ทำไมเกม Stardew Valley ขายดีไม่มีแผ่ว ขายได้ 40,000,000 ชุด ทั้งที่เกมเก่าเกือบ 10 ปี /โดย ลงทุนเกิร์ล
“เกมที่แม้จะจ่ายเงินซื้อราคาเต็ม ก็ยังรู้สึกผิดต่อเจ้าของเกม”

นี่คือคำพูดที่เรามักจะได้ยินจากแฟน ๆ Stardew Valley เกมทำฟาร์มที่ภายนอกดูเรียบง่าย แต่กลับมีอะไรมากมายที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าคุ้มเกินราคา

แม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2016 และกำลังจะมีอายุครบ 10 ปีในไม่ช้า แต่ความนิยมของเกมนี้ก็ไม่ลดลงเลย โดยในปีที่ผ่านมา ก็ทำยอดขายได้ 10 ล้านชุด และยังไม่มีทีท่าว่าจะแผ่วลง

อะไรคือความน่าสนใจของเกมนี้ ที่ทำให้คนยังเล่นไม่เลิก ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Stardew Valley คือเกมที่เราจะได้ไปดูแลบ้านพร้อมที่ดินขนาดใหญ่ของคุณปู่ที่เสียชีวิตไป ในสถานที่ชื่อเดียวกับเกม หรือก็คือ Stardew Valley

ภายในเกม เราสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่ปลูกพืชผล เลี้ยงปศุสัตว์ เข้าเหมือง ตกปลา ประดิษฐ์สินค้า สู้กับมอนสเตอร์

ไปจนถึงการสร้างความสัมพันธ์กับชาวเมือง หาคู่แต่งงาน มีลูก โดยระหว่างที่เราทำกิจกรรมแต่ละอย่าง ก็จะมีเนื้อเรื่องหลักของชาวเมืองแต่ละคนสอดแทรกเข้ามาด้วย

ถึงตรงนี้ คงพอจะเห็นได้ว่า Stardew Valley ไม่ใช่แค่เกมทำฟาร์ม แต่มีฟังก์ชันและรูปแบบการเล่นหลากหลาย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลายคนติดเกมนี้จนลืมดูเวลาไปเลย

แต่เหตุผลที่ทำให้เกมยังอยู่มาได้เกือบ 10 ปี น่าสนใจยิ่งกว่านั้น

คนพัฒนาเกมไม่ท้อ คนเล่นก็ไม่ทิ้ง

แม้ว่าเกมนี้จะโด่งดังจากการเป็นเกมแนว Open World หรือเกมที่ให้อิสระเราในการทำทุกอย่าง ไม่ว่าเราจะอยากเป็นสายทำสวน สายแต่งฟาร์ม สายลงเหมือง หรืออะไรก็ตาม

แต่สิ่งที่ทำให้แฟน ๆ ว้าวจริง ๆ คือ ตลอดเกือบ 10 ปี เกมนี้มีการอัปเดตใหญ่ให้คนที่ซื้อเกมแล้ว ได้อัปเดตเนื้อหาใหม่ฟรีถึง 6 ครั้ง และทุกครั้งไม่ใช่แค่การอัปเดตธรรมดา ๆ

แต่ผู้เล่นจะได้เนื้อหาเสริมที่ทำใหม่ทั้งหมด เช่น ไอเทมใหม่ให้ตามล่า เกาะใหม่ให้ไปทำภารกิจ เทศกาลใหม่ สัตว์ใหม่ ตัวละครลับใหม่ ๆ และอื่น ๆ อีกเพียบ

ซึ่งใครที่เล่นเกมเป็นประจำ จะรู้เลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะเดิมทีเวลาผู้พัฒนาเกมจะเพิ่มเนื้อหาของเกมที่ขายไปแล้ว ก็จะมาในรูปแบบของการขายส่วนเสริม Downloadable Content หรือเรียกว่า DLC

นอกจาก Stardew Valley จะไม่เก็บค่า DLC แล้ว ไอเทมต่าง ๆ ในเกม หรือแม้แต่เสื้อผ้าของตัวละคร ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อเลยสักบาทเดียว

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เหล่าเกมเมอร์บอกว่า Stardew Valley คือเกมที่ต่อให้ซื้อราคาเต็มก็ยังรู้สึกผิด จนถึงขนาดขอให้เกมช่วยเก็บเงินพวกเขาเพิ่มสักครั้ง เพราะมันคุ้มเกินราคาแล้ว

รายได้มหาศาล จากเกมที่ขายในราคาหลักร้อย

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าเกมนี้ไม่เก็บเงินเพิ่มสักบาท แล้วเจ้าของเกมเอารายได้จากไหนมาพัฒนาเกม ?

ก็ต้องบอกว่า Stardew Valley เป็นเกมที่สร้างโดยนักพัฒนาเพียงคนเดียว คือคุณ Eric Barone หรือที่แฟน ๆ รู้จักในนาม ConcernedApe

เขาทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่เขียนโคด ออกแบบตัวละคร คิดเนื้อเรื่อง คิดบทสนทนา สร้างคัตซีนตัวละคร ทำเพลงประกอบ ฯลฯ โดยใช้เวลาทำวันละ 10 ชั่วโมง ติดต่อกันเป็นเวลานานกว่า 4 ปี

และเพียง 1 สัปดาห์ที่เกมนี้ปล่อยให้ดาวน์โหลดผ่านแพลตฟอร์มขายเกมอย่าง Steam ก็สร้างยอดขายไปกว่า 500,000 ชุด ก่อนจะขยับขึ้นเป็นหลักสิบล้านชุด

ส่งผลให้ 5 ปีต่อมาหลังเกมวางจำหน่าย คุณ Barone กลายเป็นมหาเศรษฐี Self-Made ที่มีมูลค่าทรัพย์สินแตะหลัก 1 พันล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย

ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นเศรษฐีไปแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหตุผลที่เขายังอัปเดตเกมไม่หยุด เพราะเขารักและผูกพันกับเกมนี้มาก

และอีกอย่างก็คือ ในตอนนี้เขาถือครองสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายเกมนี้เพียงผู้เดียว หลังจากเคยมีพาร์ตเนอร์ช่วยจัดจำหน่ายเกมช่วงแรก ๆ คือบริษัท Chucklefish

ซึ่งทุกครั้งที่มีการอัปเดตใหญ่ กระแสของเกมก็จะกลับมา ผู้เล่นหน้าใหม่ก็อยากเข้ามาลอง ส่วนผู้เล่นเก่าก็กลับมาเล่นซ้ำ จนปีล่าสุด Stardew Valley ก็ยังทำยอดขายได้อีก 10 ล้านชุด

พูดอีกอย่างก็คือ ในเมื่อยังมีคนซื้อเรื่อย ๆ เจ้าของเกมอย่างคุณ Barone ก็ยังทำกำไรจากการขายตัวเกมหลัก โดยไม่จำเป็นต้องขาย DLC เลย

Community ที่แข็งแกร่ง

สังเกตหรือไม่ว่า หลายธุรกิจที่อยู่รอดได้หลักสิบปี ล้วนมี Community หรือกลุ่มแฟนพันธุ์แท้ของแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งเกม Stardew Valley ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ปัจจุบัน เราจะยังเห็นคอนเทนต์เล่นเกมนี้ในโซเชียลมีเดียจากแฟนเกมอยู่เสมอ

ยกตัวอย่างเช่น ในกรุ๊ป Facebook ของแฟนเกมนี้ในประเทศไทยที่มียอดสมาชิกหลักแสนคน ก็ยังมีการพูดคุยอัปเดตกันตลอด เช่น

โพสต์ถามว่าภารกิจเหล่านี้ ทำอย่างไรจึงจะผ่านคลิปอวดฟาร์ม อวดบ้าน เพราะทุกคนสามารถตกแต่งได้อย่างอิสระให้ช่วยเลือกว่าควรจีบชาวเมืองคนไหนดี แต่ละคนมีข้อดี-ข้อเสีย ต่างกันอย่างไรการแบ่งปัน Mod (การดัดแปลงสิ่งต่าง ๆ ในเกม เช่นหน้าตาตัวละคร แผนที่ หรือหน้าตาไอเทม)ช่วยกันตามหา Easter Egg ในเกมที่คุณ Barone ซ่อนไว้มากมาย

ไม่เพียงแค่แฟน ๆ เท่านั้น ปัจจุบัน คุณ Barone ยังพูดคุยกับแฟนเกมของเขา และชี้แจงเรื่องต่าง ๆ ของเกมผ่านช่องทาง Reddit และ X เสมอ ๆ

และตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา Stardew Valley จากเกมที่เล่นได้คนเดียว ก็กลายเป็นเกมที่เล่นพร้อมกันในเซิร์ฟเดียวได้ แถมจะเล่นผ่านโทรศัพท์มือถือ Nintendo Switch หรือ PlayStation ก็ได้

ทำให้ผู้เล่นเดิมชวนเพื่อน ๆ หรือแฟนมาเล่นด้วยกัน ช่วยกันทำสวน ปลูกผัก ลงเหมือง และทำภารกิจด้วยกัน กลายเป็น Community ที่ใหญ่ขึ้นไปอีก

ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้ Stardew Valley กลายเป็นมากกว่าแค่เกม แต่เป็นบ้านหลังที่ 2 ในใจของผู้เล่นหลายคนทั่วโลก

และล่าสุด หลังการอัปเดตเวอร์ชัน 1.6 ที่ว่ากันว่าจะเป็นการอัปเดตครั้งสุดท้าย แฟน ๆ หลายคนก็เตรียมใจว่าคุณ Barone คงจะอำลาเกมนี้เพื่อไปทุ่มเทให้กับเกมใหม่ที่ชื่อว่า Haunted Chocolatier

แต่แล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาก็สร้างความประหลาดใจอีกครั้ง ด้วยการประกาศผ่าน X ว่าจะมีการอัปเดตเวอร์ชัน 1.7 ให้แฟน ๆ ได้เล่นเนื้อหาใหม่ฟรีอีกครั้ง

ซึ่งถ้าให้เดา เมื่อเวอร์ชันนี้ออกมา แฟน ๆ ก็ต้องเล่นกันต่อ ส่วนคุณ Barone ก็คงอิ่มใจ เพราะในอนาคต เขาจะได้อัปเดตเกมที่เขารักทั้ง 2 เกมควบคู่กันไปแน่นอน..

References :

Statista, เว็บไซต์ของแบรนด์