ทำไม American Express ถึงชาร์จค่าธรรมเนียมแพง จนทำให้หลายร้านไม่อยากรับบัตร
Business

ทำไม American Express ถึงชาร์จค่าธรรมเนียมแพง จนทำให้หลายร้านไม่อยากรับบัตร

13 ก.พ. 2023
ทำไม American Express ถึงชาร์จค่าธรรมเนียมแพง จนทำให้หลายร้านไม่อยากรับบัตร /โดยลงทุนเกิร์ล
เคยเจอไหม ? เวลาจะจ่ายเงินตอนซื้อสินค้าหรือบริการ
ถ้าเราจ่ายด้วยบัตรเครดิต American Express ทางร้านมักจะไม่รับบัตร
ในขณะที่บัตรเครดิต Visa และ Mastercard ได้รับการยอมรับมากกว่า
เรื่องนี้กลายเป็นปัญหากวนใจ สำหรับคนที่ใช้บัตรเครดิต American Express
จนถึงขั้นมีคนไปตั้งกระทู้ถามในพันทิปว่า “ทำไมปัจจุบันบัตรเครดิต American Express แทบจะไม่มีร้านค้ารับ”
อะไรคือคำตอบของเรื่องนี้ ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง..
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจก่อนว่า การรูดบัตรเครดิต 1 ครั้ง มีใครที่เกี่ยวข้องกันบ้าง
1.ลูกค้าที่จ่ายเงิน
2.ร้านค้าที่รับเงิน
3.ธนาคารผู้ออกบัตรให้ลูกค้า
4.ธนาคารผู้รับบัตรของร้านค้า
5.ตัวกลางในการตัดเงินระหว่างธนาคารของลูกค้า และธนาคารของร้านค้า เช่น VISA, Mastercard และ American Express
ดังนั้น American Express ในฐานะตัวกลาง ก็จะได้รับเงินส่วนแบ่ง จากทุกยอดการใช้งานของบัตร
ซึ่งส่วนแบ่งที่ว่าก็คือ “ค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยน” (Interchange fee)
โดยปกติแล้ว ค่าธรรมเนียมเหล่านี้ จะถูกเรียกเก็บไม่เท่ากันในแต่ละตัวกลาง
โดยอัตราค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนล่าสุด (ปี 2022) เทียบกับ 3 ตัวกลางรายใหญ่ยอดนิยม จะพบว่า
-Visa มีอัตราค่าธรรมเนียม 1.4% – 2.5%
-Mastercard มีอัตราค่าธรรมเนียม 1.5% – 2.6%
-American Express มีอัตราค่าธรรมเนียม 2.3% – 3.5%
ซึ่งจากค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนนี้ อาจดูเหมือนไม่แตกต่างกันมากนัก
แต่การถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ในแต่ละครั้งของการรูดบัตร มันก็คือ “ต้นทุน” ที่เพิ่มขึ้นของร้านค้า
ซึ่งสำหรับร้านค้าหรือธุรกิจที่มีขนาดเล็กแล้ว ก็อาจส่งผลต่อกำไรในการดำเนินธุรกิจได้
มากไปกว่านั้น ความแตกต่างของประเภทบัตรเครดิตที่ลูกค้าใช้, จำนวนเงินที่ชำระ, ประเภทของร้านค้า และกระบวนการทำธุรกรรม โดยหากเป็นการชำระผ่านระบบออนไลน์ ก็จะมีค่าธรรมเนียมการแลกเปลี่ยนที่สูงกว่าอีกด้วย
ดังนั้น เมื่อ American Express มีช่องว่างของค่าธรรมเนียมส่วนนี้มากกว่าเจ้าอื่น ๆ จึงทำให้ร้านค้าเลือกที่จะให้บริการกับบัตรเครดิต Visa หรือ Mastercard มากกว่า นั่นเอง
คำถามที่ตามมาก็คือ ทำไม American Express ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าเจ้าอื่น ๆ ด้วย ?
เรื่องนี้เป็นเพราะโมเดลธุรกิจของ American Express ไม่เหมือนกับ Visa และ Mastercard
เนื่องจากทั้ง Visa และ Mastercard เป็นเพียงตัวกลางในการชำระเงินระหว่างธนาคารของลูกค้าและร้านค้าเท่านั้น และทั้ง 2 บริษัทนี้ก็ไม่ใช่คนที่ออกบัตรเครดิต หรือเสนอรางวัล รวมถึงสิทธิประโยชน์ใด ๆ ให้กับลูกค้า
นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมคนที่จะใช้บริการบัตรเครดิต Visa หรือ Mastercard ต้องไปออกบัตรเครดิตผ่าน ธนาคาร แทน
พอเป็นแบบนี้ Visa และ Mastercard จึงไม่ต้องลงทุนหรือลงแรงหาเพื่อลูกค้าเอง เพราะมีธนาคารที่ช่วยหาลูกค้าให้ รวมถึงไม่ต้องออกเงินให้ลูกค้า โดยให้เครดิตไปก่อน เหมือนกับธนาคารผู้ออกบัตร
ในขณะที่ American Express จะรับบทเป็นทั้งผู้ออกบัตรเอง เสนอสิทธิประโยชน์เอง และยังมีระบบการชำระเงินเป็นของตัวเองอีกด้วย
นี่เท่ากับว่าทาง American Express จะต้องเสียต้นทุนค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานมากกว่า Visa และ Mastercard
ดังนั้น เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ทาง American Express จึงจำเป็นที่จะต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้นตามไปด้วย นั่นเอง..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของ American Express ก็คือ วอร์เรน บัฟเฟตต์
ซึ่งเขาตัดสินใจเข้าลงทุนใน American Express ตั้งแต่เมื่อ 60 ปีที่แล้ว และในปัจจุบันก็ยังคงถือหุ้นตัวนี้อยู่ถึง 20.3%
-----------------------------------------------------------------------------
(ad)กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”
https://www.facebook.com/TANACHIRA-GROUP-174055739828807/
#TANACHIRA
-----------------------------------------------------------------------------
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.