
Business
รองเท้า Onitsuka กลายเป็นไอเทมที่ Gen Z ต้องซื้อ เมื่อไปญี่ปุ่น ดันยอดขายครึ่งปีพุ่ง 50%
10 พ.ย. 2025
รองเท้า Onitsuka กลายเป็นไอเทมที่ Gen Z ต้องซื้อ เมื่อไปญี่ปุ่น ดันยอดขายครึ่งปีพุ่ง 50% /โดย ลงทุนเกิร์ล
ถ้าถามว่าไปญี่ปุ่นตอนนี้ซื้ออะไรดี ?
หลายคนคงตอบว่าผงมัทฉะ ตุ๊กตา Monchhichi หรือกิ๊บติดผมคาแรกเตอร์ของแบรนด์ Sanrio
แต่ตอนนี้มีอีกหนึ่ง Must-Have Item ที่กำลังฮิตไม่แพ้กัน นั่นคือรองเท้า Onitsuka Tiger ที่กลายเป็นกระแส จนดันทั้งยอดขาย และราคาหุ้นบริษัทแม่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Onitsuka Tiger คือแบรนด์รองเท้าเก่าแก่สัญชาติญี่ปุ่น มีเอกลักษณ์อยู่ที่ลวดลาย 4 เส้นพาดไปมาข้างรองเท้า ที่เป็นรูปตะเกียบคีบหนวดปลาหมึก
ปัจจุบัน Onitsuka Tiger มีอายุ 76 ปี อยู่ภายใต้บริษัท ASICS เจ้าของแบรนด์รองเท้ากีฬา ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
แน่นอนว่าแบรนด์ที่อยู่มานานเกินครึ่งศตวรรษ ย่อมเคยผ่านทั้งช่วงเวลาที่พีกสุดและช่วงซบเซา ซึ่ง Onitsuka Tiger ก็ไม่ต่างกัน
ก่อนหน้านี้ ช่วงที่รองเท้าผ้าใบทรงหนา หรือรองเท้าทรงคุณปู่ได้รับความนิยม แบรนด์นี้อาจจะไม่ค่อยถูกพูดถึงนัก
แต่ตอนนี้ Onitsuka Tiger กลับมาเป็นที่นิยมอย่างถล่มทลายอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยว Gen Z ที่มักตามหารุ่น Mexico 66 รองเท้ารุ่นคลาสสิกในภาพยนตร์เรื่อง Kill Bill
ความนิยมนี้สะท้อนผ่านยอดขายของ Onitsuka Tiger ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025 ที่เกือบแตะ 14,000 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นักลงทุนจึงเริ่มจับตา ASICS บริษัทแม่ของ Onitsuka Tiger กันมากขึ้น หลังราคาหุ้นปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่นตลอดช่วงที่ผ่านมา
หากนับในรอบ 5 ปี ราคาหุ้น ASICS ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว มากถึง 1,004% หรือก็คือกลายเป็นหุ้น 10 เด้งแล้ว
ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำให้ Onitsuka Tiger กลับมาบูมอีกครั้ง ก็มาจากหลายปัจจัย
อย่างแรกคือ กระแสของรองเท้าผ้าใบทรงสลิมและพื้นแบน ที่ได้รับความนิยมตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้รองเท้ารุ่น Mexico 66 กลับมาบูมอีกครั้ง ตั้งแต่ปี 2022
ซึ่ง Mexico 66 ถูกพูดถึงว่าเป็นรองเท้าทางเลือกแทน Adidas Samba ที่หายากในตอนนั้น และเริ่มมีเซเลบริตีอย่าง Bella และ Gigi Hadid หยิบมาใส่ให้เห็นกันบ่อย ๆ
ด้วยดิไซน์ที่เรียบ เท่ พื้นบาง และมีให้เลือกหลายสี ทำให้ Mexico 66 กลายเป็นรองเท้าที่เข้ากับทุกสไตล์ได้ง่าย ไม่ว่าจะลุคไหนก็ดูดี
อีกประเด็นสำคัญ คือช่วงนี้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างมาก ทำให้การช็อปปิงในญี่ปุ่นคุ้มค่ากว่าที่เคย
นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันเผยว่า ราคาของ Onitsuka Tiger ในญี่ปุ่นถูกกว่าซื้อในสหรัฐฯ เกือบ 2 เท่า จึงไม่แปลกที่ร้านแฟล็กชิปของแบรนด์จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติแวะเวียนเข้ามาแทบตลอดทั้งวัน
เรื่องนี้ยังส่งผลให้สินค้าอีกหลายอย่าง ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น ของใช้ ของกิน หรือของฝากยอดนิยมต่าง ๆ
บรรยากาศนี้ ชวนให้นึกถึงช่วงมัทฉะฟีเวอร์ ที่ร้านขายผงมัทฉะในญี่ปุ่นถึงขั้น Sold Out แทบทุกแบรนด์ จนเกิดภาวะขาดแคลนมัทฉะกันเลยทีเดียว
เรียกได้ว่า วัฒนธรรมญี่ปุ่น กำลังขยายอิทธิพลออกไปอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในฝั่งตะวันออกและสหรัฐฯ ที่ผู้คนให้ความสนใจในเอกลักษณ์แบบญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยกระแสความสนใจเกี่ยวกับความเป็นญี่ปุ่นที่เติบโตขึ้น จึงน่าจับตาดูว่า ในอนาคตจะมีสินค้าอะไรจากญี่ปุ่นที่ก้าวขึ้นมาเป็นไอเทมฮิตชิ้นต่อไป หลังจากที่ Onitsuka Tiger ได้จุดกระแสความนิยมให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง..
References :
- Bloomberg, WWD, Vogue Business