังสือเรื่อง “Crazy Rich Asians” ได้ออกวางขาย และหลังจากนั้นไม่นาน ก็กลายเป็นหนังสือขายดี ติดอันดับ Best Seller ทั่วโลก
คุณ Kwan จึงโดนรุมจีบด้วยข้อเสนอเงินก้อนโตมากมายจากค่ายในฮอลลีวูด ที่อยากซื้อลิขสิทธิ์เรื่องนี้ไปสร้างเป็นหนัง
แต่ท่ามกลางข้อเสนอมากมายที่เข้ามา คุณ Kwan จำได้ว่ามีโปรดิวเซอร์รายหนึ่ง เสนอให้เขาเปลี่ยนตัวละครนางเอก ซึ่งเดิมทีต้องเป็นชาวจีน-อเมริกัน ไปใช้นักแสดงผิวขาวแทน
โดยให้เหตุผลว่าวิธีนี้จะทำให้ภาพยนตร์เข้าถึงผู้ชมในวงกว้างและทำรายได้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งคำพูดนี้ทำให้คุณ Kwan ผิดหวังมาก เพราะมันขัดต่อเจตนารมณ์ของเขาที่ต้องการนำเสนอวัฒนธรรมและชีวิตของชาวเอเชีย
นอกจากนั้น เขายังได้ปฏิเสธเงินก้อนโตจาก Netflix ที่ต้องการให้หนังเรื่องนี้ไปฉายในสตรีมมิง เพราะต้องการให้คนทั่วโลก ได้เห็นคุณค่าของหนังเรื่องนี้ที่แสดงโดยชาวเอเชีย จนถึงต้องขับรถไปดูในโรงหนัง
หลังจากนั้น แม้จะมีสตูดิโอใหญ่ ๆ อย่าง Fox และ Lionsgate เข้ามาร่วมเสนอตัว แต่คุณ Kwan ก็ปฏิเสธไป
เหตุผลเพราะเขากลัวว่าหากให้สตูดิโอใหญ่ทำ หนังเรื่องนี้อาจจะถูกเปลี่ยนตัวละครเอกเป็นคนผิวขาว หรือไม่ก็ถูกปรับเปลี่ยนเนื้อหาจนสูญเสียแก่นแท้ของเรื่องราวและตัวตนของชาวเอเชียไป
สุดท้าย เขาตัดสินใจเลือกทำงานกับโปรดิวเซอร์ที่ไม่ได้มาจากสตูดิโอใหญ่ อย่างคุณ Nina Jacobson เจ้าของ Color Force บริษัทโปรดักชันส์อิสระในสหรัฐอเมริกา และขายลิขสิทธิ์เรื่องนี้ในราคา 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 35 บาท
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจนี้ มีเงื่อนไขว่า คุณ Kwan จะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมหากภาพยนตร์ได้สร้างจริง และที่สำคัญที่สุดคือเขาจะได้มีส่วนร่วมและสิทธิ์ในการพัฒนาหนังได้อย่างเต็มที่
แม้จะเป็นบริษัทที่ไม่ได้ใหญ่อย่างหลายเจ้าในฮอลลีวูด แต่คุณ Jacobson ก็เคยประสบความสำเร็จในการทำภาพยนตร์เรื่อง The Hunger Games ซึ่งทำเงินได้หลักหมื่นล้านบาท
และเธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนาเรื่อง Crazy Rich Asians ด้วยตัวเอง เพื่อรักษาการควบคุมทั้งหมดไว้
ก่อนที่จะนำไปเสนอให้กับสตูดิโอใหญ่ ๆ ได้ร่วมลงทุนด้วย จนในที่สุด Crazy Rich Asians ก็เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในปี 2018 โดยจัดจำหน่ายผ่าน Warner Bros. Pictures
ซึ่งหนังเรื่องนี้ใช้ทุนสร้างสูงถึง 980 ล้านบาท แต่ก็โกยรายได้ไปถึง 7,800 ล้านบาท นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวเอเชียที่อาศัยอยู่ทั่วโลก
และปิดท้ายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของคุณ Constance Wu ผู้ที่มารับบทนางเอกในเรื่องนี้
คุณ Constance Wu เป็นนักแสดงในฮอลลีวูดที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เธอเป็นผู้ที่ผ่านการออดิชันเพื่อรับบทเรเชล ชู นางเอกในเรื่อง แต่เธอก็เกือบไม่ได้แสดงเรื่องนี้ เพราะตารางถ่ายทำดันชนกับตารางถ่ายซีรีส์เดิมของเธอ
ด้วยความที่อยากรับบทนี้มาก คุณ Wu จึงส่งอีเมลถึงผู้กำกับภาพยนตร์โดยตรง เพื่ออธิบายความรู้สึกผูกพันที่เธอมีต่อตัวละครเรเชล
เธอบอกว่าหนังเรื่องนี้มีความหมายกับเธอมาก เพราะมันคล้ายกับชีวิตของเธอในฐานะนักแสดงชาวเอเชีย-อเมริกันในวงการฮอลลีวูด และเธออยากเป็นกระบอกเสียงให้กับเด็กผู้หญิงเอเชีย-อเมริกันทุกคน
โดยเธอไม่อยากให้เด็กผู้หญิงเหล่านั้น เติบโตมาพร้อมกับความรู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กในสังคม หรือต้องด้อยค่าตัวเองด้วยการรู้สึกขอบคุณเพียงแค่ได้รับโอกาสเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผู้อื่น
ซึ่งคุณ Jon Chu ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ประทับใจมาก จนยอมเลื่อนการผลิตหนังออกไป 4 เดือน เพื่อให้คุณ Wu ได้มาเป็นนางเอกของเรื่องนี้..
© 2025 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.