<อัปเดต> Avatar ฉุดราคาหุ้น Disney ทำจุดต่ำสุดในรอบปี

เมื่อคืนนี้ ราคาหุ้น Disney ลดลงไปมากกว่า 4% และถือเป็นจุดที่ลงไปต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์ หรือในรอบปี

โดยตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นของ Disney ลดลงไปมากกว่า 40%
และแม้ว่า ราคาหุ้นจะมีการปรับตัวขึ้นหลังจากคุณบ็อบ ไอเกอร์​ ผู้ปลุกปั้น Disney กลับเข้ามารับตำแหน่ง CEO

แต่ล่าสุด การเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง Avatar: The Way of Water หลังจากการรอคอยนานถึง 13 ปี กลับทำให้นักลงทุนผิดหวัง

เพราะ Avatar ในภาคนี้ยังไม่ได้สร้างกระแสมากเท่าที่หวัง และยังทำเงินจากการเข้าฉายในทุกประเทศได้เพียง 15,404 ล้านบาท ซึ่งถือว่า ยังน้อย เมื่อเทียบกับสถิติที่ภาพยนตร์จากค่าย Marvel ทำไว้ อย่างเช่น Spider-Man: No Way Home ที่ทำรายได้ในสุดสัปดาห์แรกที่เปิดตัวได้ 20,958 ล้านบาท

ส่วนทางฝั่งสหรัฐฯ ที่หลายฝ่ายตั้งความคาดหวังไว้มาก
แต่หลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพยนตร์ Avatar ภาคนี้ ทำรายได้เพียง 4,680 ล้านบาท
ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะทำเงินได้ถึง 6,100 ล้านบาท

ในขณะที่ ทุนสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ก็อาจเป็นตัวเลขที่สูงจนน่าตกใจ

เพราะผู้กำกับอย่าง คุณเจมส์ คาเมรอน ได้เปิดเผยว่า “หากภาพยนตร์เรื่อง Avatar: The Way of Water จะเริ่มทำกำไรได้ มันจะต้องกลายเป็น ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 3 หรือ 4 ในประวัติศาสตร์” ซึ่งนี่หมายความว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องทำเงินให้ได้อย่างน้อยประมาณ 72,300 ล้านบาทเลยทีเดียว

ดังนั้น Avatar ในภาคนี้ จึงแบกความคาดหวังว่า จะต้องทำรายได้จำนวนมหาศาล หรือติดอันดับภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงตลอดกาล เหมือนอย่างที่ภาคแรกเคยทำสถิติไว้ได้

แต่อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายก็ยังมองว่า มันเร็วเกินไปที่จะตัดสิน

เนื่องจากตัวหนังได้รับคำชื่นชมจากผู้ชมและนักวิจารณ์เป็นอย่างดี
จนได้เรตติงถึง 4.7 ดาว จากผู้ชมที่เข้าไปให้คะแนนในเว็บไซต์ Rotten Tomatoes

ดังนั้น ตราบใดที่ยังไม่สิ้นเวลาฉายภาพยนตร์เรื่องนี้
ผลลัพธ์ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ และไม่แน่ว่า ต่อจากนี้ Avatar: The Way of Water ก็อาจเร่งขึ้นมาทำเงินก็เป็นได้..

References:
-https://www.cnbc.com/2022/12/19/disney-shares-fall-after-avatar-opening-weekend-comes-in-soft-.html
-https://time.com/6241639/avatar-2-costs-box-office/
-https://www.boxofficemojo.com/title/tt1630029/?ref_=bo_rl_t