ทำไม น้ำแร่เหมือนกัน แต่ต้องสร้างแบรนด์ ให้แตกต่างกัน ?
Marketing

ทำไม น้ำแร่เหมือนกัน แต่ต้องสร้างแบรนด์ ให้แตกต่างกัน ?

31 พ.ค. 2023
Purra x ลงทุนเกิร์ล
เคยสงสัยกันไหมว่า สินค้าที่เหมือนกันอย่าง น้ำแร่ ทำไมถึงมี “สาวก” หรือแฟนคลับของแบรนด์ ที่แตกต่างกัน
บางคนติดใจรสชาติน้ำของแบรนด์นั้น บางคนติดใจภาพลักษณ์ของแบรนด์นี้
สาเหตุก็เพราะ “ความแตกต่าง” ดังกล่าว สะท้อนตัวตนของผู้บริโภค หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ถูกจริต” กับผู้บริโภค นั่นเอง
แล้วการสร้างความแตกต่าง ให้เกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ อย่างเช่น “น้ำแร่” ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หนึ่งในเครื่องมือที่นิยมนำมาใช้ เรียกว่า Brand Positioning หรือ การวางตำแหน่งแบรนด์ ซึ่งเป็นการหาจุดยืนของแบรนด์ในตลาด
โดยจะเป็นการวิเคราะห์ เพื่อเปรียบเทียบจุดแข็ง ที่บ่งบอกถึงความแตกต่าง ระหว่างธุรกิจของเรา และผู้เล่นอื่น ๆ ในตลาดเดียวกัน
โดย Key Factors ที่ใช้วัดจุดเด่นของผลิตภัณฑ์น้ำแร่ ก็อย่างเช่น
- ความน่าเชื่อถือ (Reliable) เช่น มาตรฐานการรับรองต่าง ๆ
- การสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) เช่น ขวดลวดลาย Limited Edition
- การออกแบบ (Product Design) เช่น การออกแบบรูปทรงของขวด
- ภาพลักษณ์สินค้า (Image) เช่น แหล่งที่มาของน้ำแร่, โทนสีที่ใช้, พรีเซนเตอร์
กรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือ น้ำแร่เพอร์ร่า..
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า ความแตกต่างของน้ำแร่เพอร์ร่า คือ การวางจุดยืนของตัวเองเป็น “แบรนด์น้ำแร่แฟชั่น (Fashion Brand)” ที่มีการนำแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เข้ามาผสมผสานอยู่บนฉลากบรรจุภัณฑ์
โดยในแต่ละคอลเลคชั่นที่ทำออกมา จะมีความพิถีพิถันในการเลือกคอลแลบกับแบรนด์ดิไซเนอร์ไทย ศิลปิน และอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมดา ๆ กลายเป็นไอเทม “Limited Edition” หรือของสะสมที่มี “คุณค่า” ทางใจ
นับว่าเป็นการสร้างแบรนด์ ด้วยการเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับแพ็กเกจจิง ได้ในอีกมุมหนึ่งนั่นเอง
โดยตัวอย่างคอลเลคชั่นที่ผ่านมา ที่น้ำแร่เพอร์ร่า ตอกย้ำภาพความเป็นน้ำแร่แฟชั่นอย่างต่อเนื่อง เช่น
ได้จับมือกับดีไซเนอร์ชื่อดังสัญชาติไทย อย่าง ASAVA, IRADA, ISSUE, VATANIKA, POEM, Kloset ฯลฯ รวมถึงดีไซเนอร์ที่มีผลงานระดับโลกอย่าง จี๊ป – ภาสินี คงเดชะกุล และปอม ชาน (Pomme Chan) อีกด้วย ไม่เพียงแต่ศิลปิน ดีไซเนอร์ไทยเท่านั้น แต่เพอร์ร่ายังยกระดับแบรนด์ให้ดูมีความโกลบอลมากขึ้นด้วยการจับมือกับศิลปินระดับอินเตอร์อย่าง เจนนิเฟอร์ โบรอน Illustrator ชื่อดังชาวฝรั่งเศส มาร่วมออกแบบขวดน้ำแร่เพอร์ร่าในคอลเลคชั่นพิเศษด้วย
โดยการออกขวด Limited Collaboration ในคอลเลคชั่นต่างๆ ร่วมกับดีไซเนอร์ ศิลปิน และแบรนด์แฟชั่นระดับแนวหน้าที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำภาพความเป็น Fashion & Lifestyles Mineral Water Brand ของน้ำแร่เพอร์ร่า
นอกจากฉลากบรรจุภัณฑ์ จะถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์เพอร์ร่าได้ดีแล้ว
ในเรื่องของคุณภาพ น้ำแร่เพอร์ร่า ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานและคุณภาพผลิตภัณฑ์จากสถาบัน Aquacert ประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นน้ำแร่แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวของไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจากสถาบันดังกล่าว
รวมถึงการได้รับรางวัล Superior Taste Award ที่เป็นการการันตีในเรื่องของคุณภาพน้ำดื่มทุกหยดของแบรนด์เพอร์ร่าอีกด้วย
จากคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก การนำความโดดเด่นของศิลปะและแฟชั่นมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ และชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำแร่เพอร์ร่าประสบความสำเร็จ กลายเป็นแบรนด์น้ำดื่มสัญชาติไทย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จุดยืนของการเป็นแบรนด์น้ำแร่แฟชั่นของน้ำแร่เพอร์ร่า ยังคงถูกทำอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งเป็นที่น่าจับตาและติดตามกันต่อไปว่าน้ำแร่เพอร์ร่า จะสร้างความน่าตื่นเต้นอะไรให้ตลาดน้ำแร่อีกบ้าง เพื่อตอบรับ
เทรนด์แฟชั่นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
กรณีศึกษาของน้ำแร่เพอร์ร่า ให้ข้อคิดเราได้อย่างหนึ่งว่า
การเป็นผู้นำตลาด สิ่งที่จะต้องคำนึงเสมอ ก็คือเรื่อง “คุณภาพ” และ “ความแตกต่าง”
ซึ่งการจะหาความแตกต่างให้เจอในธุรกิจของเราได้นั้น สามารถใช้เครื่องมือ Brand Positioning ในการกำหนดจุดเด่นได้
แต่การจะทำให้จุดเด่นนั้น เกิดเป็นภาพจำซ้ำ ๆ จนซึมลึกเข้าไปในความรู้สึกของผู้บริโภค จะต้องอาศัย “ความต่อเนื่อง” ในการสื่อสาร และถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์ออกไปให้ผู้บริโภคได้รับรู้
Purra x ลงทุนเกิร์ล
เคยสงสัยกันไหมว่า สินค้าที่เหมือนกันอย่าง น้ำแร่ ทำไมถึงมี “สาวก” หรือแฟนคลับของแบรนด์ ที่แตกต่างกัน
บางคนติดใจรสชาติน้ำของแบรนด์นั้น บางคนติดใจภาพลักษณ์ของแบรนด์นี้
สาเหตุก็เพราะ “ความแตกต่าง” ดังกล่าว สะท้อนตัวตนของผู้บริโภค หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ถูกจริต” กับผู้บริโภค นั่นเอง
แล้วการสร้างความแตกต่าง ให้เกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ อย่างเช่น “น้ำแร่” ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หนึ่งในเครื่องมือที่นิยมนำมาใช้ เรียกว่า Brand Positioning หรือ การวางตำแหน่งแบรนด์ ซึ่งเป็นการหาจุดยืนของแบรนด์ในตลาด
โดยจะเป็นการวิเคราะห์ เพื่อเปรียบเทียบจุดแข็ง ที่บ่งบอกถึงความแตกต่าง ระหว่างธุรกิจของเรา และผู้เล่นอื่น ๆ ในตลาดเดียวกัน
โดย Key Factors ที่ใช้วัดจุดเด่นของผลิตภัณฑ์น้ำแร่ ก็อย่างเช่น
- ความน่าเชื่อถือ (Reliable) เช่น มาตรฐานการรับรองต่าง ๆ
- การสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) เช่น ขวดลวดลาย Limited Edition
- การออกแบบ (Product Design) เช่น การออกแบบรูปทรงของขวด
- ภาพลักษณ์สินค้า (Image) เช่น แหล่งที่มาของน้ำแร่, โทนสีที่ใช้, พรีเซนเตอร์
กรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือ น้ำแร่เพอร์ร่า..
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า ความแตกต่างของน้ำแร่เพอร์ร่า คือ การวางจุดยืนของตัวเองเป็น “แบรนด์น้ำแร่แฟชั่น (Fashion Brand)” ที่มีการนำแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เข้ามาผสมผสานอยู่บนฉลากบรรจุภัณฑ์
โดยในแต่ละคอลเลคชั่นที่ทำออกมา จะมีความพิถีพิถันในการเลือกคอลแลบกับแบรนด์ดิไซเนอร์ไทย ศิลปิน และอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมดา ๆ กลายเป็นไอเทม “Limited Edition” หรือของสะสมที่มี “คุณค่า” ทางใจ
นับว่าเป็นการสร้างแบรนด์ ด้วยการเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับแพ็กเกจจิง ได้ในอีกมุมหนึ่งนั่นเอง
โดยตัวอย่างคอลเลคชั่นที่ผ่านมา ที่น้ำแร่เพอร์ร่า ตอกย้ำภาพความเป็นน้ำแร่แฟชั่นอย่างต่อเนื่อง เช่น
ได้จับมือกับดีไซเนอร์ชื่อดังสัญชาติไทย อย่าง ASAVA, IRADA, ISSUE, VATANIKA, POEM, Kloset ฯลฯ รวมถึงดีไซเนอร์ที่มีผลงานระดับโลกอย่าง จี๊ป – ภาสินี คงเดชะกุล และปอม ชาน (Pomme Chan) อีกด้วย ไม่เพียงแต่ศิลปิน ดีไซเนอร์ไทยเท่านั้น แต่เพอร์ร่ายังยกระดับแบรนด์ให้ดูมีความ
โกลบอลมากขึ้นด้วยการจับมือกับศิลปินระดับอินเตอร์อย่าง เจนนิเฟอร์ โบรอน Illustrator ชื่อดังชาวฝรั่งเศส มาร่วมออกแบบขวดน้ำแร่เพอร์ร่าในคอลเลคชั่นพิเศษด้วย
โดยการออกขวด Limited Collaboration ในคอลเลคชั่นต่างๆ ร่วมกับดีไซเนอร์ ศิลปิน และแบรนด์แฟชั่นระดับแนวหน้าที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำภาพความเป็น Fashion & Lifestyles Mineral Water Brand ของน้ำแร่เพอร์ร่า
นอกจากฉลากบรรจุภัณฑ์ จะถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์เพอร์ร่าได้ดีแล้ว
ในเรื่องของคุณภาพ น้ำแร่เพอร์ร่า ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานและคุณภาพผลิตภัณฑ์จากสถาบัน Aquacert ประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นน้ำแร่แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวของไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจากสถาบันดังกล่าว
รวมถึงการได้รับรางวัล Superior Taste Award ที่เป็นการการันตีในเรื่องของคุณภาพน้ำดื่มทุกหยดของแบรนด์เพอร์ร่าอีกด้วย
จากคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก การนำความโดดเด่นของศิลปะและแฟชั่นมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ และชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำแร่เพอร์ร่าประสบความสำเร็จ กลายเป็นแบรนด์น้ำดื่มสัญชาติไทย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จุดยืนของการเป็นแบรนด์น้ำแร่แฟชั่นของน้ำแร่เพอร์ร่า ยังคงถูกทำอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งเป็นที่น่าจับตาและติดตามกันต่อไปว่าน้ำแร่เพอร์ร่า จะสร้างความน่าตื่นเต้นอะไรให้ตลาดน้ำแร่อีกบ้าง เพื่อตอบรับ
เทรนด์แฟชั่นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
กรณีศึกษาของน้ำแร่เพอร์ร่า ให้ข้อคิดเราได้อย่างหนึ่งว่า
การเป็นผู้นำตลาด สิ่งที่จะต้องคำนึงเสมอ ก็คือเรื่อง “คุณภาพ” และ “ความแตกต่าง”
ซึ่งการจะหาความแตกต่างให้เจอในธุรกิจของเราได้นั้น สามารถใช้เครื่องมือ Brand Positioning ในการกำหนดจุดเด่นได้
แต่การจะทำให้จุดเด่นนั้น เกิดเป็นภาพจำซ้ำ ๆ จนซึมลึกเข้าไปในความรู้สึกของผู้บริโภค จะต้องอาศัย “ความต่อเนื่อง” ในการสื่อสาร และถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์ออกไปให้ผู้บริโภคได้รับรู้
Purra x ลงทุนเกิร์ล
เคยสงสัยกันไหมว่า สินค้าที่เหมือนกันอย่าง น้ำแร่ ทำไมถึงมี “สาวก” หรือแฟนคลับของแบรนด์ ที่แตกต่างกัน
บางคนติดใจรสชาติน้ำของแบรนด์นั้น บางคนติดใจภาพลักษณ์ของแบรนด์นี้
สาเหตุก็เพราะ “ความแตกต่าง” ดังกล่าว สะท้อนตัวตนของผู้บริโภค หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ถูกจริต” กับผู้บริโภค นั่นเอง
แล้วการสร้างความแตกต่าง ให้เกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ อย่างเช่น “น้ำแร่” ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
หนึ่งในเครื่องมือที่นิยมนำมาใช้ เรียกว่า Brand Positioning หรือ การวางตำแหน่งแบรนด์ ซึ่งเป็นการหาจุดยืนของแบรนด์ในตลาด
โดยจะเป็นการวิเคราะห์ เพื่อเปรียบเทียบจุดแข็ง ที่บ่งบอกถึงความแตกต่าง ระหว่างธุรกิจของเรา และผู้เล่นอื่น ๆ ในตลาดเดียวกัน
โดย Key Factors ที่ใช้วัดจุดเด่นของผลิตภัณฑ์น้ำแร่ ก็อย่างเช่น
- ความน่าเชื่อถือ (Reliable) เช่น มาตรฐานการรับรองต่าง ๆ
- การสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) เช่น ขวดลวดลาย Limited Edition
- การออกแบบ (Product Design) เช่น การออกแบบรูปทรงของขวด
- ภาพลักษณ์สินค้า (Image) เช่น แหล่งที่มาของน้ำแร่, โทนสีที่ใช้, พรีเซนเตอร์
กรณีศึกษาที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือ น้ำแร่เพอร์ร่า..
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า ความแตกต่างของน้ำแร่เพอร์ร่า คือ การวางจุดยืนของตัวเองเป็น “แบรนด์น้ำแร่แฟชั่น (Fashion Brand)” ที่มีการนำแฟชั่นและไลฟ์สไตล์เข้ามาผสมผสานอยู่บนฉลากบรรจุภัณฑ์
โดยในแต่ละคอลเลคชั่นที่ทำออกมา จะมีความพิถีพิถันในการเลือกคอลแลบกับแบรนด์ดิไซเนอร์ไทย ศิลปิน และอินฟลูเอนเซอร์ ที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์น้ำแร่ธรรมดา ๆ กลายเป็นไอเทม “Limited Edition” หรือของสะสมที่มี “คุณค่า” ทางใจ
นับว่าเป็นการสร้างแบรนด์ ด้วยการเพิ่มมูลค่า (Value Added) ให้กับแพ็กเกจจิง ได้ในอีกมุมหนึ่งนั่นเอง
โดยตัวอย่างคอลเลคชั่นที่ผ่านมา ที่น้ำแร่เพอร์ร่า ตอกย้ำภาพความเป็นน้ำแร่แฟชั่นอย่างต่อเนื่อง เช่น
ได้จับมือกับดีไซเนอร์ชื่อดังสัญชาติไทย อย่าง ASAVA, IRADA, ISSUE, VATANIKA, POEM, Kloset ฯลฯ รวมถึงดีไซเนอร์ที่มีผลงานระดับโลกอย่าง จี๊ป – ภาสินี คงเดชะกุล และปอม ชาน (Pomme Chan) อีกด้วย ไม่เพียงแต่ศิลปิน ดีไซเนอร์ไทยเท่านั้น แต่เพอร์ร่ายังยกระดับแบรนด์ให้ดูมีความ
โกลบอลมากขึ้นด้วยการจับมือกับศิลปินระดับอินเตอร์อย่าง เจนนิเฟอร์ โบรอน Illustrator ชื่อดังชาวฝรั่งเศส มาร่วมออกแบบขวดน้ำแร่เพอร์ร่าในคอลเลคชั่นพิเศษด้วย
โดยการออกขวด Limited Collaboration ในคอลเลคชั่นต่างๆ ร่วมกับดีไซเนอร์ ศิลปิน และแบรนด์แฟชั่นระดับแนวหน้าที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ เพื่อตอกย้ำภาพความเป็น Fashion & Lifestyles Mineral Water Brand ของน้ำแร่เพอร์ร่า
นอกจากฉลากบรรจุภัณฑ์ จะถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์เพอร์ร่าได้ดีแล้ว
ในเรื่องของคุณภาพ น้ำแร่เพอร์ร่า ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานและคุณภาพผลิตภัณฑ์จากสถาบัน Aquacert ประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งเป็นน้ำแร่แบรนด์แรกและแบรนด์เดียวของไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกจากสถาบันดังกล่าว
รวมถึงการได้รับรางวัล Superior Taste Award ที่เป็นการการันตีในเรื่องของคุณภาพน้ำดื่มทุกหยดของแบรนด์เพอร์ร่าอีกด้วย
จากคุณภาพที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก การนำความโดดเด่นของศิลปะและแฟชั่นมาสร้างสรรค์เป็นลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ และชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำแร่เพอร์ร่าประสบความสำเร็จ กลายเป็นแบรนด์น้ำดื่มสัญชาติไทย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ
จุดยืนของการเป็นแบรนด์น้ำแร่แฟชั่นของน้ำแร่เพอร์ร่า ยังคงถูกทำอย่างต่อเนื่องต่อไป ซึ่งเป็นที่น่าจับตาและติดตามกันต่อไปว่าน้ำแร่เพอร์ร่า จะสร้างความน่าตื่นเต้นอะไรให้ตลาดน้ำแร่อีกบ้าง เพื่อตอบรับ
เทรนด์แฟชั่นและพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
กรณีศึกษาของน้ำแร่เพอร์ร่า ให้ข้อคิดเราได้อย่างหนึ่งว่า
การเป็นผู้นำตลาด สิ่งที่จะต้องคำนึงเสมอ ก็คือเรื่อง “คุณภาพ” และ “ความแตกต่าง”
ซึ่งการจะหาความแตกต่างให้เจอในธุรกิจของเราได้นั้น สามารถใช้เครื่องมือ Brand Positioning ในการกำหนดจุดเด่นได้
แต่การจะทำให้จุดเด่นนั้น เกิดเป็นภาพจำซ้ำ ๆ จนซึมลึกเข้าไปในความรู้สึกของผู้บริโภค จะต้องอาศัย “ความต่อเนื่อง” ในการสื่อสาร และถ่ายทอดความเป็นตัวตนของแบรนด์ออกไปให้ผู้บริโภคได้รับรู้
เหมือนอย่างน้ำแร่เพอร์ร่า ที่เมื่อคนนึกถึง “แบรนด์น้ำแร่แฟชั่น” ก็จะนึกถึงเพอร์ร่า นั่นเอง
© 2024 Longtungirl. All rights reserved. Privacy Policy.