รู้จัก Maria Grazia Chiuri ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์หญิง คนแรกของ Dior /โดย ลงทุนเกิร์ล

รู้หรือไม่คะว่า เบื้องหลังม่านแบรนด์ดังระดับโลกหลาย ๆ แบรนด์ก็มีดีไซเนอร์ “ผู้หญิง” เป็นผู้นำ

ไม่ว่าจะเป็นคุณ Sarah Burton ดีไซเนอร์มือฉมังผู้รับไม้ต่อจาก Alexander McQueen
หรือคุณ Virginie Viard ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Chanel แทนปู่คาร์ล

และยังมีอีกหนึ่งคนที่น่าสนใจ นั่นก็คือคุณ Maria Grazia Chiuri (มาเรีย กราเซีย คิอูรี)
ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่หญิงคนแรก ของแฟชั่นเฮาส์สุดหรูสัญชาติฝรั่งเศส อย่าง Dior ในปัจจุบัน

ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังมาพร้อมแนวคิดสตรีนิยม โดยใช้รันเวย์เป็นเวทีในการสื่อสารอีกด้วย

เรื่องราวของคุณ Maria Grazia Chiuri น่าสนใจอย่างไร ?
แล้วเส้นทางของหญิงเก่งท่านนี้ ก่อนจะก้าวเข้ามาร่วมงานกับ Dior เป็นอย่างไร ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นเรามาไล่เรียงไทม์ไลน์แบรนด์ Dior กันสักเล็กน้อย

Dior คือ หนึ่งในแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลก ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1946 โดยคุณ Christian Dior

อย่างไรก็ตาม เส้นทางความสำเร็จของแบรนด์ Dior กว่าที่จะยืนหยัดอยู่แถวหน้าถึงทุกวันนี้
นอกจากคุณ Christian Dior แล้ว ก็ต้องยกเครดิตให้กับ เหล่าผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์มากมาย ที่ผลัดมือเข้ามากุมบังเหียนของแบรนด์ เนื่องจากหลังแบรนด์ก่อตั้งมาได้เพียง 11 ปี คุณ Christian Dior ก็ได้จากโลกนี้ไปด้วยโรคหัวใจ

ตั้งแต่ คุณ Yves Saint Laurent, Marc Bohan, Gianfranco Ferré, John Galliano, Hedi Slimane, Kris Van Assche, Bill Gaytten, Raf Simons และ Serge Ruffieux ร่วมกับ Lucie Meier ในช่วงเวลาเดียวกัน

จนกระทั่งปี 2016 คุณ Maria Grazia Chiuri ก็ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์หญิงคนแรก และคนปัจจุบันของแบรนด์ Dior

ร่วมกับคุณ Kim Jones อีกหนึ่งผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ที่ดูแลฝั่งเสื้อผ้าผู้ชาย ซึ่งเข้ามาช่วยสมทบความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ ตั้งแต่ปี 2018 จวบจนปัจจุบัน

ซึ่งความน่าสนใจของเรื่องนี้อยู่ที่ คุณ Maria Grazia Chiuri ยังเป็นสุภาพสตรี ที่พลิกหน้าประวัติศาสตร์และสร้างทัศนคติบทใหม่ให้สาว Dior อีกด้วย

โดยคุณ Maria Grazia Chiuri เกิดเมื่อปี 1964 ที่โรม ประเทศอิตาลี

ช่วงวัยเด็ก หนูน้อย Maria Grazia Chiuri มักจะพูดคุยกับครอบครัว เกี่ยวกับความเท่าเทียมและสิทธิสตรี โดยเฉพาะแม่ของเธอ ที่เชื่อมั่นในความเท่าเทียมกันทางโอกาส ในโลกที่ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นผู้นำ รวมถึงสอนให้เธอรักและมีความมั่นใจในตัวเอง

หลังจากนั้น เธอก็ได้เข้าเรียนที่ Istituto Europeo di Design สถาบันสอนการออกแบบชื่อดังในอิตาลี

สำหรับเส้นทางแฟชั่นของคุณ Maria Grazia Chiuri นั้น เริ่มต้นขึ้นในปี 1989 ที่แบรนด์ Fendi

ในตอนนั้น เธอได้ทำงานร่วมกับคุณ Pierpaolo Piccioli และรังสรรค์ “Baguette” ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “IT Bag” หรือกระเป๋าที่ควรค่าแก่การครอบครอง ใบแรก ๆ ของโลก

ต่อมาในปี 1999 ทั้งสองก็ได้รับโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ Valentino ในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับ ซึ่งความสำเร็จก็ถูกส่งผ่านผลงานอันโดดเด่นของทั้งสอง จนได้รับเลือกให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ หรือ Creative Director ของแบรนด์ควบคู่กันไป ในปี 2008

โดยทั้งคู่ยังอยู่เบื้องหลังกระเป๋าและรองเท้า Rockstud คอลเลกชันดังที่ขับเคลื่อนแบรนด์ไประดับแนวหน้า

ซึ่งผลงานของพวกเขาก็ถูกอกถูกใจลูกค้า จนสามารถสร้างผลประกอบการทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 33,000 ล้านบาท ในปี 2015

จนกระทั่ง ในปี 2016 หลังจากเธอใช้เวลา 17 ปี ฉายแววอันโดดเด่นที่ Valentino
Dior ก็ได้ประกาศให้คุณ Maria Grazia Chiuri เป็นผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์คนใหม่

ซึ่งเธอยังเป็น “ผู้หญิงคนแรก” ที่ได้รับตำแหน่งนี้ ในประวัติศาสตร์ทำเนียบดีไซเนอร์ กว่า 7 ทศวรรษของแบรนด์อีกด้วย

และนับตั้งแต่คุณ Maria Grazia Chiuri นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Dior
เธอก็ได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นโบแดงร่วมกับแบรนด์ไว้มากมาย เช่น

“Dior Book Tote” กระเป๋าขนาดใหญ่ รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ที่เหมาะกับทุกเพศ และยังสามารถสั่งปักชื่อตัวเองบนกระเป๋าได้อีกด้วย ซึ่งกระเป๋ารุ่นนี้ก็โด่งดังเป็นพลุแตก กลายเป็น IT Bag ใบใหม่ในยุคนี้เลยทีเดียว“Vespa 946 Christian Dior” สกูตเตอร์จากการร่วมงานกันระหว่าง Dior กับ Vespa แบรนด์ยานยนต์สัญชาติอิตาลี ที่เรียกเสียงฮือฮาในโลกออนไลน์ ก็เป็นผลงานการออกแบบโดยคุณ Maria Grazia Chiuri

นอกจากไอเทมดังที่มาจากการรังสรรค์ของคุณ Maria Grazia Chiuri แล้ว
เธอยังได้ฟื้นฟูอัตลักษณ์ของแบรนด์ Dior ให้กลับมาทวงบัลลังก์ความนิยมในยุคของเธออีกด้วย

ตั้งแต่ “Oblique” ลวดลายโมโนแกรมเอกลักษณ์ของแบรนด์ ในลายตัวอักษรชื่อแบรนด์ จัดวางซ้อนกันแนวเฉียง ซึ่งลายนี้เกิดมาแล้วตั้งแต่ปี 1967 โดยคุณ Marc Bohan อดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Dior

ไปจนถึง IT Bag ในตำนานของแบรนด์อย่าง กระเป๋ารุ่น “Saddle Bag” หรือกระเป๋าทรงอานม้าที่สร้างภาพจำให้คนทั้งโลก จากผลงานคุณ John Galliano อดีตผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ Dior เช่นกัน

ซึ่งเธอก็ได้นำ Saddle Bag ที่เคยโด่งดังมากในช่วงปี 2000 ก่อนจะเงียบหายไปในปี 2007
กลับสู่รันเวย์ในรอบ 18 ปี ในคอลเลกชัน Fall/Winter 2018 และได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ เธอยังพา Dior ไปในทิศทางที่สะท้อนสังคมมากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับแนวคิดสตรีนิยม

ทั้งการทำแคมเปญ The Women Behind My Dress บอกเล่าเรื่องราวผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังชุดของ Dior ตั้งแต่ช่างเย็บผ้าไปจนถึงคนเขียนอักษรวิจิตร (Calligraphy)

รวมถึง การส่งนางแบบบนรันเวย์ในชุดเสื้อยืดที่มีข้อความว่า “We Should All Be Feminists” คอลเลกชัน Spring/Summer 2017 เพื่อสนับสนุนแนวคิดสิทธิสตรี, ความมั่นใจ และส่งต่อพลังให้ผู้หญิง

ส่งผลให้แฟชั่นโชว์ของ Dior ในปีนั้น เป็นหนึ่งในโชว์ที่ถูกจับตามองมากที่สุด อีกทั้งกลายเป็นผลงานที่เป็นที่พูดถึง และสร้างจุดยืนให้กับเธอในคราวเดียวกัน

ทำให้เราเห็นผลงานที่ย้ำชัดถึงทิศทางแนวคิดของเธอ หล่อหลอมกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ ตลอดมาถึงทุกวันนี้

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวที่น่าสนใจของคุณ Maria Grazia Chiuri ดีไซเนอร์หญิงมากฝีมือ
ที่เข้ามาขับเคลื่อนแบรนด์ด้วยนิยาม “สตรีนิยม” แห่งอาณาจักร Dior นั่นเอง..

References:
-https://www.nssmag.com/en/fashion/26583/dior-creative-directors
-https://www.businessoffashion.com/community/people/maria-grazia-chiuri
-https://www.lovehappensmag.com/blog/2019/01/22/maria-grazia-chiuri/
-https://www.theguardian.com/fashion/2017/mar/18/maria-grazia-chiuri-fashion-feminism-fight-for-ideas
-https://www.lyst.com/data/the-lyst-index/q321/
-https://www.vogue.co.th/fashion/article/dior10bagsmusthave