จากศึกแข่ง ทำพ็อปคอร์น ในบ้าน สู่ Garrett Popcorn ของดีเมืองชิคาโก /โดย ลงทุนเกิร์ล

หากพูดถึง “Garrett Popcorn” หลายคนน่าจะจำกันได้ เมื่อ 8 ปีที่แล้ว..
ในวันแรกที่แบรนด์พ็อปคอร์นชื่อดังนี้ เปิดให้บริการสาขาแรกในไทย ที่สยามพารากอน

ซึ่งได้สร้างปรากฏการณ์ ลูกค้าต่อคิวซื้อยาวล้นออกมานอกห้าง
จนถึงขนาดที่ว่า เกิดอาชีพรับจ้างต่อคิวซื้อ Garrett Popcorn กันเลยทีเดียว

และเชื่อหรือไม่ว่า ตำนานความอร่อยของ Garrett Popcorn จากเมืองชิคาโกนี้
กลับมีจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ มาจากการแข่งขัน ท้าดวลกัน ภายในครอบครัวหนึ่ง..

เรื่องราวของ Garrett Popcorn น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของ Garrett Popcorn จริง ๆ แล้ว ถือกำเนิดขึ้นในเมืองมิลวอกี ประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยเกิดจากการเปิดศึกแข่งขัน ของสมาชิกในครอบครัว Garrett เพื่อหาว่าใครจะเป็นผู้คิดค้นสูตรพ็อปคอร์นคาราเมลได้อร่อยที่สุด

ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นี้ มันกลับหอมหวานไม่เหมือนใคร และดีเกินกว่าที่จะเก็บความอร่อยไว้ภายในครอบครัว

ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจเปิดร้านขายพ็อปคอร์นอย่างเป็นทางการ ชื่อว่า “Garrett Popcorn Shops” ย่านใจกลางเมืองชิคาโก ในปี 1949

ในช่วงแรก ทางร้านมีเพียงแค่ 4 รสชาติ คือ CaramelCrisp, CheeseCorn, Buttery และ Plain เท่านั้น ก่อนที่ 28 ปีต่อมา จะเกิดรสชาติซิกเนเชอร์อย่าง Garrett Mix หรือที่เรียกกันว่ารสชาติ “Chicago Mix”

ซึ่งใครจะคิดว่า รสชาติ Garrett Mix นี้ มีที่มาจากเหล่าลูกค้าของร้าน ที่มักจะสั่งพ็อปคอร์น รส CaramelCrisp และรส CheeseCorn อย่างละหนึ่งถุง จากนั้นขอถุงเปล่าใบที่สาม สำหรับเขย่าพ็อปคอร์นทั้งสองรสชาติเข้าด้วยกัน

เพื่อสร้างรสชาติที่กลมกล่อม จากความหวานกำลังดีของคาราเมล ตัดกับรสเค็มและความนัวของชีส กลายเป็นสูตรพ็อปคอร์นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มาจนถึงปัจจุบัน

และด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้น ก็ทำให้ครอบครัว Garrett เดินหน้าขยายสาขา Garrett Popcorn Shops ไปทั่วเมืองชิคาโก

จนมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ในปี 2002

เมื่อคุณโอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรผู้ทรงอิทธิพล ยกให้ Garrett Popcorn อยู่ในลิสต์ “Oprah's Favorite Things” หรือหนึ่งในสิ่งที่เธอโปรดปราน ผ่านทางรายการทอล์กโชว์ของเธอ

ซึ่งหลังจากรายการออกอากาศไป ก็ทำให้ Garrett Popcorn กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในชั่วข้ามคืน จนยอดขายในเดือนนั้น ทะยานเพิ่มขึ้นกว่า 100% รวมถึงต้องเพิ่มเวลาการผลิต จาก 8 ชั่วโมงต่อวัน เป็น 24 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้มีสินค้าเพียงพอ

ต่อมาในปี 2005 หรือ 3 ปีถัดมา Garrett Popcorn ก็ได้ถูกส่งต่อไปยังครอบครัว Chody ผู้ที่เข้ามาซื้อกิจการต่อ พร้อมสืบทอดสูตรลับความอร่อยของครอบครัว Garrett อย่างไม่เปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ ​ครอบครัว Chody ยังมีบทบาทอย่างมาก ในการขยายอาณาจักร Garrett Popcorn ไปทั่วโลก

โดยในปี 2009 พวกเขาได้ประเดิมเปิดสาขาแรกนอกประเทศ ที่สิงคโปร์และดูไบ ก่อนจะขยายสาขาไปกว่า 50 แห่งทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ที่เข้ามาตีตลาดในปี 2014

แล้วอะไรคือกุญแจสำคัญที่ทำให้ Garrett Popcorn ขยายสาขาไปได้ในระดับโลก ?

อย่างแรกคือ คุณภาพของสินค้า

เริ่มตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงสุด
ซึ่งแบรนด์เลือกใช้เมล็ดข้าวโพดเพียง 2 สายพันธุ์
ที่มีรูปทรง “ผีเสื้อ” และรูปทรง “เห็ด” เท่านั้น
เพราะรูปทรงดังกล่าว จะเกาะติดกับส่วนผสมได้ดีที่สุด

รวมถึงกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน อย่างการคั่วพ็อปคอร์นด้วยความร้อนตลอดทั้งวัน เพื่อคงความสดใหม่ และคลุกเคล้าในหม้อทองแดงด้วยไม้พาย โดยการทำด้วยมือเหมือนวิธีดั้งเดิมตั้งแต่ปี 1949

ประเด็นถัดมาคือ ภาพจำของแบรนด์

ไม่ว่าจะเป็น รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น รสชาติ CaramelCrisp ที่เกิดจากส่วนผสมของคาราเมล และแครมบรูว์เล จึงแตกต่างจากพ็อปคอร์นคาราเมลทั่วไปในท้องตลาด

รวมถึงบรรจุภัณฑ์ ทั้งถุงกระดาษ และถังอะลูมิเนียมสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นไอเทมที่สร้างภาพจำของแบรนด์

มากไปกว่านั้น ถังพ็อปคอร์นของแบรนด์ ยังมีดิไซน์เรียบหรู แตกต่างกันในแต่ละประเทศและเทศกาลต่าง ๆ ทำให้ Garrett Popcorn มีภาพจำเป็นของฝาก หรือของขวัญพรีเมียมที่มอบให้แก่กันอีกด้วย

อย่างในประเทศไทย ก่อนที่แบรนด์จะมาเปิดร้านอย่างเป็นทางการ Garrett Popcorn ก็เป็นหนึ่งในของฝากที่คนไทยมักจะหิ้วกลับมาจากประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย จนกลายเป็นที่พูดถึงอยู่ช่วงหนึ่ง

ส่วนประเด็นสุดท้ายคือ การปรับตัวเพื่อเข้าถึงลูกค้า

Garrett Popcorn พยายามอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าให้ได้มากที่สุดอยู่เสมอ ทั้งการสั่งซื้อทางไปรษณีย์, การเปิดตัวเว็บไซต์ออนไลน์มาตั้งแต่ปี 1993 และบริการ Drive-Thru (เฉพาะในสหรัฐอเมริกา)

มาจนถึงการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือทางการตลาด รวมถึงออกสินค้าใหม่ ๆ ในแต่ละช่วงเวลา เช่น วันคริสต์มาส, วันวาเลนไทน์ และวันฮาลโลวีน เพื่อสื่อสารและสร้างความเชื่อมโยงกับกลุ่มลูกค้า

อ่านมาถึงตรงนี้ เราจึงอาจสรุปเรื่องราวของ Garrett Popcorn ได้ว่า “สินค้าที่ดีจะขายตัวมันเอง”

จุดสำคัญคือ การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ และรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ แต่ก็ไม่จมอยู่กับความสำเร็จเดิม ๆ รวมถึงคอยปรับตัวเข้าหาลูกค้า ก็จะช่วยสร้างตราประทับในใจลูกค้า จนแปรเปลี่ยนเป็นความภักดีได้สำเร็จ

เหมือนอย่าง Garrett Popcorn ที่สามารถขายได้ด้วยตัวของมันเอง มาแล้วกว่า 73 ปี..

----------------------------------------------------------

กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”

https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA

----------------------------------------------------------

References:
-https://www.timeout.com/chicago/restaurants/how-garrett-popcorn-became-a-chicago-icon
-https://www.youtube.com/watch?v=KrmJJywFO3U
-https://www.insidehook.com/article/food-and-drink/how-chicago-style-popcorn-became-a-holiday-classic
-https://www.youtube.com/watch?v=VuY7uULf2Yk&t=10s
-https://www.cnbc.com/2009/05/08/The-Oprah-Effect.html
-https://www.garrettpopcorn.com/about-us-garrett/
-https://insideretail.asia/2014/02/04/popcorn-chain-hits-thailand/
-https://www.facebook.com/GarrettPopcornTH