รู้จัก Touchland สเปรย์แอลกอฮอล์ ที่ขายได้ 30 ล้าน ในไม่กี่เดือน
Uncategorized

รู้จัก Touchland สเปรย์แอลกอฮอล์ ที่ขายได้ 30 ล้าน ในไม่กี่เดือน

14 ม.ค. 2021
รู้จัก Touchland สเปรย์แอลกอฮอล์ ที่ขายได้ 30 ล้าน ในไม่กี่เดือน /โดย ลงทุนเกิร์ล
หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และสเปรย์แอลกอฮอล์
สิ่งของเหล่านี้เป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้ในสถานการณ์โรคระบาด
และเมื่อมีความต้องการสินค้า จึงเกิดเป็นโอกาสทางธุรกิจ
ที่ดึงดูดให้หลายๆ คนเข้ามาร่วมเล่นในตลาดนี้

แล้วเราจะทำอย่างไรให้สินค้าของเราโดดเด่นจากคู่แข่ง?
วันนี้ลงทุนเกิร์ลจะพาไปรู้จักกับคุณ Andrea Lisbona
ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Touchland สเปรย์แอลกอฮอล์ จากสหรัฐอเมริกา
ซึ่งแค่ตอนที่เปิดตัวได้ไม่ถึงปี แต่กลับทำยอดขายไปได้มากกว่า 30 ล้านบาท

เรื่องราวของ Touchland ไม่ได้เริ่มต้นจากการเห็นโอกาสในวิกฤติโควิด 19 นี้
แต่เกิดขึ้นเพราะเป็น Passion ของคุณ Lisbona

โดยเธอมีจุดมุ่งหมายอยากพัฒนาสเปรย์แอลกอฮอล์ที่ทำให้คน “มีความสุข และ สุขภาพดีขึ้น”

จริงๆ แล้ว สเปรย์แอลกอฮอล์ ไม่ใช่สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่
แต่มีวางขายในประเทศสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปีแล้ว

โดยสินค้าส่วนใหญ่มักถูกผลิตขึ้นมาเพื่อรักษาสุขอนามัยเพียงอย่างเดียว
ทำให้มีแต่สูตรที่รุนแรง และผสมแอลกอฮอล์เข้มข้น
ซึ่งถ้านำมาใช้กับมือเราอย่างทุกวันนี้ ผิวก็จะขาดความชุ่มชื้นได้ แถมยังมีกลิ่นฉุนอีกด้วย

ตอนนั้น คุณ Lisbona ในวัย 24 ปี เคยทำงานในแผนกกระจายสินค้า ของบริษัทผลิตเจลล้างมือ
เธอจึงเข้าใจถึงปัญหาของลูกค้า ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นโอกาสทางธุรกิจได้

เธอจึงพัฒนา สเปรย์แอลกอฮอล์ที่ถนอมผิวให้ชุ่มชื้น และมีกลิ่นหอม
ด้วยจุดนี้เอง จึงทำให้แบรนด์ของเธอ แตกต่างจากคู่แข่งเดิมที่มีอยู่ในตลาด

และถึงแม้ว่าสินค้าของเธอจะขายในราคาที่ค่อนข้างสูงถึงหลักหลายร้อยบาทต่อชิ้น
แต่ถ้าเทียบกับเจลล้างมือทั่วไปที่มีอยู่ในตลาดในขณะนั้น
สเปรย์แอลกอฮอล์ กลับฉีดได้ถึง 500 ครั้ง ซึ่งใช้งานได้นานกว่าเจลล้างมือได้ประมาณ 20 เท่า

ดังนั้นสินค้าของคุณ Lisbona จึงกลายเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค
โดยเฉพาะในช่วงที่โควิด 19 ระบาด ยอดสั่งซื้อก็เข้ามาอย่างถล่มทลาย ผลิตกันแทบไม่ทัน
จนลูกค้าต้องสั่งจองสินค้าล่วงหน้ากันกว่า 34,000 ออร์เดอร์

อะไรคือจุดเด่นที่ทำให้ Touchland ขายดีขนาดนี้?

ด้วยความที่เธอมีประสบการณ์ และคลุกคลีในตลาดเจลล้างมือมาอยู่แล้ว
คุณ Lisbona จึงใช้ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ มาพัฒนาสินค้าให้มี “คุณภาพ” และ “ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน”

ซึ่งเรื่องนี้ เธอก็ได้ประโยชน์จากงานที่เคยทำในอดีต
ทำให้คุณ Lisbona รู้จักบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเจลแอลกอฮอล์โดยเฉพาะ
รวมทั้งยังสามารถพัฒนาสูตรที่เหมาะกับแบรนด์ของเธอ

นอกจากนั้นเธอยังทดลองสำรวจตลาดผ่านการนำสินค้าไประดมทุนจาก Kickstarter
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับให้คนที่มีไอเดีย มาโพสต์ผลงานของตัวเอง
เพื่อหาคนสนใจมาสนับสนุนเงินทุนให้

ผลปรากฏว่าสเปรย์แอลกอฮอล์ของคุณ Lisbona ก็ได้รับความสนใจจากคนจำนวนมาก
ระดมเงินมาได้กว่า 2 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าที่เธอตั้งเป้าหมายไว้เสียอีก

ดังนั้นเมื่อสินค้าเปิดตัวอย่างเป็นทางการ จึงไม่น่าแปลกใจว่าลูกค้าจะให้การตอบรับเป็นอย่างดี

“บรรจุภัณฑ์” ก็เป็นอีกเอกลักษณ์ของ Touchland ที่ทำให้แบรนด์แตกต่าง

ซึ่งจุดอ่อนของบรรจุภัณฑ์ทั่วไปก็คือ รูปร่างที่ไม่สวยงาม และดูเทอะทะ
ดังนั้นคุณ Lisbona จึงออกแบบให้บรรจุภัณฑ์ของ Touchland
มีรูปร่างที่สวยงาม ขนาดเหมาะมือ และพกพาสะดวก

และเมื่อประกอบกับลูกเล่นของตัวเจลแอลกอฮอล์ ที่มีสีสันสดใสและกลิ่นหอม
ทำให้เวลาลูกค้าได้สินค้ามา ก็มีคนที่อยากจะถ่ายรูปลงบนโซเชียลมีเดีย

ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นสิ่งที่เธอคิดเผื่อไว้แล้วสำหรับ “ด้านการตลาด”

โดยเธอเน้นการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ และอินฟลูเอนเซอร์ในการดึงดูดลูกค้า
ผ่านการถ่ายรูปสินค้าของเธอ ที่ดูโดดเด่นด้วยสีสันสวยงาม

อย่างสุดท้ายคือ การเรียนรู้ที่จะ “ปรับตัว” อย่างรวดเร็ว

ช่วงที่โควิด 19 เริ่มระบาดในแถบเอเชีย ฐานการผลิตหลักของ Touchland อยู่ที่จีน
ตอนนั้นคุณ Lisbona ก็คิดถึง Worst Case หรือเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด เอาไว้แล้ว
ซึ่งก็คือ การที่โรคระบาดแพร่มาสู่โซนยุโรป และอเมริกา

ดังนั้นเธอจึงย้ายฐานผลิตกลับมาที่สหรัฐอเมริกาทันที
เพราะเธอคิดว่ามันง่ายต่อการควบคุมการผลิตและการกระจายสินค้าตั้งแต่ต้นจนจบ

และก็ถือว่าการคาดการณ์ของเธอมาถูกทาง
เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ความต้องการเจลล้างมือ ก็เพิ่มขึ้นทวีคูณแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เรื่องนี้ทำให้เพียงไม่กี่สัปดาห์เธอก็สามารถขายสินค้าได้หลายแสนชิ้น
จนสินค้าในสต็อกถูกขายจนหมดอย่างรวดเร็ว และยังมียอดสั่งจองสินค้าอีกหลายหมื่นออร์เดอร์ด้วย

โดยเริ่มแรก Touchland เริ่มช่องทางการขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเอง และส่งเพียงแค่ในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนที่จะขยายตลาดสู่ทั่วโลก

แต่ปัจจุบัน Touchland ก็เริ่มจับมือกับแพลตฟอร์มอื่นๆ
เพื่อนำสินค้าของตัวเองไปวางขายบนนั้น เช่น Ulta, Urban Outfitters, Revolve และ Amazon

ซึ่งเรื่องนี้ คุณ Lisbona ก็ไม่ได้เพียงนำสินค้าไปวางเฉยๆ แต่ต้องมีการเตรียมความพร้อมด้วย

อย่างแรกคือ “การศึกษาข้อมูล” นอกเหนือจากข้อมูลในบริษัทของตัวเอง
โดยควรศึกษาแบรนด์คู่ค้าอย่างถ่องแท้ เพื่อเรียนรู้รายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ของแต่ละมาร์เกตเพลส

สร้าง “ความมั่นใจ” ให้คู่ค้า ว่ามีคุณภาพดีและเป็นที่ต้องการของตลาด
และสินค้าของเราจะสามารถขายได้ในช่องทางของเขา

ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณ Lisbona อยู่แล้ว
เพราะแม้ว่าปัจจุบันตลาดสเปรย์แอลกอฮอล์จะเติบโตขึ้นมาก และตามมาด้วยคู่แข่งทางการตลาด

แต่ด้วยประสบการณ์ในวงการนี้มามากกว่า 10 ปี
หมายความว่าเธอมีข้อมูลทางด้านการวิเคราะห์ตลาด การพัฒนาสูตร และจำนวนลูกค้าเก่าอยู่ในมือ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา และไม่สามารถทำได้ข้ามคืน

โดยเป้าหมายสุดท้ายที่คุณ Lisbona วางไว้ให้กับ Touchland ก็คือ
การเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืน โดยไม่ต้องอาศัยความความกลัวโรคระบาดของลูกค้าเท่านั้น

ดังนั้น Touchland จึงได้ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยไปสู่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่
โดยสร้าง “KUB” ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นเครื่องพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ ที่สามารถใช้ได้ทั้งที่บ้านและในบริษัท

และก็ถือว่าธุรกิจใหม่นี้ค่อนข้างประสบความสำเร็จไม่น้อย
เพราะตอนนี้ครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดก็ได้มากจากโมเดลนี้เอง

ซึ่งในอนาคตเธอก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าของเธอไปเรื่อยๆ
เพราะจุดประสงค์หลักของเธอคือ การผลิตสเปรย์ล้างมือที่ทุกคนขาดไม่ได้
และต้องใช้เป็นชีวิตประจำวัน แม้จะหมดวิกฤติโรคระบาดไปแล้วก็ตาม..

References:
-https://medium.com/authority-magazine/andrea-lisbona-of-touchland-why-you-should-not-let-success-get-to-your-head-or-let-failure-get-to-225e787ddd58
-https://touchland.com/pages/who-we-are
-https://www.modernretail.co/startups/hand-sanitizer-brand-touchland-has-built-a-10000-plus-waitlist-amidst-coronavirus-fears/
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.